เฉียวหยู่โม่แสดงออกอย่างชัดเจนขนาดนี้ สีหน้าของทุกคนที่มองเหลิงหยุนฉีเปลี่ยนไปในทันที
พวกเขาโตมาในวงการพิเศษแบบนี้ ทุกการกระทำของพวกเขามีความหมายแฝงเสมอ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเฉียวหยู่โม่เลย!
เขาไม่เคยมีรอยยิ้มแบบนี้ให้กับใครมาก่อน
หวังเชียนถึงกับกลั้นหายใจ เขาไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ จึงพูดในใจรัวๆว่า "พระเจ้า" !!
เมื่อก่อนเขาคิดว่าพี่เฉียวเป็นชายที่ใจแข็งไม่สนเรื่องผู้หญิง แต่ตอนนี้เขาพึ่งค้นพบว่า! นั่นเป็นเพราะไม่มีสาวคนไหนเข้าตาพี่เฉียวเลย
ตอนนี้เหรอ?
ชิช้ะ!
ยังจะต้องพูดอีกเหรอ?
แววตาแบบนี้!
เยี่ยมไปเลย
หากว่าเขาเป็นผู้หญิง เขาสามารถพุ่งเข้ามาเขาได้ในทันที
ไม่ใช่แค่เขาที่คิดเช่นนี้ ฟางรัวถังและคนอื่นๆต่างก็เริ่มเดาใจท่านชายคนนี้ไม่ออกแล้ว
ทุกคนรอดูปฏิกิริยาตอบโต้ของเหลิงหยุนฉีอย่างไม่รู้ตัว........
และแล้ว ทุกคนคาดไม่ถึง นางตอบกับด้วยสีหน้าที่ตะลึงเล็กน้อยเท่านั้น เพียงเสี้ยววินาทีก็กลับไปเป็นปกติ อีกทั้งยังเริ่มได้ใจได้คืบอยากเอาศอก “เห็นแก่ที่ฉันกระตือรือร้นที่จะเอาเงินให้คุณ ถือว่าเป็นการคืนบุญคุณหรือไม่?”
เฉียวหยู่โม่รู้สึกแปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง ไม่คิดว่าเธอจะไม่รู้ตัวเลย เขาส่ายหน้าอย่างห้ามไม่ได้และตอบเธอไปว่า “ฝันไปเถอะ”
เหลิงหยุนฉีกะพริบตา “ถือเป็นการคืนบุญคุณอาหารจีนรอบนั้นไม่ได้เหรอ? เงินนี้มีมากกว่าค่าอาหารอีก”
“ฉะนั้นแปลว่า คุณไม่อยากไปทานข้าวกับผมอีกเหรอ?” เฉียวหยู่โม่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เหลิงหยุนฉีรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย
คนคนนี้มัน……
จัดการยากเสียจริง
เธอหนีก็หนีเกือบจะไม่พ้นแล้ว จะให้เธอหาเรื่องให้เฉียวหยู่โม่เห็นความผิดปกติของเขาอีกเหรอ?
ดังนั้น เธอจึงยิ้มอย่างเชื่องช้าให้ฟางรัวถัง “ฉันเล่นหมากรุกไม่เก่งเท่าไหร่นัก คุณปู่บอกว่าฉันนั้นสอนยังไงก็ไม่ได้เรื่อง”
ฟางรัวถังมองไปที่โต๊ะ เมื่อเห็นการเล่นไพ่ของเธอที่ใจเด็ดยิ่งกว่าใครๆ เขายิ้มและมองไปที่เฉียวหยู่โม่
เป็นไปตามคาด……
สีหน้าที่เขามองไปที่เหลิงหยุนฉีนั้นมีความหมายแฝงและลึกซึ้ง
รอยยิ้มที่อยู่ในแววตา เขาเกียจคร้านที่จะซ่อน
เหลิงหยุนฉีมองดูแววตาที่ไม่ปกติของทุกคนในห้อง จากนั้นก็มองดูนาฬิกาอย่างสงบ “นี่มันสามทุ่มกว่าแล้ว เมื่อคุณชายเฉียวไม่ได้พักผ่อนดีๆไม่ใช่เหรอ? หรือว่าวันนี้เราจบเพียงเท่านี้ดีกว่า ครั้งหน้า ฉันเป็นเจ้ามือเอง แล้วทุกคนมาสังสรรค์กันอีกครั้งดีไหม?”
สายตาของทุกคนจับจ้องไปทางเฉียวหยู่โม่ ต่างก็รอความเห็นของเขา
เฉียวหยู่โม่จ้องไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเหลิงหยุนฉีเป็นเวลานาน จากนั้นจึงกระซิบออกมาเบาๆว่า "เจ้าจิ้งจอกเจ้าเล่ห์" ประโยคนี้เสียเบาอย่างมาก ราวกับว่าพูดอยู่ในปาก
เหลิงหยุนฉีนั่งใกล้เขามากที่สุด มีเพียงเธอที่ได้ยิน เธอตัวแข็งทื่อและแสดงสีหน้าออกมาว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก