เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook) นิยาย บท 123

จังเสี่ยวลิ่งทำหน้าเลิ่กลั่ก นางงุนงงในสิ่งที่สตรีทั้งสองพูดคุยกันยิ่งนัก จู่ๆ เหตุใดสตรีที่เพิ่งเข้ามาผู้นี้จึงอยากได้นางไปเป็นบุตรบุญธรรมนักเล่า? แต่เท่าที่จับความได้เหมือนกับบุตรีของนางหายตัวไป...นางเห็นว่าตนหน้าคล้ายนางจึงชมชอบ!

“ดูสิท่านพี่หลี่ พวกเราทำเอาเสี่ยวลิ่งตกใจเสียแล้ว”

โฉวฮูหยินยกมือขึ้นตบบ่าของเสี่ยวลิ่งเบาๆ “ท่านผู้นี้คือหงฮูหยิน ภรรยาของรองแม่ทัพมู่ปิ่นซูที่กำลังจะไปประจำการในค่ายพยัคฆ์เหิน นางกำลังตามหาบุตรสาวที่หายไปหลายสิบปี เจ้ามีส่วนคล้ายนางในตอนสาวๆ จึงได้ต้องการเจ้าไปเป็นบุตรบุญธรรม”

หงฉู่เย่พยักหน้ารับ...ท่านพี่หลี่ช่างฉลาดนัก นางไม่ยอมบอกรายละเอียดของเรื่องที่เคยคุยกันส่วนตัวให้เสี่ยวลิ่งได้ทราบ...เมื่ออนุญาตให้เสี่ยวลิ่งกลับจวนตระกูลจ้าวได้ โฉวฮูหยินจึงเรียกให้พ่อบ้านนำตัวคู่หมั้นของบุตรชายขึ้นรถม้ากลับ

“ข้าเองก็อยากจะให้เจ้าได้เจอบุตรสาวตัวจริง หากเราบอกรายละเอียดนางไปจนหมด ข้ากลัวว่าจะมีคนสวมรอยมาเป็นบุตรสาวเจ้า ความลับยิ่งรู้น้อยคนก็ยิ่งดี”

“เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านพี่หลี่มากที่ช่วยระวังแทนข้า”

“เจ้าคิดจะกลับไปปรึกษารองแม่ทัพมู่ก่อนหรือไม่?”

หงฮูหยินไม่กล้าบอกเรื่องนี้ให้สามีทราบ ความผิดหวังสิบกว่าครั้งที่สองสามีภรรยาได้รับกลายเป็นบาดแผลในใจเหวอะหวะ นางอยากจะสืบให้แน่ใจเสียก่อน หากจังเสี่ยวลิ่งเป็นบุตรีที่หายไปจริงๆ ก็จะกลายเป็นข่าวดีที่สร้างความสุขให้กับสามีผู้ทุกข์ใจมาเนิ่นนาน แต่หากไม่ใช่ก็แค่นำตัวจังเสี่ยวลิ่งไปให้สามีดูเพื่อให้เขาเห็นด้วยที่จะไปขอนางจากสกุลจังมาเป็นบุตรบุญธรรม

“ท่านพี่ของข้าโทษตนเองมาตลอดว่ามิได้อยู่ดูแลบุตรคนโตด้วยตนเองจึงทำให้นางประสบกับชะตากรรมที่เลวร้าย ในยามที่เห็นข้าร้องไห้ท่านพี่ก็จะยิ่งโศกเศร้า แม้จะปลอบโยนข้าแต่ท่านพี่ก็จะหลั่งน้ำตาด้วยความรู้สึกผิดอยู่เสมอ ข้าจึงไม่กล้าจะร้องไห้ให้ท่านพี่เห็นอีกเจ้าค่ะ”

โฉวหลี่กุมมือและตบหลังมือของหงฮูหยินเบาๆ “ข้ารู้จักคนผู้หนึ่งที่จะช่วยเจ้าได้ ให้เขาช่วยสืบเรื่องของเสี่ยวลิ่งมิให้เอิกเกริกอย่างที่เจ้าต้องการ”

ในเมื่อภรรยาของคหบดีใหญ่ผู้กว้างขวางแห่งเมืองหลวงรับรองเช่นนั้น หงฉู่เย่จึงพยักหน้ารับ “แล้วแต่ท่านพี่หลี่จะเมตตาช่วยเหลือเจ้าค่ะ”

สตรีวัยกลางคนทั้งสองจึงนั่งรถม้าของจวนสกุลมู่ไปยังสำนักข่าวนกกระจิบ เมื่อแจ้งธุระแก่หลงจู๊ พวกนางจึงถูกเชิญไปยังห้องทำงานของคุณชายจิน ด้วยความที่ตระกูลของจินวั่งซู่ก็เป็นตระกูลพ่อค้า โฉวฮูหยินจึงคุ้นเคยกับบิดามารดาของจินวั่งซู่เป็นอย่างดี

“เชิญฮูหยินทั้งสองนั่งก่อนขอรับ หากข้าจำไม่ผิดท่านผู้นี้คือฮูหยินของรองแม่ทัพมู่ใช่หรือไม่ขอรับ?”

โฉวฮูหยินยิ้มกว้าง “คุณชายจินรู้จักนางด้วยหรือ?”

“ข้าเคยเห็นฮูหยินไปงานเลี้ยงในวังหลวงสองสามครั้งขอรับ แต่น่าเสียดายที่มิได้เข้าไปคารวะแนะนำตัว”

“ข้าเสียอีกที่น่าเสียดาย แทนที่จะได้รู้จักคนเก่งอย่างคุณชายจินเหมือนอย่างท่านพี่หลี่”

คำเรียกขานและกริยาท่าทางที่แสดงออกระหว่างสตรีทั้งสองทำให้จินวั่งซู่ประเมินได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางถือว่าอยู่ในระดับดีมาก

“ไม่ทราบว่าฮูหยินทั้งสองมีสิ่งใดให้ข้ารับใช้หรือขอรับ?”

หงฮูหยินจึงเริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อยี่สิบสี่ปีก่อนให้กับจินวั่งซู่ได้ฟัง ส่วนโฉวฮูหยินก็เล่าเรื่องที่นางสงสัยว่าจังเสี่ยวลิ่งว่าที่ลูกสะใภ้ของนางอาจจะกลายเป็นบุตรีที่หายไปผู้นั้น เพียงแต่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวนางอยู่หลายประการที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน

“พวกท่านบอกว่านางเกิดเดือนเดียวปีเดียวกับคุณหนูมู่แต่เกิดคนละวันโดยที่นางบอกว่าในใบเกิดระบุวันที่พ่อบ้านสกุลจังพบนางที่หน้าประตู หนำซ้ำนางยังมีแผลเป็นบนต้นแขนที่เดียวกันอีก แต่ที่พวกท่านสงสัยคือคุณหนูมู่ถูกลักพาตัวไปจากเมืองหลวงตอนมีอายุได้เพียงเจ็ดวัน ไม่น่าจะมีคนคิดนำนางไปทิ้งถึงเมืองพยัคฆ์เหินเพราะกว่าจะเดินทางไปถึงทารกที่มีอายุเพียงเจ็ดวันก็น่าจะทนไม่ไหวใช่หรือไม่ขอรับ?”

จินวั่งซู่วางแผนการสืบเรื่องของจังเสี่ยวลิ่ง ในเมื่อนางก็เป็นหนึ่งในลูกจ้างของเขาจินวั่งซู่จึงต้องระวังมิให้นางและชิงหลานทราบเรื่องนี้เพื่อให้สืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม สิ่งที่โฉวฮูหยินพูดก็มีส่วนถูกต้องเรื่องนี้ยิ่งสืบเงียบๆ ก็ยิ่งดีเพราะหากให้ผู้คนรู้ข้อมูลมากเกินไปหรือมีคนรู้อย่างเอิกเกริกอาจจะมีผู้สวมรอยอ้างตนเป็นบุตรสาวที่หายไปของรองแม่ทัพมู่เข้ามาเป็นจำนวนมาก...ผู้ใดล่ะ? จะไม่อยากเป็นกลายเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่!

ผู้ที่มีเส้นสายละเอียดยิบๆ แทบทุกถนนในเมืองพยัคฆ์เหินได้รู้ข่าวนี้จากหุ้นส่วนก็ยิ้มกริ่ม “เรื่องนี้น่าสนใจจริงๆ พี่วั่งซู่!”

“พระชายา! ท่านรีบสั่งคนสืบได้เลย ยิ่งสืบเร็วก็ยิ่งดี ข้ารู้สึกว่าที่สกุลจงเตะถ่วงการแต่งงานของจังเสี่ยวลิ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเห็นว่านางเป็นเพียงสาวใช้จึงคิดจะนำตัวนางไปอบรมสั่งสอนให้เหมาะสมกับตำแหน่งฐานะเสียก่อน หากว่าพวกเราสืบเรื่องนี้ได้ว่าที่จริงแล้วนางคือบุตรีที่หายไปของรองแม่ทัพมู่ก็เท่ากับได้ช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับตระกูลมู่และทำให้จงเหยียนมีความสุขไปด้วย”

พระชายาฟ่านซิ่วอิงทรงอมยิ้มพอพระทัย พี่จินวั่งซู่เพื่อนสนิทของพี่ชายนางผู้นี้มีแต่เรื่องน่าสนุกมาให้นางได้ร่วมลงมืออยู่บ่อยครั้ง แม้นางจะปล่อยให้จินวั่งซู่อ้างตนเป็นเจ้าของสำนักข่าวนกกระจิบเพียงผู้เดียวแต่เบื้องหลังไม่ว่ารับงานใดทั้งสองล้วนจะต้องมาปรึกษาหารือช่วยกันสืบหาความจริง

“ท่านอยากไปด้วยควบคุมการสืบด้วยตนเองหรือจะให้ข้าสั่งคนของข้าออก สืบหา?” พระชายาของชินอ๋องยิ้มน้อยๆ หันไปหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาเปิดฝาดมกลิ่นหอมไอร้อนกรุ่นก่อนจะเป่าเบาๆ

“ตระกูลข้ากับตระกูลจงถือว่าร่วมอยู่ในสมาคมการค้าเมืองหลวงมาเนิ่นนานข้าอยากจะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างด้วยตนเองทุกขั้นตอนเพื่อจะได้ยืนยันชัดเจนกับ โฉวฮูหยิน อีกอย่างรองแม่ทัพมู่ก็ถือว่าเป็นคนชินอ๋องเราก็สมควรทำงานนี้อย่างรอบคอบ”

“ท่านกล่าวได้ดี! เช่นนั้นข้าจะแจ้งคนของข้าตามนี้ จงเอาป้ายคำสั่งนี้ไป ด้วยเถิด”

**************************

*พระชายาฟ่านซิ่วอิง นางเอกเรื่อง “ท่านอ๋องอย่าคิดหนี”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)