เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 77

ไม่กี่วันต่อมา นอกจากจะหาเวลาว่างสองชั่วโมงต่อวันเพื่อให้คำแนะนำซ่งหลิงเอ๋อร์ในการฝึกฝนหมัดเจ็ดประการแล้ว เเขาไม่รอช้าในการกลั่นเม็ดยา

เขากลั่นเป็นหลายร้อยครั้งถึงจะสำเร็จเป็นเม็ด การทำงานหนักไม่เคยทรยศคนที่ตั้งใจจริงๆ

ผลการกลั่นรอบแรกของเม็ดเพลเลตออกมาได้ดี ในที่สุดก็สามารถปล่อยออกจนได้ แต่ต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเพิ่มอัตราการใช้สมุนไพรให้มากที่สุด ยังไงก็เป็นต้นทุนอยู่แล้ว

ทางด้านเหยาเสิน ภายใต้ความช่วยเหลือจากผู้ช่วยที่เซวซื่อไห่ส่งมาให้และร่วมถึงเครือข่ายของเซวซื่อไห่ ทำให้ขั้นตอนส่วนใหญ่เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว

ช่างเทคนิคจากโรงงานเก่า เหยาเสินพยายามดึกพวกเขากลับมาได้บ้างคนแล้ว

รอซ่อมแซมอุปกรณ์ในโรงงานให้เสร็จทั้งหมดแล้วคนงานครบก็สามารถเริ่มงานได้ทันที

โรงงานใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าเหยาเสินต้องการคนที่ไว้ใจได้สักสองสามคน หล่อนจึงรับผู้ช่วยม่ายเวย์ฉินและเพื่อนร่วมงานบางคนที่เคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวตอนที่อยู่บริษัทยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลมาทำงานด้วยกัน แม้ว่างานที่พวกเขาทำจะไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์เลยก็ต่าม แต่งานด้านธุรการก็มากพอแล้ว

ส่วนเรื่องทีมการขายคงต้องรับสมัครใหม่จากช่องทางอื่นๆ

ในตอนนนั้นบริษัทเดิมค้างจ่ายเงินเดือนให้กับทีมการขายมากกว่าครึ่งปี ตอนนี้ก็ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วที่บริษัทประกาศล้มละลาย คนส่วนใหญ่ก็ได้งานใหม่ทำกันหมดแล้ว

นอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้วแบรนด์ยาในปัจจุบันมักถูกผูกขาดโดยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงบางแห่งในประเทศ อัตราการยอมรับผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นไม่สูง ทำให้ไปหนักต้องทำงานหนัก พวกเขาจึงไม่อยากกลับมา

ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือนแล้ว อากาศเริ่มหนาวเย็น และเซียวชุ่นไม่ได้สวมแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวอีกไปตลอด เขาสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำเพิ่ม

เซียวชุ่นผลักประตูเข้าไปในออฟฟิศของผู้จัดการสตาร์ไลท์บีโอ เขาเข้าไปพร้อมกับถือปิ่นโตเก็บความร้อนไปด้วย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ประธานเหยายุ่งอะไรอยู่เหรอ?”

เหยาเสินเหลือกตาแล้วพูดด้วยอารมณ์ว่า: “ประธานเซียวมากำกับฉันทำงานเหรอ?”

“แม่คุณต้มซุปฝากผมให้เอามาให้คุณ มากินสักหน่อยสิ”

เซียวชุ่นวางปิ่นโตเก็บความร้อนไว้บนโต๊ะชาบริเวณแผนกต้อนรับด้านข้างๆในออฟฟิศ เขาหยิบชามใบเล็กๆออกมาเทซุปใส่ชามแล้วเรียกหล่อน

เหยาเสินตะลึงเล็กน้อย เมื่อก่อนเซียวชุ่นพูดว่าแม่ของหล่อนอย่างโน้นอย่างนี้ แต่หล่อนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอได้ตอนนี้กลับรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างหลิวหยุนเซียงกับเซียวชุ่นจะคลี่คลายลงไปบ้างแล้ว แต่จะให้เปลี่ยนคำพูดในระยะเวลาอันสั้นคงยากที่หลีกเลี่ยง

หล่อนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยจริงๆ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วเดินไปดื่มไม่กี่อึก

เซียวชุ่นมองสีหน้าหล่อนที่อมทุกข์ จึงถามว่า: “เป็นอะไรเหรอ มีเรื่องอะไรที่ไม่ราบรื่นหรือเปล่า?”

“ตอนนี้โรงงานรับสมัครคนงานชุดใหม่ บริหารไม่ง่ายเลย วุ่นวายกันไปหมด และยิ่งไปกว่านั้นข้าวของชอบหายบ่อยๆ เธอก็รู้ว่าฉันเคยบริหารแต่บริษัทเล็กๆอย่างยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนล แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้บริหารคนเยอะขนาดนี้ ฉันรู้สึกเหนือบ่ากว่าแรง”

เหยาเสินถอนหายใจ

“ทุกสิ่งเริ่มต้นด้วยความยากเสมอ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อย่ากดดันตัวเองมากนัก

เซียวชุ่นให้กำลังใจคนไม่เก่ง และไม่รู้จะพูดอะไร

แต่เมื่อพูดถึงของที่ทำหาย เขาก็นึกถึงมังกรสามทันที ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ติดต่อหาเขาเลยไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนั้นเคยตกลงกันว่าจะให้เขามาช่วยงาน

เหยาเสินยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยล้า แล้วพูดว่า: “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ทำให้ประธานเซียวผิดหวัง”

เซียวชุ่นโทรหามังกรสามหลังจากที่ออกจากออฟฟิศของเหยาเสิน แต่ไม่มีคนรับสาย ความรู้สึกบ่งบอกว่าอาจจะเกิดเรื่องกับเขา

ตอนนั้นเขาเคยทิ้งที่อยู่ไว้ เซียวชุ่นจึงนั่งแท็กซี่ตรงไปยังเขตที่มังกรสามอาศัยอยู่

คอนโดฟู๋หวาชวงซิงเป็นชุมชนโบราณในยุค90แห่งหนึ่ง มีโครงสร้างแบบทรงกระบอก เนื่องจากเวลาผ่านเนินนาน ผนังด้านนอกของอาคารจึงมีแต่เชื้อราดำ รั้วและกรงเหล็กหน้าต่างก็ขึ้นสนิมหมดแล้ว

บันไดที่แคบและเก่านั้นถูกเขียนเต็มไปด้วยความผันผวนตามอายุ

เซียวชุ่นมาทันเวลามีคนจัดงานแต่งพอดี รถหรูจอดเรียงกันยาวเหยียดอยู่หน้าชุมชนที่เก่าแก่และทรุดโทรม ซึ่งค่อนข้างกะทันหัน

“เพื่อน” เซียวชุ่นพูดแทรกเข้ามา

“แม่ของเธอเป็น…?”

“โรคยูรีเมียที่ไม่มีทางรักษา ต้องปลูกถ่ายไตเท่านั้นถึงจะหาย” มังกรสามรินน้ำให้เซียวชุ่น “พี่เซียวนั่งก่อนสิ”

“ลูกสาม แกไปต่อสู้กับคนอื่นมาอีกแล้วใช่ไหม? แม่เคยบอกแล้วไงว่าถ้าไม่มีเงิน แม่ก็จะไม่รักษา ยังไงก็อยู่ได้อีกไม่กี่ปี จะใช้เงินสกปรกอย่างนั้นทำไม ถ้าลูกเป็นอะไรไป แล้วเสือน้อยจะอยู่ยังไง?”

หญิงชราใช้เรี่ยวแรงพยายามเงยหน้าขึ้นดุอย่างอ่อนแรง โดยไม่สนใจว่ามีแขก

“แม่ครับ ผมไม่เป็นอะไร ผมกลับมาแล้วนี่ไง ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” มังกรสามตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“แล้วหน้าเธอไปโดนอะไรมา?” เซียนชุ่นถาม

มังกรสามสัมผัสหน้าผากที่หมองมัวของเขาโดยไม่รู้ตัว ปากของเขากระตุกสั่น และเล่าเรื่องโชคร้ายที่เขาพบเจอให้เซียวชุ่นฟัง

ตั้งแต่ต่อต้านเจิ้งหย่งจางในตอนนั้น เขาก็ถูกลูกน้องของเจิ้งหย่งจางไล่ฆ่ามาตลอด ทำได้เพียงหลบซ่อนไม่ให้ใครเห็น

แต่เดิมเขามีภรรยาที่เคยเป็นสาวอยู่บนเวทีมาก่อน ในช่วงไม่กี่ปีที่อยู่กับเขาถือว่าเข้ากันได้ดีและหล่อนก็มีลูกให้เขาชื่อเสือน้อย

หลังจากที่เขาหมดอำนาจ หล่อนก็กวาดทรัพย์สินไปเกือบหมด นอกจากนี้เรื่องที่เขาได้รับโทษก็เพราะเจิ้งหย่งจาง ไม่มีใครกล้าใช้งานเขาเลย แต่เดิมที่ไม่ค่อยมีคนติดตามเขาอยู่แล้ว ไม่นานก็เหลือเขาตัวคนเดียว

โรคของแม่มังกรสามจำเป็นต้องรับการฟอกไต แต่เขาไม่สามารถแบกภาระค่าใช้จ่ายที่แพงได้อีกแล้ว เขาไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงไปแข็งขันที่แท่นบู๊เงามืดเพื่อหารายได้

“ไม่มีเงิน ทำไมไม่บอกฉันหล่ะ?”

เซียวชุ่นพูด อย่างไรก็ตามเป็นเพราะมังกรสามช่วยตัวเองไว้ก็เลยมาถึงจุดๆนี้ มันก็สมเหตุสมผลแล้ว เพียงแค่เขาเอ่ยปาก เขาก็จะช่วยเหลือ

“ ชีวิตไร้สาระอย่างผม อีกทั้งเรื่องนี้ก็ไม่ได้ใหญ่หนักหนาอะไร ผมแก้ไขเองได้” มังกรสามยิ้มอย่างแยกเขี้ยวยิงฟัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊