ชิงหลานกับจั๋วเหรินหาวกระโจนตามไว้ ทว่าลูกน้องของอู่ฉางชิงนับสิบคนตรงเข้าสกัด ศิษย์พี่กับศิษย์น้องร่วมสำนักพร้อมใจกันต่อสู้อย่างดุเดือด องค์ชายสิบห้ามองเห็นหญิงคนรักก็รีบตรงเข้ามาช่วยเหลือ
“หลานเอ๋อร์! ข้ามาแล้ว!” หมิงเฉิงอวี่ตวัดกระบี่ฟันร่างของโจรทั้งสองที่กำลังโจมตีนางอยู่จนกระเจิงออกไป เหล่าองครักษ์ตามเข้ามาช่วย
ด้วยจำนวนคนที่มากกว่าของสำนักมือปราบและเหล่าองครักษ์ไม่นานนักพวกเขาก็ทั้งฆ่าและจับกุมคนร้ายไว้ได้ องค์ชายสิบห้ากับจินวั่งซู่ตรงเข้าไปค้นดูในคฤหาสน์แห่งนี้
“นี่มัน! คฤหาสน์เก่าของตระกูลเถียนนี่?”
“เป็นของบิดาเถียนฮองเฮาหรือ?” หมิงเฉิงอวี่ทรงทราบเพียงว่าภายหลังจากเถียนฮองเฮาอดีตภรรยาของหมิงฮ่องเต้ก่อกบฏ ครอบครัวของนางถูกประหาร ทรัพย์สินทั้งหมดในเมืองหลวงถูกทางการริบไว้หมดสิ้น
“มิได้ๆ นี่คือคฤหาสน์ของท่านน้าของเถียนฮองเฮาต่างหาก ข้าจำได้ว่าตอนเด็กๆ ท่านปู่เคยพาข้ามาที่นี่ เห็นภาพวาดชิ้นนี้ข้าจึงนึกขึ้นได้พะยะค่ะ” จินวั่งซู่ชี้ให้องค์ชายทอดพระเนตรภาพวาดฝาผนังขนาดใหญ่ “นี่เป็นภาพวาดทิวทัศน์เทือกเขามังกรทะยานอันลือลั่นของอาจารย์จ้าวพะยะค่ะ”
“ด้านหน้าติดกระดาษว่าเป็นทรัพย์แผ่นดินแต่กลับมีผู้ลอบอยู่อาศัย เห็นทีคนที่ให้คนเหล่านี้เข้ามาใช้สถานที่คงมิใช่แค่มีเส้นสายธรรมดาเสียกระมัง?”
ชิงหลานเดินเข้ามาใกล้แล้วกระซิบกราบทูลองค์ชาย
“เฉาอวิ๋นจือยอมสารภาพแล้วหรือ?”
“เพคะ”
“แล้วตัวคนเล่า?” หมิงเฉิงอวี่ทรงตัวเพื่อมองหา
“อยู่ในเรือนที่ไฟไหม้เพคะ”
องครักษ์กังที่ไปตรวจสอบเรือนไฟไหม้เข้ามากราบทูลให้ทรงทราบว่ามีคนตายอยู่ข้างในสามคนและหนึ่งในนั้นคืออดีตมือปราบที่ถูกหมายจับของทางการปิดประกาศไว้ทั่วแคว้น
“มือปราบเฉาตายในกองเพลิง พะยะค่ะ”
“อืม...แล้วไป! น่าเสียดายที่อู่ฉางชิงหนีไปได้”
“กระหม่อมให้คนสะกดรอยอู่ฉางชิงไปครั้งก่อน ตอนนี้มีหอคณิกาเถื่อนอีกแห่งหนึ่งกำลังเริ่มเปิดบริการพะยะค่ะ”
“อีกแล้วหรือ? เห็นทีต้องรีบจัดการนายท่านผู้นี้ให้สิ้นซากเสียแล้ว!”
หมิงเฉิงอวี่หันไปเห็นมือปราบโหยวที่เดินเข้าจึงรีบสั่งการ
“ข้าฝากเจ้าดูแลที่นี่ให้เรียบร้อยด้วยนะ ข้าจะไปรอที่สำนักมือปราบกับ ใต้เท้าจาง คืนนี้เราคงต้องสรุปทุกอย่างให้เรียบร้อย”
“พะยะค่ะ”
ใต้เท้าจางซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักมือปราบเมืองหลวงอายุเกือบห้าสิบแล้ว องค์ชายจึงทรงให้คอยรักษาการณ์ดูแลสำนักมือปราบเพื่อส่งกำลังเสริมหากว่าเกิดเหตุฉุกเฉินในคืนนี้
หมิงเฉิงอวี่หันไปหาชิงหลาน “เดี๋ยวข้าจะไปส่งเจ้าที่จวน”
“เพคะ” พระองค์ทรงมองสำรวจนางทั่วร่าง
“พวกมันไม่ได้ทำอันตรายเจ้าใช่หรือไม่?”
“ฮูหยินขอรับ! ไฟไหม้คฤหาสน์สกุลเถียนที่ปิดตายเอาไว้ฟากโน้นน่ะขอรับ”
“เอ๊ะ! ที่นั่นถูกทางการริบไปแล้วนี่? เหตุใดจึงเกิดไฟไหม้ขึ้นได้?”
ไม่นานนักเปลวเพลิงก็สงบลง เห็นที...เหล่ามือปราบคงจะดับไฟกันได้สำเร็จ ไม่นานนักมือปราบกลุ่มเก่าก็กลับมา หงฮูหยินจึงเข้าไปสอบถามด้วยตนเอง
“องค์ชายสิบห้าทรงนำกำลังเข้าไปบุกจับแหล่งซ่องสุมโจรน่ะขอรับ! ตอนนี้ปราบเรียบร้อยแล้ว ไฟไหม้แค่เรือนเล็กเรือนเดียว ตอนนี้กำลังเก็บศพพวกโจรอยู่ขอรับ!”
มู่เยี่ยนฟางได้ยินก็หน้าซีด ร้องถามออกไปด้วยเสียงอันสั่น “แล้วมีสตรีเป็นอันตรายบ้างหรือไม่?”
“ไม่มีนะขอรับ! มีแต่พวกโจร ส่วนมือปราบมากสุดก็แค่บาดเจ็บสาหัส”
“เฮ้อ! ค่อยยังชั่ว ขอบใจท่านมากที่บอกพวกเรา” หงฮูหยินตบอกตนเองเบาๆ ก่อนจะหันไปกุมมือบุตรสาว “เจ้าไม่ต้องห่วงแล้ว เดี๋ยวหลานเอ๋อร์ก็คงกลับมา”
“มิเป็นไรขอรับฮูหยิน ถ้าไม่มีเรื่องอื่นจะถามแล้ว พวกข้าต้องขอตัว”
สองแม่ลูกยังไม่อาจกลับเข้าไปนั่งรอในเรือนได้อย่างสงบสุข บ่าวรับใช้จึงนำเอาเก้าอี้มาให้คนทั้งสองนั่งรออยู่หน้าประตูใหญ่ ผ่านไปสองเค่อขบวนเสด็จขององค์ชายสิบห้าก็มาถึง ชิงหลานลงจากหลังม้าในขณะที่มู่เยี่ยนฟางรีบวิ่งมาต้อนรับ นางหันไปคารวะองค์ชายแต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่ชิงหลาน
“คุณหนู ท่านปลอดภัยหรือไม่เจ้าคะ?”
“ข้าไม่เป็นไรน่า! นี่เจ้าเอาแต่เป็นห่วงข้าจนพลอยทำให้หงฮูหยินร้อนใจไปด้วยใช่หรือไม่?”
******************************
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)