เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก นิยาย บท 12

“หืม? งั้นเหรอ?”เฉียวหยู่โม่เห็นเหลิงหยุนฉีชะงักอยู่กับที่ อีกนิดแทบจะอยากมุดดินหนี พลันยกยิ้มขบขัน

“คือ......อะแฮ่ม......เมื่อก่อนสายตาไม่ค่อยดีน่ะ” เหลิงหยุนฉีกระแอมเสียงแห้งทีหนึ่ง เกิดใหม่จนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอหน้าแหกขนาดนี้ ผ่านไปไม่กี่วินาที จึงจะกลับมาเป็นปกติ “ตอนนี้โตพอจนรู้เรื่องแล้ว ก็ย่อมตาสว่างเป็นธรรมดา”

“เพราะฉะนั้น ตอนนี้สายตาเธอหายดีกลับมาเป็นปกติแล้วสินะ?” เฉียวหยู่โม่พยักหน้า แม้จะรู้สึกว่าคำพูดนี้ฟังดูปัญญาอ่อนไปหน่อย แต่พอเห็นเหลิงหยุนฉีทำหน้าเหมือนโลกจะแตก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มันทำให้เขาอยากแหย่เธอเล่น

“แน่นอนอยู่แล้ว! เหมือนคำพูดที่ว่า ‘การเปรียบเทียบมีแต่จะทำให้คนที่ด้อยกว่าโมโหเปล่าๆ’! พอเห็นคุณชายเฉียวแล้ว สายตาฉันก็ยกระดับขึ้นถึง 2.0 เลยล่ะ!” เหลิงหยุนฉีพูดยอโดยไม่แม้แต่จะคิด แม้จะฟังดูเวอร์ไปหน่อย แต่ก็ไม่ผิดแน่ ๆ!

แต่ใครจะคาดคิด ว่าจู่ ๆเฉียวหยู่โม่กลับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยว่า “เพราะฉะนั้น ความหมายเธอก็คือ ตอนนี้เธอต้องใจฉันงั้นเหรอ?”

เหลิงหยุนฉีเบิกตาโพลงอย่างตกตะลึงจนลูกตาแทบหลุดออกจากเบ้า!

ฉันเปล่า! ไม่ใช่นะ! นายฟังฉันอธิบายก่อน!

ผู้สืบทอดที่อายุน้อยที่สุดและโดดเด่นที่สุดของตระกูลเฉียว! แค่มาปรากฏตัวที่งานวันเกิดเธอในวันนี้ ก็ทำให้คนทั้งงานช็อกมากพอแล้ว หรือเขาคิดว่าวันนี้เธอยังเด่นไม่พออีกหรือไง? ถึงต้องคิดอะไรเกินตัวกับเขา???

เหลิงหยุนฉีพลันรู้สึกว่านี่เรียกงานฉลองวันเกิดเธอซะที่ไหน นี่เหมือนเต้นดิสโก้บนหัวใจเธอชัดๆ!

ทว่า เธอกำลังจะอ้าปาก ยังไม่ทันได้พูด จู่ ๆก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังลอดมาจากนอกหน้าต่าง

ณ ลานกลางแจ้งที่กว้างใหญ่ ปรากฏรถสปอร์ตคันสีเทาที่ถูกขับออกมาจากเส้นทางหลัก

รถเงางามภายใต้แสงไฟส่องประกายความหรูหรา

ทว่าสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด คือรูปลักษณ์ภายนอกสุดเท่นั่น ไฟหน้ารูปตัว Y สปอยเลอร์ปีกหลังรถ และล้ออัลลอย ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็บ่งชี้ถึงการดีไซน์สุดล้ำของมัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นหู ที่ทำให้คนฟังต่างเลือดสูบฉีดและใจเต้นแรง!

“โห! นี่มันลัมโบร์กีนี veneno ไม่ใช่เหรอ? ทั้งโลกมีแค่สามคัน ได้ยินมาว่าทั้งประเทศก็นำเข้าแค่คันเดียว มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

“อัตราเร่ง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 2.8 วินาที และความเร็วสูงสุดคือ 354 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! นี่คือสุดยอดรถสปอร์ต มากเกินพอที่จะเป็นรถแข่งได้แล้วด้วยซ้ำ! ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนราคาถูกปั่นไปถึงแปดสิบล้านแล้ว!”

“โฟกัสผิดจุดไปหรือเปล่า? ประเด็นสำคัญของมันคือการขับ Veneno ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางเลยต่างหาก! รถคันนี้มีการใช้วัสดุจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูง เพียงแค่ขับรถเป็น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็สามารถซิ่งรถด้วยความเร็ววิปลาสได้! ฉันอิจฉาตาร้อนจนหน้าจะบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว!”

มีทายาทเศรษฐีไม่น้อยที่เป็นสมาชิกของสโมสรซุปเปอร์คาร์ พอเห็นรถคันนี้ ก็เอาแต่จ้องไม่แม้แต่จะกลอกตา แต่ละคนแทบจะอยากเอาตัวเข้าไปแนบเสียด้วยซ้ำ

นี่ไม่ใช่รถที่แค่มีเงินก็สามารถซื้อมาได้ เดิมทีลัมโบร์กีนีก็ผลิตออกมาแค่สามคันเท่านั้น ทันทีที่ออกจากโรงงานก็ถูกสั่งซื้อจนหมดสต๊อก ไม่มีการผลิตเพิ่มอีก พวกเฟอร์รารี่หรือมาเซราตีอะไรนั่นเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำ

ได้ยินพวกเขาคุยถกกันอย่างอื้ออึง แม้แต่พวกคุณหนูตระกูลผู้ดีที่ไม่เข้าใจเรื่องรถก็ยังมึนไปหมด

ณ เวลานี้ ภายในใจทุกคนต่างมีอยู่แค่คำถามเดียว---

รถคันนี้มาปรากฏที่งานวันเกิดเหลิงหยุนฉีได้ยังไง?

ทันใดนั้น ประตูกรรไกรรถสปอร์ตค่อยๆลอยขึ้น แล้วหยุดเหนืออากาศ คนขับรถสุดหล่อที่ดูดีจนน่าทึ่งก้าวขาลงจากที่นั่งคนขับ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องโถงจัดเลี้ยง มุ่งตรงไปยังเหลิงหยุนฉี

เหลิงหยุนฉีเห็นเขาถอดหมวกแข่งรถด้วยมือเดียว วินาทีถัดมา ก็ยื่นกุญแจรถของลัมโบร์กีนี veneno คันนั้นมาให้เธอ พร้อมเอ่ยว่า “ของขวัญวันเกิดที่คุณจางมอบให้คุณหนูครับ”

คุณจาง?

“คุณตางั้นเหรอ?” เหลิงหยุนฉีกระพริบตา พลันหันขวับไปมองจางหมิน

จางหมินพยักหน้ายิ้มๆด้วยสีหน้าดีใจ “รู้ว่าหนูชอบรถสปอร์ต คุณตาก็เลยหามาให้หนูโดยเฉพาะ เซอร์ไพรส์ไหม?”

ฉับพลันนั้น ก็เกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้นทันที

นี่มันของขวัญวันเกิดซะที่ไหน? นี่มันโคตรเท่ระเบิดเลยต่างหาก!

อย่างที่รู้กันดีว่า การขับรถสปอร์ตเล่น คืองานอดิเรกที่พวกทายาทเศรษฐีมีไว้เพื่อหาความตื่นเต้นเร้าใจ พวกผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงครอบครัวส่วนใหญ่ที่มองว่าของแบบนี้ดูโอ้อวดเกินไป ซ้ำยังฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองอีกต่างหาก

ทว่า พอเป็นเหลิงหยุนฉี......

มอบให้เป็นของขวัญยังไม่เท่าไหร่ ประเด็นคือเพื่อรับประกันความปลอดภัยของรถสปอร์ต ถึงกับซื้ออันที่สุดยอดที่สุดในโลกให้เลยทีเดียว

นี่คือผู้ใหญ่ต้องรักและโอ๋ขนาดไหนถึงจะทำเรื่องแบบนี้ให้ได้?

เซอร์ไพรส์มูลค่าเกือบร้อยล้านเชียวนะ!

“กริ๊ง!”

ทันใดนั้น โทรศัพท์เธอก็พลันดังขึ้น ก้มหน้าดู ก็เห็นเป็นสายเรียกเข้าวิดีโอของวีแชท

อีกฝ่ายคือลูกชายของลุงเธอ หรือก็คือลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของร่างเดิม---เหลิงยี่

เธอจำได้ว่าเขาเองก็ไปทำงานที่เมืองนอกนี่? ทำไมจู่ ๆถึงโทรวิดีโอมาหาเธอตอนนี้?

เหลิงหยุนฉีไม่กล้าชักช้า จึงรีบกดรับสายทันที

“พี่คะ?”

ฝูงคนที่กำลังยืนชมดอกไม้ไฟกันอย่างครึกครื้นพลันเงียบเสียงลงโดยไม่รู้ตัว ทว่าเธอกลับไม่ได้สังเกต เห็นเพียงชายหนุ่มสง่างามปรากฏบนจอโทรศัพท์

อีกฝ่ายอายุมากกว่าเธอแค่สี่ปี บนสันจมูกโด่งสวมแว่นกรอบสีทอง นั่งอยู่บนโซฟา พลางเผยยิ้มเอ็นดู

“หยุนฉี ได้รับของขวัญวันเกิดที่พี่ให้เธอหรือยัง?”

เหลิงหยุนฉีมองดอกไม้ไฟน่าอัศจรรย์นอกหน้าต่างแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างงุนงงว่า “ได้รับแล้วค่ะ”

“ขอโทษนะ ปีนี้งานยุ่งมากจริงๆ ไม่ทันกลับไปร่วมงานวันเกิดเธอ ของขวัญก็เลยดูหยาบง่ายไปหน่อย รอหลังกลับมา แล้วฉันจะให้ของขวัญวันเกิดเธอย้อนหลังอีกที สุขสันต์วันเกิดนะ!”

ตระกูลเหลิงในหลายปีมานี้ ทุกรุ่นต่างเป็นผู้ชาย มีเพียงเหลิงหยุนฉีคนเดียวที่เป็นผู้หญิง

รุ่นเก่าคือท่านเหลิงที่เคร่งขรึมน่าเกรงขาม ส่วนรุ่นหลังก็เป็นพวกพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ แต่ละคนต่างรักและโอ๋เธอประหนึ่งองค์หญิงน้อย

หลายปีมานี้ เธอโตมาด้วยนิสัยทะนงตนและเย่อหยิ่ง แต่กลับไม่มีใครกล้าก่นด่าต่อหน้าเธอ แน่นอนว่าเป็นเพราะเธอมีแบคที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ถึงแม้จะสร้างปัญหา ก็มีคนคอยตามเช็ดให้ตลอด

หยาบง่ายงั้นเหรอ?

เหลิงหยุนฉีเหม่อมองไปยัง “ดอกไม้ไฟวันเกิด” ที่จุดประกายท้องฟ้าไปครึ่งฟาก และทำให้แขกเหรื่อผู้หญิงนับไม่ถ้วนต้องอิจฉาตาร้อน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเพิ่งรู้ ว่าตระกูลเหลิงรักและโอ๋คนคนหนึ่งได้มากถึงขนาดนี้!!!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก