เฉียวหยู่โม่สีหน้าเย็นชา อ่านเนื้อหาข้อความนั่นทีละคำไปจนหมด ดวงตาดำขลับคู่นั้นล้ำลึกจนไม่อาจหยั่งถึงก้นบึ้งได้
หลัวจิ้นเสียวสันหลังจนอดผวาไม่ได้ รู้สึกถึงเพียงบรรยากาศในห้องทำงานมาคุลงทันตา
“ฉีซื่อกรุ๊ปคือใคร?” เฉียวหยู่โม่มองชื่อ V ใหญ่นั่น พลางยิ้มเบาๆ แต่น่าเสียดาย ที่แววตานั้นไร้ซึ่งความขบขันใดๆ
หลัวจิ้นหลุดออกจากภวังค์ทันที “คือบริษัทก่อนหน้าที่อยากจะเข้าร่วมการเสนอซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทเรามาโดยตลอด แต่คุณสมบัติสู้อีกสามบริษัทในเฉิงตงไม่ได้ หรือก็คือบริษัทของท่านประธานฉี ฉีเกาเซิ่งที่ทุกครั้งต้องรับเคราะห์กรรมจากความพยายามอันสูญเปล่าเสมอ ก่อนหน้านี้ เขายังอยากจะนัดท่านทานข้าวด้วยกัน แต่ผมช่วยท่านปฏิเสธไปหมดแล้วครับ”
หลายปีมานี้ตระกูลฉีขอความร่วมมือกับบริษัทเฉียวซื่อมาโดยตลอด ทว่ากลับไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะถูกเอามาพิจารณาได้ ถ้าจะให้พูด ก็คือระดับต่างกันมากเกินไป
ฉีหลัวซานพูดถูกอยู่อย่างหนึ่ง เจ้านายเขากับตระกูลฉีไม่ใช่คนในวงการเดียวกันจริงๆ เพราะสถานะนั้นอยู่สูงจนตระกูลฉีเอื้อมไม่ถึง
“ความโง่เขลานั้นเป็นพันธุกรรมจริงๆด้วย พ่อไร้ความสามารถ ลูกสาวเองก็สมองมีปัญหา” เฉียวหยู่โม่ยื่นโทรศัพท์คืนให้หลัวจิ้น
“ในเมื่อว่างขนาดนี้ ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่ลืมเรียกร้องความสนใจบนอินเทอร์เน็ต งั้นก็ให้บริษัทพวกเขาว่างไปโดยสิ้นเชิงเถอะ”
ว่างจนใช้ชีวิตต่อไปไม่ได้ ก็ย่อมไม่ทะนงตัวขนาดนี้แล้ว!
แม้หลัวจิ้นจะคิดได้ว่าเหลิงหยุนฉีนั้นไม่ธรรมดาสำหรับเจ้านาย แต่พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็ยังคงสะดุ้งตกใจ
ตอนที่ยื่นมือไปรับโทรศัพท์ก็คิ้วสั่นตากระตุกไปหมด
ความหมายของเจ้านาย ก็คือจะฆ่าปิดตายตระกูลฉีชัดๆ!
“รับทราบครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” ทว่าในฐานะผู้ช่วย ไม่นานเขาก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว แต่มีอีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้เขาคิดหนักกว่าเดิม “นายครับ แล้ว......กระทู้ข่าวอันนี้จะเอาออกไหมครับ?”
“ไม่จำเป็น.....” เฉียวหยู่โม่เคาะนิ้วบนโต๊ะเบาๆ เสียงกังวานดังขึ้น ในหัวกลับผุดรูปที่เขากับเหลิงหยุนฉียืนชิดกันจนหน้าแทบสัมผัสกัน ภายใต้ดอกไม้ไฟเต็มท้องฟ้า แววตาของเหลิงหยุนฉีพร่างพราวดุจดวงดาว
“ถ่ายภาพได้ไม่เลว” เขาทิ้งคำพูดนี้ไว้อย่างราบเรียบ ก่อนจะก้มหน้าทำงานต่อ
แต่หลัวจิ้นกลับเบิกตาโพลงจนลูกตาแทบหลุดออกจากเบ้า!”
เจ้านายเขาที่ปกติไม่ชอบเป็นจุดสนใจ กลับยอมถูกแขวนไว้บนเทรนด์ยอดนิยมเนี่ยนะ?
เพราะคนที่ถูกแขวนด้วยกันกับเขาคือเหลิงหยุนฉีงั้นเหรอ?”
คิดได้ดังนั้น หลัวจิ้นก็ลอบระบุเหลิงหยุนฉีให้เป็น “บุคคลสำคัญ” ทันที
นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
เขาเดินออกจากห้องทำงานไปพลาง เริ่มคุยโทรศัพท์ไปพลาง ความสัมพันธ์ในวงการธุรกิจของเมืองหลวงนั้นซับซ้อน ทว่าบริษัทที่เคยมาประกวดราคาก่อนหน้านี้ เฉียวซื่อต่างทำการตรวจสอบมาโดยเฉพาะแล้ว ตระกูลฉีไปมาหาสู่เรื่องธุรกิจเป็นหลัก เขาเข้าใจดีอย่างแจ่มแจ้ง โทรศัพท์ไม่กี่สาย ก็ตัดเส้นทางธุรกิจของตระกูลฉีทีเดียว
ตอนที่เดินออกจากบริษัท หลัวจิ้นเงยหน้ามองไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนสุด พลางอดไม่ได้ที่สูดหายใจทีหนึ่ง---
โจวหยุนสงสัยว่าเธอกำลังโมโหถึงขีดสุดจนขำออกเสียง ทว่าอีกฝ่ายกลับวางสายไปแล้ว
เหลิงหยุนฉีเข้าไปในเวย์ปั๋ว และก็เป็นไปตามคาด มีคนส่งข้อความส่วนตัวมาหาเธอจนโทรศัพท์เธอแทบระเบิด ถึงขั้นเครื่องค้างไปชั่วขณะจนใช้งานไม่ได้ เธอเมินข้อความเหล่านี้ พลันกดไปดูการคลื่อนไหวล่าสุดของเทรนด์ยอดนิยม
ตอนที่เธอเห็นรูปถ่ายตัวเองกับเฉียวหยู่โม่ขึ้นไปยังอันดับสูงสุด ในหัวเธอมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น---
เมื่อคืนฝ่าย PR ของเฉียวซื่อนัดกันหยุดงานหรือไง?
ทำไมถึงปล่อยให้รูปภาพที่โชว์หน้าเจ้านายพวกเขาโต้งๆแบบนี้ถูกแขวนไว้ทั้งคืน???
ในกลุ่มวีแชต ฉีหลัวซานยังคง @หาเธอประหนึ่งคลุ้มคลั่ง เร่งให้เธอรีบออกมาตอบ
เหลิงหยุนฉีแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง รนหาที่ตายเอง ก็อย่าโทษใครละกัน : @ฉีหลัวซาน ไม่ต้องรีบ! รอหุ้นบริษัทบ้านเธอ limit down เถอะ”
แขกเหรื่อที่มาร่วมงานวันเกิดเธอเมื่อคืน แต่ละคนต่างมีแบคกราวด์ที่ไม่ธรรมดา ตระกูลฉีไม่รู้จักเฉียวหยู่โม่ แต่เดี๋ยวก็มีคนไปเปิดโลกให้พวกเขาเอง
ที่สำคัญที่สุดคือ ก่อนเธอเกิดใหม่ แม้เธอจะไม่เคยข้องเกี่ยวกับเฉียวหยู่โม่โดยตรงมาก่อน แต่กลับเข้าใจดีถึงอิทธิพลของเฉียวซื่อ เทียบกับตระกูลเซียวที่มีทุนทรัพย์หนาโต ตระกูลเฉียวต่างหากที่เป็นความน่ากลัวที่แท้จริง! ดูหมิ่นผู้สืบทอดของตระกูลเฉียวอย่างเปิดเผยแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าไปเอาความกล้ามาจากไหน!
อีกอย่าง เฉียวหยู่โม่คือแขกที่คุณปู่เขาเชิญมาเป็นแบคหนุนหลังให้เธอโดยเฉพาะเชียวนะ ฉีหลัวซานทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ บ้านเธอเองก็ไม่มีทางปล่อยให้ตระกูลฉีได้อยู่ดีมีสุขแน่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก