ขณะที่เหลิงหยุนฉีและจางหมินแม่ของเธอกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ในห้องรับแขก กริ่งประตูก็ดังขึ้น ผ่านไปครู่หนึ่ง พ่อบ้านก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก้มมองไปทางเหลิงหยุนฉี “คุณหนู สามคนพ่อแม่ลูกตระกูลฉีบอกว่าต้องการขอโทษคุณหนู ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดรออยู่ที่ประตูแล้ว”
“ตระกูลฉี?” หลังจากทานโจ๊กแล้ว จางหมินใช้ผ้าเช็ดปาก แล้วมองเหลิงหยุนฉีด้วยสายตาแปลก ๆ “เมื่อวานลูกตั้งใจไม่เชิญพวกเขามาร่วมงานวันเกิดไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมพวกเขาถึงได้มาขอโทษลูกล่ะ?”
จางหมินเป็นคนที่รักสุขภาพ หลังจากงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อคืนเสร็จสิ้นแล้ว เธอก็เข้านอนทันที จนถึงตอนนี้แล้วเธอยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นบนเวย์ปั๋ว
เหลิงหยุนฉีรู้สึกว่าการอธิบายนั้นมันค่อนข้างยุ่งยาก ดังนั้นเธอจึงเปิดโทรศัพท์โดยตรง เพื่อให้แม่ของเธอดูรูปถ่ายในฟาดหัวข้อข่าวการค้นหายอดนิยมบนโลกโซเชียลก่อน จากนั้นจึงชี้ไปที่คำตอบกลับของฉีหลัวซานที่อยู่บนโพสต์
“เหลวไหล!”
“ชู่”
ใบหน้าของจางหมินเคร่งขรึมลงทันที!
เดิมทีเธอมีความรู้สึกปกติกับฉีหลัวซาน จำได้เพียงว่าเธอและลูกสาวของตนเองอยู่ชั้นเรียนเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยการอบรมเลี้ยงดูของเธอ มันยากที่จะจินตนาการว่าอีกฝ่ายเป็นคนปากเสียตั้งอายุน้อย! ไม่เพียงกล่าวหาลูกสาวของตนเองจ้างเด็กเลี้ยงเท่านั้น แต่ยังเจตนาโกหกและเสแสร้ง
ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเฉียวหยู่โม่! เพราะเขาเห็นแก่หน้าพ่อสามีของตนเอง จึงมาปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อเป็นเกียรติของตระกูลเฉียว แต่กลับถูกนางตัวแสบคนนี้ด่าว่าเขานั้นใช้หน้าตาทำมาหากิน!
ตอนนี้ เรื่องนี้ไม่เพียงแพร่กระจายไปทั่ววงการคนดังของเมืองหลวงเท่านั้น แต่ยังสร้างความตื่นตระหนกบนโลกโซเชียลอีกด้วย!
เมื่อเหลิงหยุนฉีเห็นท่าทางของแม่ตนเองแล้ว อดไม่ได้ที่จะตบหลังมือของแม่เบา ๆ “คุณแม่ มันไม่คุ้มที่จะโกรธคนแบบนี้ มันจะเสียสุขภาพ”
จากนั้นเธอก็หันไปมองพ่อบ้าน “ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”
พ่อบ้านก้มหัวตอบรับ และเดินออกไปอย่างช้า ๆ
ฉีหลัวซานรออยู่ข้างนอกกับพ่อแม่ของเธอนานเกือบสิบนาที ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามา เดิมอารมณ์ที่วิตกกังวล และเมื่อเห็นภายในของคฤหาสน์เหลิงแล้ว ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกสับสนวุ่นวายมากยิ่งขึ้น
ตอนที่อยู่ในโรงเรียน เธอนั้นก็เป็นคุณหนูที่ถือกระเป๋ารุ่นที่จำกัดอยู่ตลอด เธอคิดมาโดยตลอดว่าตนเองไม่ได้แตกต่างจากเหลิงหยุนฉีมากนัก จนกระทั่งเมื่อเธอมาถึงคฤหาสน์เหลิง ถึงได้รู้ว่าก่อนหน้านั้นตนเองนั้นไร้เดียงสาเพียงใด
คนที่เก่งอย่างแท้จริงในเมืองหลวงไม่ใช่คนที่มีเงิน แต่เป็นคนที่มีพลังอำนาจอย่างแท้จริง
สถานที่อย่างคฤหาสน์เหลิง...
ไม่ใช่ตระกูลฉีของตนเองเทียบได้!
ไม่ต้องพูดถึงการตกแต่งที่สวยงามแปลกตาและคลาสสิค ภาพที่แขวนอยู่บนผนังนั้นล้วนเป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียง!
ถ้วยกาแฟโบไชน่าถูกวางลงบนโต๊ะเบา ๆ และเสียงที่ดังก้องกังวาน ทำให้สามคนพ่อแม่ลูกของตระกูลฉีได้สติขึ้นมา
เหลิงหยุนฉีมองสมาชิกทั้งสามคนของตระกูลฉีด้วยรอยยิ้ม
“คุณอา คุณน้า มาเช้าขนาดนี้ มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”
ขณะที่พูด เธอไม่ได้เหลือบมองฉีหลัวซานแม้แต่หางตา และคิดว่าเธอว่าเป็นอากาศธาตุ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉีหลัวซานคงโมโหจนหน้าแดงไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ฉีเกาเซิ่งและภรรยาตัวแข็งทื่อ เห็นอย่างชัดเจนว่าเหลิงหยุนฉีนั้นรู้อยู่แก่ใจแต่ยังแกล้งถาม
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา คุณหญิงฉีเคยชินกับชีวิตที่ราบรื่น นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่ง ตนเองในฐานะผู้อาวุโสแต่ต้องอ่อนน้อมถ่อมต่อหญิงสาวคนหนึ่ง และแม้แต่การพูดก็ยากลำบาก
“หลานสาวเหลิง เรื่องมันเป็นเช่นนี้ เมื่อคืนหลัวซานกับเพื่อนไปดื่มเหล้าที่บาร์ จนสติเลอะเลือน แล้วโพสต์เรื่องเหลวไหลบนโลกโซเชียล พวกเราได้อบรมสั่งสอนเธอแล้ว ตอนนี้พวกเราพาเธอมาขอโทษหนู เพื่อเห็นแก่ที่พวกหนูเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมาสี่ปี หนูให้อภัยเธอสักครั้ง พวกเราสัญญาว่าต่อไปจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก!”
หลังจากนั้น เธอดึงฉีหลัวซานที่ยืนอยู่ด้านข้าง แล้วกดศีรษะของเธอลง และกำลังจะโค้งคำนับเพื่อขอโทษเหลิงหยุนฉี...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก