“หืม? งั้นเหรอ?”เฉียวหยู่โม่เห็นเหลิงหยุนฉีชะงักอยู่กับที่ อีกนิดแทบจะอยากมุดดินหนี พลันยกยิ้มขบขัน
“คือ......อะแฮ่ม......เมื่อก่อนสายตาไม่ค่อยดีน่ะ” เหลิงหยุนฉีกระแอมเสียงแห้งทีหนึ่ง เกิดใหม่จนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอหน้าแหกขนาดนี้ ผ่านไปไม่กี่วินาที จึงจะกลับมาเป็นปกติ “ตอนนี้โตพอจนรู้เรื่องแล้ว ก็ย่อมตาสว่างเป็นธรรมดา”
“เพราะฉะนั้น ตอนนี้สายตาเธอหายดีกลับมาเป็นปกติแล้วสินะ?” เฉียวหยู่โม่พยักหน้า แม้จะรู้สึกว่าคำพูดนี้ฟังดูปัญญาอ่อนไปหน่อย แต่พอเห็นเหลิงหยุนฉีทำหน้าเหมือนโลกจะแตก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร มันทำให้เขาอยากแหย่เธอเล่น
“แน่นอนอยู่แล้ว! เหมือนคำพูดที่ว่า ‘การเปรียบเทียบมีแต่จะทำให้คนที่ด้อยกว่าโมโหเปล่าๆ’! พอเห็นคุณชายเฉียวแล้ว สายตาฉันก็ยกระดับขึ้นถึง 2.0 เลยล่ะ!” เหลิงหยุนฉีพูดยอโดยไม่แม้แต่จะคิด แม้จะฟังดูเวอร์ไปหน่อย แต่ก็ไม่ผิดแน่ ๆ!
แต่ใครจะคาดคิด ว่าจู่ ๆเฉียวหยู่โม่กลับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยว่า “เพราะฉะนั้น ความหมายเธอก็คือ ตอนนี้เธอต้องใจฉันงั้นเหรอ?”
เหลิงหยุนฉีเบิกตาโพลงอย่างตกตะลึงจนลูกตาแทบหลุดออกจากเบ้า!
ฉันเปล่า! ไม่ใช่นะ! นายฟังฉันอธิบายก่อน!
ผู้สืบทอดที่อายุน้อยที่สุดและโดดเด่นที่สุดของตระกูลเฉียว! แค่มาปรากฏตัวที่งานวันเกิดเธอในวันนี้ ก็ทำให้คนทั้งงานช็อกมากพอแล้ว หรือเขาคิดว่าวันนี้เธอยังเด่นไม่พออีกหรือไง? ถึงต้องคิดอะไรเกินตัวกับเขา???
เหลิงหยุนฉีพลันรู้สึกว่านี่เรียกงานฉลองวันเกิดเธอซะที่ไหน นี่เหมือนเต้นดิสโก้บนหัวใจเธอชัดๆ!
ทว่า เธอกำลังจะอ้าปาก ยังไม่ทันได้พูด จู่ ๆก็มีเสียงเครื่องยนต์ดังลอดมาจากนอกหน้าต่าง
ณ ลานกลางแจ้งที่กว้างใหญ่ ปรากฏรถสปอร์ตคันสีเทาที่ถูกขับออกมาจากเส้นทางหลัก
รถเงางามภายใต้แสงไฟส่องประกายความหรูหรา
ทว่าสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด คือรูปลักษณ์ภายนอกสุดเท่นั่น ไฟหน้ารูปตัว Y สปอยเลอร์ปีกหลังรถ และล้ออัลลอย ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนก็บ่งชี้ถึงการดีไซน์สุดล้ำของมัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นหู ที่ทำให้คนฟังต่างเลือดสูบฉีดและใจเต้นแรง!
“โห! นี่มันลัมโบร์กีนี veneno ไม่ใช่เหรอ? ทั้งโลกมีแค่สามคัน ได้ยินมาว่าทั้งประเทศก็นำเข้าแค่คันเดียว มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“อัตราเร่ง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 2.8 วินาที และความเร็วสูงสุดคือ 354 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! นี่คือสุดยอดรถสปอร์ต มากเกินพอที่จะเป็นรถแข่งได้แล้วด้วยซ้ำ! ฉันจำได้ว่าครั้งก่อนราคาถูกปั่นไปถึงแปดสิบล้านแล้ว!”
“โฟกัสผิดจุดไปหรือเปล่า? ประเด็นสำคัญของมันคือการขับ Veneno ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทางเลยต่างหาก! รถคันนี้มีการใช้วัสดุจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูง เพียงแค่ขับรถเป็น ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ก็สามารถซิ่งรถด้วยความเร็ววิปลาสได้! ฉันอิจฉาตาร้อนจนหน้าจะบิดเบี้ยวไปหมดแล้ว!”
มีทายาทเศรษฐีไม่น้อยที่เป็นสมาชิกของสโมสรซุปเปอร์คาร์ พอเห็นรถคันนี้ ก็เอาแต่จ้องไม่แม้แต่จะกลอกตา แต่ละคนแทบจะอยากเอาตัวเข้าไปแนบเสียด้วยซ้ำ
นี่ไม่ใช่รถที่แค่มีเงินก็สามารถซื้อมาได้ เดิมทีลัมโบร์กีนีก็ผลิตออกมาแค่สามคันเท่านั้น ทันทีที่ออกจากโรงงานก็ถูกสั่งซื้อจนหมดสต๊อก ไม่มีการผลิตเพิ่มอีก พวกเฟอร์รารี่หรือมาเซราตีอะไรนั่นเทียบไม่ติดเลยด้วยซ้ำ
ได้ยินพวกเขาคุยถกกันอย่างอื้ออึง แม้แต่พวกคุณหนูตระกูลผู้ดีที่ไม่เข้าใจเรื่องรถก็ยังมึนไปหมด
ณ เวลานี้ ภายในใจทุกคนต่างมีอยู่แค่คำถามเดียว---
รถคันนี้มาปรากฏที่งานวันเกิดเหลิงหยุนฉีได้ยังไง?
ทันใดนั้น ประตูกรรไกรรถสปอร์ตค่อยๆลอยขึ้น แล้วหยุดเหนืออากาศ คนขับรถสุดหล่อที่ดูดีจนน่าทึ่งก้าวขาลงจากที่นั่งคนขับ ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องโถงจัดเลี้ยง มุ่งตรงไปยังเหลิงหยุนฉี
เหลิงหยุนฉีเห็นเขาถอดหมวกแข่งรถด้วยมือเดียว วินาทีถัดมา ก็ยื่นกุญแจรถของลัมโบร์กีนี veneno คันนั้นมาให้เธอ พร้อมเอ่ยว่า “ของขวัญวันเกิดที่คุณจางมอบให้คุณหนูครับ”
คุณจาง?
“คุณตางั้นเหรอ?” เหลิงหยุนฉีกระพริบตา พลันหันขวับไปมองจางหมิน
จางหมินพยักหน้ายิ้มๆด้วยสีหน้าดีใจ “รู้ว่าหนูชอบรถสปอร์ต คุณตาก็เลยหามาให้หนูโดยเฉพาะ เซอร์ไพรส์ไหม?”
ฉับพลันนั้น ก็เกิดเสียงเซ็งแซ่ขึ้นทันที
นี่มันของขวัญวันเกิดซะที่ไหน? นี่มันโคตรเท่ระเบิดเลยต่างหาก!
อย่างที่รู้กันดีว่า การขับรถสปอร์ตเล่น คืองานอดิเรกที่พวกทายาทเศรษฐีมีไว้เพื่อหาความตื่นเต้นเร้าใจ พวกผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงครอบครัวส่วนใหญ่ที่มองว่าของแบบนี้ดูโอ้อวดเกินไป ซ้ำยังฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองอีกต่างหาก
ทว่า พอเป็นเหลิงหยุนฉี......
มอบให้เป็นของขวัญยังไม่เท่าไหร่ ประเด็นคือเพื่อรับประกันความปลอดภัยของรถสปอร์ต ถึงกับซื้ออันที่สุดยอดที่สุดในโลกให้เลยทีเดียว
นี่คือผู้ใหญ่ต้องรักและโอ๋ขนาดไหนถึงจะทำเรื่องแบบนี้ให้ได้?
เซอร์ไพรส์มูลค่าเกือบร้อยล้านเชียวนะ!
“กริ๊ง!”
ทันใดนั้น โทรศัพท์เธอก็พลันดังขึ้น ก้มหน้าดู ก็เห็นเป็นสายเรียกเข้าวิดีโอของวีแชท
อีกฝ่ายคือลูกชายของลุงเธอ หรือก็คือลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของร่างเดิม---เหลิงยี่
เธอจำได้ว่าเขาเองก็ไปทำงานที่เมืองนอกนี่? ทำไมจู่ ๆถึงโทรวิดีโอมาหาเธอตอนนี้?
เหลิงหยุนฉีไม่กล้าชักช้า จึงรีบกดรับสายทันที
“พี่คะ?”
ฝูงคนที่กำลังยืนชมดอกไม้ไฟกันอย่างครึกครื้นพลันเงียบเสียงลงโดยไม่รู้ตัว ทว่าเธอกลับไม่ได้สังเกต เห็นเพียงชายหนุ่มสง่างามปรากฏบนจอโทรศัพท์
อีกฝ่ายอายุมากกว่าเธอแค่สี่ปี บนสันจมูกโด่งสวมแว่นกรอบสีทอง นั่งอยู่บนโซฟา พลางเผยยิ้มเอ็นดู
“หยุนฉี ได้รับของขวัญวันเกิดที่พี่ให้เธอหรือยัง?”
เหลิงหยุนฉีมองดอกไม้ไฟน่าอัศจรรย์นอกหน้าต่างแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างงุนงงว่า “ได้รับแล้วค่ะ”
“ขอโทษนะ ปีนี้งานยุ่งมากจริงๆ ไม่ทันกลับไปร่วมงานวันเกิดเธอ ของขวัญก็เลยดูหยาบง่ายไปหน่อย รอหลังกลับมา แล้วฉันจะให้ของขวัญวันเกิดเธอย้อนหลังอีกที สุขสันต์วันเกิดนะ!”
ตระกูลเหลิงในหลายปีมานี้ ทุกรุ่นต่างเป็นผู้ชาย มีเพียงเหลิงหยุนฉีคนเดียวที่เป็นผู้หญิง
รุ่นเก่าคือท่านเหลิงที่เคร่งขรึมน่าเกรงขาม ส่วนรุ่นหลังก็เป็นพวกพี่น้องรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ แต่ละคนต่างรักและโอ๋เธอประหนึ่งองค์หญิงน้อย
หลายปีมานี้ เธอโตมาด้วยนิสัยทะนงตนและเย่อหยิ่ง แต่กลับไม่มีใครกล้าก่นด่าต่อหน้าเธอ แน่นอนว่าเป็นเพราะเธอมีแบคที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ถึงแม้จะสร้างปัญหา ก็มีคนคอยตามเช็ดให้ตลอด
หยาบง่ายงั้นเหรอ?
เหลิงหยุนฉีเหม่อมองไปยัง “ดอกไม้ไฟวันเกิด” ที่จุดประกายท้องฟ้าไปครึ่งฟาก และทำให้แขกเหรื่อผู้หญิงนับไม่ถ้วนต้องอิจฉาตาร้อน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเพิ่งรู้ ว่าตระกูลเหลิงรักและโอ๋คนคนหนึ่งได้มากถึงขนาดนี้!!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก