หลังจากแลกเปลี่ยนการทักทายตามธรรมเนียมกับชายผู้รับหน้าที่เกี่ยวกับการประมูลทางโทรศัพท์เสร็จ ท้ายที่สุดแจสเปอร์จึงวางสาย
“นายจะไปเยี่ยมตระกูลลอว์เมื่อไหร่กัน?” ดอว์สันถาม
“ตอนนี้คงดีที่สุดครับ”
แจสเปอร์ครุ่นคิดไปครู่ใหญ่ “พวกเขาแสดงความจริงใจกับเราพอสมควรแล้ว เพราะงั้นผมต้องไปเยี่ยมและทำอะไรสักอย่างเร็ว ๆ นี้ซะแล้ว”
…
ในห้องรับรองของเชอราธอน แจสเปอร์ได้พบกับแซคคารีอีกครั้ง
“มิสเตอร์ลอว์” เมื่อแจสเปอร์เห็นแซคคารีกำลังเดินออกจากห้อง เขาลุกขึ้นและทักทาย
แซคคารียิ้มและเชื้อเชิญให้แจสเปอร์นั่ง หลังจากนั้นพูดว่า “พ่อหนุ่ม เรากำลังจะกลับเมืองฮาร์เบอร์พรุ่งนี้แล้ว”
แจสเปอร์ถาม “สัญญาการลงทุนผ่านการรับรองหรือยังครับ?”
“ถ้าเธอหมายถึงสิทธิ์ในการพัฒนาที่ดินละก็ งั้น ใช่รับรองแล้วล่ะ” แซคคารีพูดพลางยิ้ม
แจสเปอร์กล่าวอย่างจริงใจ “ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือครับ มิสเตอร์ลอว์”
“นี่ไม่ใช่แค่ฉันช่วยเหลือเธอนะ สถานการณ์ในแผ่นดินใหญ่ไม่ได้เหมือนกับเมืองฮาร์เบอร์ แม้ว่าเราจะเคยลงทุนที่นี่มาก่อน แต่ศูนย์กลางของเรายังคงเป็นที่เมืองฮาร์เบอร์ เช่นนั้น เรายังคงร่วมงานกันผ่านผู้พัฒนาท้องถิ่นที่มีกำลังมากกว่าในโครงการนี้ให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย”
“ขณะเดียวกัน ชูเลอร์ก็ถือว่าเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งมากในจังหวัด เพราะงั้นฉันจึงหมดห่วง”
“มิสเตอร์ลอว์ครับ” แจสเปอร์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาทันทีว่า “ผมวางแผนที่ไปเมืองฮาร์เบอร์สักพักเพราะผมคิดว่า หลังจากภาวะฟองสบู่แตกในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองฮาร์เบอร์เมื่อสามปีที่แล้ว ตลาดในปัจจุบันยังถือว่าตกต่ำอยู่ดี มันน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฟื้นมันขึ้นมา”
เมื่อครั้งการคืนอธิปไตย ภายใต้การบริหารอันชั่วร้ายของพวกผู้มีอำนาจ พวกเขาวางแผนที่จะให้ซอมเมอร์แลนด์ยึดครองเมืองฮาร์เบอร์ซึ่งตอนนี้ได้ถูกทิ้งเป็นซากปรักหักพังและแห้งแล้ง
นั่นเพราะเมื่อสิบปีก่อน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองฮาร์เบอร์เฟื่องฟูมาก
แทบทุกตระกูลที่ร่ำรวยและเหล่าเศรษฐีในเมืองฮาร์เบอร์สนใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นอกเหนือจากนั้น ตระกูลลอว์ถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าของที่ดินในเมืองฮาร์เบอร์
เหตุผลหลักที่สิ่งนี้เกิดขึ้นก็เพราะพวกผู้มีอำนาจต้องการสูบเลือดสูบเนื้อจากพวกเขา พวกเขาต้องการรวมทุกแหล่งทุนในเมืองฮาร์เบอร์ไปยังธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก่อนที่จะกำจัดพวกเขาออกไป
สามารถพูดได้ว่าพวกเขาขโมยเงินทั้งหมดของเมืองฮาร์เบอร์ที่สั่งสมมากกว่าทศวรรษและเหลือซอมเมอร์แลนด์ไว้เพียงซากปรักหักพัง
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ทำให้สำเร็จลุล่วงเพราะหลาย ๆ เหตุผล อสังหาริมทรัพย์ในเมืองฮาร์เบอร์ก็พังทลายและจบลงในปีนั้นโดยสมบูรณ์อยู่ดี
นั่นคือกฎของเศรษฐกิจ และไม่มีใครสามารถหยุดมันไม่ให้เกิดขึ้นได้
เพราะฉะนั้น ราคาปัจจุบันของบ้านในเมืองฮาร์เบอร์ไม่ได้จากกะหล่ำปลีเลยสำหรับแจสเปอร์
หลังจากที่แซคคารีได้ยินแบบนั้น เขายิ้มและพูดว่า “พ่อหนุ่มเอ๋ย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลุยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองฮาร์เบอร์ถ้าเธอไม่มีทุน”
แจสเปอร์ยิ้มและพูดว่า “แน่นอนครับ ถ้าวัดจากทรัพย์สินของผมตอนนี้ มันแน่อยู่แล้วว่าไม่พอที่จะลุยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองฮาร์เบอร์”
หลังจากนับรวมเงินทั้งหมดที่แจสเปอร์มีอยู่ตอนนี้ เขาอาจจะซื้อที่ดินธรรมดา ๆ สักผืนในเมืองฮาร์เบอร์ในตำแหน่งที่พอใช้ได้แค่นั้น
หลังจากนั้น แน่นอนว่าเมืองฮาร์เบอร์คือศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในทางตะวันออก ณ ตอนนี้ ก่อนการเฟื่องฟูของราคาอสังหาริมทรัพย์ในแผ่นดินใหญ่ก็ไม่อาจเทียบได้กับเมืองฮาร์เบอร์
โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาใช้ดัชนีฮันเซลเป็นเหมือนหนึ่งในสินค้าทั้งหมดของสัญญาซื้อขาย พวกเขาสามารถปล่อยให้มันว่างหรือทำเงินเพิ่มขึ้นก็ได้
แจสเปอร์พยักหน้าและพูดว่า “มั่นใจได้ว่าจะได้รับแหล่งอ้างอิงจำนวนมากสำหรับราคาตลาดในเวลาอันสั้นอย่างแน่นอนครับ”
เหตุผลที่แจสเปอร์มั่นใจเป็นอย่างมากคือ ภาวะฟองสบู่ดอทคอมกำลังจะแตกแล้ว
การซื้อขายหุ้นของโลกจะเติบโตขึ้นเพราะเศรษฐกิจทางอินเตอร์เน็ต ในเวลาเดียวกัน องค์กรเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตจะเป็นที่ต้องการอย่างมากของนักลงทุนในหุ้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากภาวะฟองสบู่แตก วิกฤตการณ์ทางการเงินที่กวาดล้างโลกกำลังจะมาเยือน
แจสเปอร์ไม่สามารถเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตระกูลลอว์ทราบเพราะหลากหลายเหตุผล
แซคคารีลดเสียงต่ำและถาม “เธอแน่ใจได้อย่างไร?”
แจสเปอร์ยิ้มและพูดว่า “มิสเตอร์ลอว์ คุณควรทราบว่าไม่ได้มีความน่าเชื่อถืออย่างเต็ม 100 ในตลาดนักลงทุน”
แซคคารีพยักหน้าและพูดในขณะที่รู้สึกไม่สบอารมณ์และผิดหวังว่า “แน่นอนว่าฉันลังเลมากไป อย่างไรก็ตาม ตระกูลลอว์ก็ต้องการโอกาสอันรวดเร็วเพื่อหาเงินตามกระแส”
“90 เปอร์เซ็นต์ มั้งครับ” สิ่งที่แจสเปอร์กล่าวทำให้ท่าทีบนใบหน้าของแซคคารีแข็งทื่อไป
“ฮะฮาฮ่า!” แซคคารีหัวเราะเพราะเขาคิดว่าแจสเปอร์กำลังล้อเล่นกับเขาอยู่ เขาพูดว่า “โอ้ พ่อหนุ่ม เอาล่ะ ฉันจะรอเธอที่เมืองฮาร์เบอร์ละกันนะ ถ้าเป็นอย่างที่เธอว่า เธอจะเป็นพันธมิตรที่มีค่าที่สุดต่อตระกูลลอว์”
แจสเปอร์ลุกขึ้นและพูดอย่างใจเย็นและเคร่งขรึมว่า “ท่านอาวุโสลอว์เป็นตำนานตลอดชีวิตและใจของเขาอยู่กับประเทศตลอดเวลา การได้เป็นพันธมิตรกัน ผมรู้สึกภูมิใจที่มีแบบอย่างที่ดีแบบนี้”
แซคคารีสามารถรู้สึกได้ว่าแจสเปอร์พูดมาจากใจจริง เขาพยักหน้าและพูดว่า “ฉันจะรอเธอมาเยือนเมืองฮาร์เบอร์และเป็นแขกของบ้านเรานะ คุณพ่อของฉันไม่เจอแขกคนไหนในหลายปีมานี้ อย่างไรก็ตาม เขาต้องอยากเจอชายหนุ่มที่แสนยอดเยี่ยมแบบเธอแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ ไปให้สุด
ต่อหน่อยคร๊าฟ...
รออัพอยู่นะคะ เดือนเศษแล้ว จะมีต่อไหมคะ...