“เช่นนั้น พ่อบ้านลู่ผู้นี้ก็เก่งกว่าหัวหน้ามือปราบหลิวน่ะสิ! น่าสนใจอย่างที่เจ้าบอกจริงๆ ด้วยกังซือเฉิน...เจ้ากับจงเหยียนไปสืบฐานะของเหล่าลู่ผู้นี้ให้ชัดเจนที”
“พะยะค่ะ”
“นอกจากมีดสั้นเล่มนั้นแล้ว จั๋วเหรินหาวมิได้ให้สิ่งอื่นนางอีกใช่หรือไม่?”
กังซือเฉินที่กำลังคิดเรื่องพ่อบ้านลู่ถึงกับชะงักไปชั่วครู่เพราะคาดไม่ถึงว่า องค์ชายจะทรงสนพระทัยเรื่องที่จั๋วเหรินหาวมอบของขวัญให้กับคุณหนูชิง
“ก็มีแค่ขนมกับอาหารที่เอาไปฝากจังฮูหยินที่จวนพะยะค่ะ”
“ดี! กังเฉินเจ้าไปเตรียมกล่องขนมดอกกุ้ยฮวาเอาไว้ พรุ่งนี้ข้าจะเอาไปฝากจวนสกุลชิง”
องครักษ์กังก้มหน้าลอบยิ้มเล็กน้อย องค์ชายเร่งรัดภารกิจที่เมืองหลวงที่แท้ก็ทรงเป็นห่วงสถานการณ์ที่อำเภอเฉินนี่เอง! คุณหนูชิงผู้นี้ยังไม่ปักปิ่นก็ถูกจองโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว!
ยามเที่ยงของวันต่อมา เผยมู่ซีขะมักเขม้นในการวาดรูปจนมิได้สนใจว่ามีเสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่ด้านหลัง ร่างสูงโปร่งยืนเอามือไพล่หลังมองคนร่างเล็กที่ตั้งใจทำงานด้วยความปลาบปลื้ม เขาให้องครักษ์คอยเฝ้าดูนางตั้งแต่ตอนที่ตนเองต้องออกเดินทางกลับเมืองหลวง สิบสี่วันที่หายไปจากที่นี่ กังซือเฉินรายงานกิจกรรมที่สาวน้อยตรงหน้าทำในแต่ละวันอย่างละเอียด
...มีเพียงสิ่งเดียวที่หมิงเฉิงอวี่รู้สึกเคือง...นางมักจะอยู่กับจั๋วเหรินหาว!
เสี่ยวลิ่งที่หันหน้ากลับมาจะเอาพู่กันไปล้าง พลันเห็นชายเสื้อคลุมปักลายก้อนเมฆประณีตก็รีบเงยหน้าขึ้น พอนางกำลังจะเอ่ยปาก องค์ชายสิบห้าก็ยกพระดรรชนีขึ้นทาบบนริมพระโอษฐ์ห้ามมิให้นางเอ่ยสิ่งใด เสี่ยวลิ่งจึงค้อมหลังก้มหน้าเดินออกไปจากบริเวณนั้น
เผยมู่ซีหันมาก็ไม่เห็นเสี่ยวลิ่งนั่งอยู่ที่เดิม นางต้องการพู่กันเบอร์เล็กเพื่อจะได้วาดกิ่งไม้เล็กๆ ในขั้นตอนการเก็บรายละเอียด แต่สาวใช้คนสนิทกับอันตรธานหายไปจากข้างตัว
“เสี่ยวลิ่ง! พู่กันของข้าเจ้าล้างเสร็จหรือยัง?”
สาวใช้คนเก่งกระวีกระวาดเช็ดให้แห้งแล้วจะมายื่นให้เจ้านาย ทว่ามือเรียวยาวสวยข้างหนึ่งยื่นออกมารับไว้ก่อน นางเงยหน้าด้วยความตกใจแต่จะส่งให้คนผู้นั้นแต่โดยดี องค์ชายสิบห้ารับแล้วก็ยื่นต่อให้กับจิตรกรที่ไม่ยอมหันหน้าแต่แบมือขึ้นระดับไหล่ขอพู่กัน
“ล้างเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”
“รีบส่งมาสิ! เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้ารีบแค่ไหน? วันนี้ข้านัดกับศิษย์พี่เอาไว้ว่าจะไปดูกระบี่ใหม่ของเขาเสียด้วย” คำบอกเล่าของชิงหลานทำเอาพู่กันที่วางบนมือของนางมีแรงตบกระแทกมาด้วย
เพี๊ยะ!
“เสี่ยวลิ่งเจ้าวางเบาๆ ไม่ได้หรือไร? คิดจะตบให้มือข้าหนักหรือ?” นางเอียงใบหน้ามาดูมือที่วางพู่กันให้...มือของเสี่ยวลิ่งทำไมถึงใหญ่และยาวขึ้นเยอะเสียจริง!
พอเห็นขนาดของมือที่ทาบอยู่บนมือตนเอง นางพลันตะลึงเงยหน้าขึ้นมอง ร่างสูงโปร่งค้อมลงมาจนใบหน้าอยู่ห่างจากนางไม่ถึงศอก
“องค์ชาย!”
“เจ้าทำงานให้ข้าลวกๆ เพราะมีนัดเช่นนั้นหรือ?” พระพักตร์บึ้งตึงของคนที่ยืนเหนือศีรษะของนาง ทำให้เผยมู่ซีต้องปรับสีหน้าสีไม่พอใจให้ราบเรียบโดยเร็ว
ชิงหลานรีบลุกขึ้นทำความเคารพองค์ชายสิบห้าอย่างรวดเร็ว “มิได้เพคะ! หม่อมฉันวาดทุกภาพอย่างตั้งใจและวาดอย่างสุดฝีมือเช่นเดิม ทรงพระเนตรดูได้” น้ำเสียงของนางมีอารมณ์หงุดหงิดเจืออยู่จนหมิงเฉิงอวี่รู้สึกได้
องค์ชายทรงทอดพระเนตรดูผลงานของนางก็เห็นจริงอย่างที่นางบอก ภาพนี้ใกล้จะเสร็จแล้ว นางกำลังตัดเส้นต้นไม้ใบไม้อย่างตั้งใจ หมิงเฉิงอวี่พลันนึกขึ้นได้จึงฉวยมือของนางขึ้นมาดู
เสี่ยวลิ่งกระเถิบมาใกล้ๆ พร้อมกระซิบบอกคุณหนูว่าองค์ชายทรงมอบยานวดฝ่ามือมาให้ ชิงหลานแสร้งทำเป็นวางพู่กันแล้วสะบัดมือข้างขวา ยื่นมือซ้ายไปทำท่านวดเหมือนปวดมากๆ เสี่ยวลิ่งเทน้ำมันออกจากขวดกระเบื้องใบเล็กใส่ฝ่ามือให้คุณหนูของนางนวดเอง เมื่อนางปิดจุกขวดยาเรียบร้อยก็ยื่นมือออกไปช่วยชิงหลานนวดมือ สีหน้าของจิตรกรสาวน้อยดูบิดเบี้ยวเหมือนเจ็บปวดยิ่งนัก หมิงเฉิงอวี่แทบจะลุกขึ้นไปช่วยนางนวดมือด้วยตนเอง ติดแต่เพียงแอบเหลือบเห็นสายตานางที่สาดมาด้วยความชิงชังทำให้ต้องยั้งใจกำหมัดสองข้างยันหัวเข่าตนเองเอาไว้
“มิได้นะพะยะค่ะองค์ชาย” เสียงกระซิบขององครักษ์กังผู้พี่ ราวกับจะเตือนว่ายามนี้หากองค์ชายผลีผลามเข้าไปหานางก็ยิ่งจะทำให้นางไม่ชอบหน้ายิ่งกว่าเดิม
หมิงเฉิงอวี่หันไปมองกังเฉินครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแรงออกมาจนองครักษ์จงที่ยืนอยู่อีกข้างต้องลอบก้มหน้ายิ้มขมขื่น
‘องค์ชายกับข้าตกที่นั่งเดียวกันแล้ว! อยากจะเข้าใกล้แต่ก็โดนนางโกรธ ทำได้แค่มองอยู่ห่างๆ ช่างทรมานเสียนี่กระไร!’
จงเหยียนรู้สึกว่าตนเองมีคนที่รู้สึกคล้ายกันก็ทั้งดีใจทั้งหดหู่ เรื่องของตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำเช่นใดเสี่ยวลิ่งจึงจะยอมคุยดีด้วย...นึกถึงตรงนี้องครักษ์หนุ่มก็เผลอยกมือลูบหน้าเบาๆ ปิ่นปักผมลายดอกเหมยอยู่ในห่อกระดาษยังซ่อนไว้ในอกรอเวลาที่นางจะอยู่ตามลำพังจะได้มอบให้แต่นางก็ไม่ยอมหันมามองเขาแม้สักนิด
...สตรีในยามชิงชังช่างเอาใจยากเหลือแสน...
เสี่ยวลิ่งนวดมือให้คุณหนูชิงอยู่ครู่หนึ่ง จิตรกรน้อยก็หันไปตัดเส้นบนภาพที่ร่างไว้ต่อ นางทั้งสองทำเหมือนบุรุษทั้งสามด้านหลังไม่มีตัวตน
หมิงเฉิงอวี่นั่งทอดพระเนตรชิงหลานทำงานอยู่ร่วมครึ่งชั่วยาม กาน้ำชาที่องครักษ์อีกผู้หนึ่งนำมาถวายก็ดื่มไปจนหมด สาวน้อยยังไม่มีท่าทีจะวางพู่กันแต่อย่างใด? พระองค์จึงทรงเริ่มตระหนักว่าร่างกายของนางดูจะแข็งแรงกว่าก่อนมาก แผ่นหลังที่เคยผอมแห้งเริ่มหนาขึ้น ลำคอที่เคยเห็นผิวหนังเหี่ยวย่นเริ่มเต่งตึง การฝึกวิทยายุทธ์ทำให้ร่างกายของนางเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี น่าเสียดาย...เมื่อครู่นางไม่ยอมเงยหน้านานสักหน่อยจึงมิได้สังเกตว่าใบหน้าของนางเปลี่ยนไปหรือไม่?
‘ไม่เป็นไร! ตั้งแต่บ่ายจนค่ำนี้ข้าจะเฝ้าเจ้าเอาไว้ ให้รู้กันไปว่าเจ้าจะไม่ยอมเงยหน้าให้ข้าดูดีๆ สักหน่อย’
***********************
ไรท์แนะนำ...อ่านเรื่องนี้ให้สนุก อย่าลืมอ่านเรื่อง "ท่านอ๋องอย่าคิดหนี" และ "ซือซือฮองเฮาพันโฉม" นะคะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดอีกคราเป็นชายาตัวร้าย(มีEbook)