เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก นิยาย บท 107

“ก็ได้ยินว่าแกจะพาหลานสาวหัวแก้วหัวแหวนมาด้วยไม่ใช่เหรอ ทุกคนก็รีบมาให้เร็วๆ แกมาสายที่สุดแล้ว” คนที่เป็นคนเริ่มพูดก่อน เส้นผมขาวหมดแล้ว แต่ว่า ลักษณะท่าทางเป็นคนมีอันจะกิน รูปร่างอวบเล็กน้อย บนใบหน้ากลับไม่ค่อยมีรอยยับย่นสักเท่าไหร่

เมื่อเห็นว่าเหลิงหยุนฉีแหงนหน้ามองเขา ยิ้มและกวักมือให้เธอ “มานี่ มาให้ปู่เม่าดูหน่อยเร็ว ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? ที่เจอกันครั้งก่อน หนูยังเรียนอยู่ประถมอยู่เลย น่าจะลืมคนแก่อย่างปู่ไปแล้วแหละ”

“คุณปู่ คุณปู่ใส่แว่นสายตายาวของผู้สูงอายุก่อนดีมั้ย” เม่าหยูผิงยืนอยู่ด้านข้างและหยุดหัวเราะไม่ได้

“ไปไหนก็ไปไป๊! ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่!” แม้ว่าจะพูดแบบนั้นออกไป ท่านเม่ากลับหยิบแว่นตาขึ้นมาใส่ตามจริง

เมื่อเห็นเหลิงหยุนฉีที่แต่งตัวด้วยชุดกี่เพ้า เขาตกอยู่ในภวังค์สักพัก นานจนถอนหายใจออกมายาวๆ

“ต้องบอกเลยว่า ถือว่าสิ่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของเราช่างน่ามองมาก เด็กสาวที่อยู่ข้างนอกพวกนั้นเห็นต่างชาติใส่ชุดอะไรก็จะใส่แบบนั้น ชุดกี่เพ้าของหยุนฉีฉันมองว่าสวยมาก ลักษณะให้ความรู้สึกเหมือนคุณยายของแกเลย”

เมื่อพูดคำพูดนี้ออกไป ทุกคนที่อยู่เต็มโต๊ะต่างพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

คนที่อยู่ในแวดวงต่างเป็นเพื่อนเก่าที่มีความสัมพันธ์คุ้นเคยกันมาก พอเอ่ยอะไรกันขึ้นมา จึงไม่สุภาพเหมือนตอนอยู่ในตลาดธุรกิจการค้าแบบนั้น ในทางกลับกัน ต่างโต้เถียงกันไปมา เหมือนพูดคุยสัพเพเหระกันตามปกติ

เหลิงหยุนฉีอดหวนคิดถึงความหลังไว้ไม่ได้ ตอนเจ้าของร่างเดิมยังเป็นเด็ก สมัยเรียนหนังสือที่เซี่ยงไฮ้ ต่อมาก็ไปเมืองหลวง นอกจากมาเซี่ยงไฮ้บ้างตามเทศกาลต่างๆ เป็นบางครั้ง แทบไม่ปรากฏตัวในเซี่ยงไฮ้เลย

ในอดีตตระกูลเม่ากับตระกูลจางเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แบบนี้เอง ท่านเม่า เคยเห็นเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก็น่าจะเป็นเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึงคนอื่นเลย

เหลิงหยุนฉีชูถ้วยชาขึ้นเพื่อเป็นการให้ความเคารพแก่ผู้อาวุโสทุกคน ตั้งแต่ต้นจนจบ ต่างไม่มีคนจับสังเกตความแก่นเนื้อแท้ข้างในใจของเธอได้เปลี่ยนไปแล้ว

ในทางกลับกัน ยิ่งมองก็ยิ่งชอบมากขึ้น ยิ่งมองก็ยิ่งอิจฉา

พูดได้ว่า เหลิงหยุนฉีได้รับความชื่นชมจากผู้สูงอายุอย่างมาก

“อย่าเอาแต่จ้องหลานสาวของฉันสิ ทำเหมือนบ้านตัวเองไม่มีลูกหลานอย่างนั้นแหละ” จางเห้อฟานอาศัยเวลาเหมาะ ในการตอกกลับบรรดาเพื่อนเก่า

“โอ้โห นี่ตั้งใจเต๊ะท่าว่างั้นสิ” ทั้งกลุ่มมองมาและหัวเราะให้เขา สุดท้ายก็อดส่ายหน้าไม่ไหว “ช่างเถอะ ถ้าบ้านฉันมีเด็กผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ ฉันก็อยากจะพาไปโชว์ตัวให้ทั่วเลยแหละ”

ระหว่างที่พูด พลันทำหน้าตาอิจฉาตาร้อน จนทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากจางหมินกับนายหญิงที่นั่งอยู่ที่โต๊ะได้

เหลิงหยุนฉีรู้สึกว่าบรรยากาศเป็นกันเองมาก สามารถพูดแบบนี้กับคุณตาของเธอได้ แสดงว่าสถานะของทุกคนต้องไม่ธรรมดาแน่

เธอกวาดตามอง เมื่อเห็นใบหน้าคนหนึ่งที่หน้าตาคุ้นเคยนั้น ตะลึงเล็กน้อยอย่างอดเสียไม่ได้

บุคคลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามที่ถัดจากทางด้านซ้ายของท่านเม่าลำดับที่สาม เหมือนจะรับรู้ถึงสายตาของเธอ จึงยิ้มออกมาทันที

คนคนนี้ถือว่าเป็นคนที่อายุค่อนข้างวัยรุ่นที่นั่งอยู่...

แน่นอนว่า เม่าหยูผิงคนนั้นเป็นคนที่อายุน้อยที่สุด แต่ว่า หลังจากกล่าวทักทายเขากับปู่ของเขาเสร็จแล้ว พลันเดินออกไปทันที

“เจียงหนานแมนชั่นตึกนี้ ปัจจุบันหยูผิงกำลังจัดการอยู่ น่าจะออกไปกำชับเรื่องอาหารแล้วแหละ” จางหมินมองเห็นสายตาของเธอชะเง้อมองประตู พลันยิ้มให้เธอและกล่าวอธิบายจากความสงสัย จากนั้น ก็จับสังเกตได้ถึงลูกสาวที่พยักหน้าและยิ้มให้กับผู้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แววตาแสดงอาการตกใจอย่างอดเสียไม่ได้

“ฉันก็ว่าแล้ว ปกติแกเป็นคนนอนเร็วทุกคืน ทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงตามพวกเรามาที่เจียงหนานแมนชั่น คงรู้สึกว่ารู้จักหยุนฉีมานานแล้วสิ” ท่านเม่าที่อยู่ด้านข้างตบบ่าของเขา ยิ้มเหมือนจิ้งจอกเฒ่าตัวหนึ่ง

โจวอี้หมิงไม่ได้รู้สึกประหม่า แต่กลับทำหน้าตาเป็นปกติ “ผมเปิดบริษัทแวดวงบันเทิง มีนักแสดงอยู่ในสังกัดมากมาย มีงานเลี้ยงในเวลากลางคืน ก็จะตกเป็นข่าวอย่างง่ายดายมาก ถ้าหากให้ภรรยาในบ้านเห็น ก็จะมาอารมณ์เสียใจผมอีก พูดกันตรงๆ ปกติแล้วงานเลี้ยงก็จะผลักให้รองประธานไป ถ้ามีธุระอะไรก็ไปพูดคุยกันที่บริษัทโดยตรงในเวลากลางวัน ทำแบบนี้ประหยัดเรื่องได้อีกมากครับ”

ถึงแม้บริษัทในเครือมีแนวโน้มเรื่องชู้สาวกับผู้บริหาร ซึ่งแอบแฝงในกฎอุตสาหกรรมอย่างง่ายดายที่สุด แต่โจวอี้หมิงที่อยู่ในวงการ มีชื่อเสียงเรื่องทำตัวใสสะอาดมาก

ทว่า อาศัยแค่ชื่อเสียง แต่ไม่สามารถนั่งทำงานที่โต๊ะตัวนี้ได้

เหลิงหยุนฉีได้ยินทุกคนที่พูดติดตลกเรื่องโจวอี้หมิง จึงหลุบตาลงเล็กน้อย

แต่ใครก็ตามที่สามารถเข้าร่วมการกินเลี้ยงบนโต๊ะอาหารในค่ำคืนนี้ได้ ต่างเป็นบุคคลที่สามารถเรียกลมฝนของเซี่ยงไฮ้ได้ทั้งนั้น

กล่าวอีกนัยหนึ่ง...

คืนนี้ คุณตาของเธอทำหน้าที่เป็นคนติดต่อคนทั่วทั้งเซี่ยงไฮ้ให้เธอ

มิน่าล่ะก่อนหน้านี้คุณยายถึงได้พูดลากเสียงยาวๆ เอาไว้กับประโยคนั้น “ต้องรู้จักคนเอาไว้ก่อน วันพรุ่งนี้จะทำอะไรจะได้สะดวกหน่อย…”

เหลิงหยุนฉียกมุมปาก ยิ้มให้เล็กน้อย

จุดเริ่มต้นในทางธุรกิจของชีวิตนี้ ไม่สามารถหาคำพูดนำมาเปรียบเปรยได้เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก