เหลียงลั่วหลินเดาได้ไม่มีผิด ทันทีที่นั่งลงในห้องวีไอพีของโรงแรม ผู้กำกับเคอก็เสนอความคิดนี้ในทันที: “ผมอยากจะเชิญคุณหนูเหลิงมารับบทเป็น‘รัวถง’”
ทั้งห้องวีไอพี เกิดความเงียบขึ้นอย่างกะทันหัน
โจวหยุนกรีดร้องเสียงดังลั่นอยู่ในก้นบึ้งหัวใจเป็นพักๆ!!!
กรีดดดดดดดดดดด!!!
เธอก็รู้ว่าจะเป็นแบบนี้!!!
สายตาของเหลิงหยุนฉีนิ่งเล็กน้อย มองไปทางผู้กำกับเคอ ปฏิกิริยาแรกคือคนที่ทำงานศิลปะก็ปรวนแปรไม่แน่วแน่ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?
เธอแค่มาเยี่ยมชมในกองถ่าย ไม่ได้เตรียมตัวที่จะเข้าวงการ
“ผมรู้ว่าคุณหนูเหลิงไม่เคยแสดงละครมาก่อน แต่ความรู้สึกของคุณกับรัวถงตรงกันมาก คุณหนูเหลิงน่าจะลองดู”
ผู้กำกับเคอมีชื่อเสียงมาเป็นเวลานาน นักแสดงหญิงมีแต่จะวิ่งเข้ามาขอแสดงหนังของเขามาโดยตลอด นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาเป็นคนเชิญคนนอกวงการมาแสดงหนังก่อน พูดโน้มน้าวขึ้นมา ยากที่จะเลี่ยงเป็นมือใหม่หัดทำไม่ได้
แต่ว่านี่ก็โทษเขาไม่ได้หรอก
ทั้งห้องวีไอพี มีเพียงโจวหยุนเท่านั้นที่รู้ตัวตนภูมิหลังของเหลิงหยุนฉีดีที่สุด เขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหลิงหยุนฉีกันแน่ ก็ย่อมไม่สามารถพูดโน้มน้าวให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่เธอคิดได้จริงๆ
เว่ยหยูถอนหายใจที่เหลียงลั่วหลินเดาถูกทั้งหมดไปด้วย อดไม่ได้ที่จะจ้องมอง เหลิงหยุนฉีตั้งแต่หัวจรดเท้าไปด้วย
ไม่มีความรู้สึกประหลาดใจจากการได้รับความสำคัญอย่างไม่คาดฝันเลยสักนิด
สำหรับโอกาสใฝ่ฝันของนักแสดงสาวในวงการ ไม่มีท่าทางประหลาดใจเลยสักนิด
มันน่าแปลกมากจริงๆ
โอกาสมีชื่อเสียงอยู่ตรงหน้าก็ไม่ต้องการเหรอ?
ต้องรู้ว่า วงการบันเทิงเป็นสถานที่ทำเงินที่ง่ายที่สุด
ใครบ้างจะรู้สึกว่าเงินเยอะเกินไป?
“ผู้กำกับเคอ” เหลิงหยุนฉีคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “ฉันขอบคุณมากที่คุณให้เกียรติฉันขนาดนี้ แต่ว่า ฉันไม่มีพื้นฐานการแสดงเลยสักนิด……”ยังไงซะคนอื่นเขาก็เจตนาดี อีกอย่างผู้กำกับที่มีชื่อเสียงเอ่ยปากพูดด้วยตัวเอง เหลิงหยุนฉีกำลังจะปฏิเสธอย่างสุภาพ
ตามแผนการเดิมของเธอ หลายวันนี้มาเป็นเพื่อนโจวหยุน เป็นเจ้าบ้านต้อนรับคนต่างถิ่นอย่างเต็มที่ เธอก็จะบินไปเซี่ยงไฮ้ รับช่วงบริษัทจางซื่ออย่างเป็นทางการ ไม่มีเวลาอะไรมาถ่ายหนังด้วยซ้ำ
“อะแฮ่ม!!”
ในเวลานี้เอง จู่ๆมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา ขัดจังหวะคำพูดของเหลิงหยุนฉีพอดี
ทุกคนในห้องวีไอพีมุ่งความสนใจไปที่นอกประตูครู่หนึ่ง
เหลิงหยุนฉีไม่ได้สนใจท่าทางสงสัยของคนที่นั่งอยู่ แต่จ้องมองชายหนุ่มชุดดำคนนั้นอย่างละเอียด จู่ๆก็นึกขึ้นได้ นี่เป็นหนึ่งในกลุ่มลูกไฮโซที่เล่นกับร่างเดิมได้ค่อนข้างดี
ดูเหมือนว่าตอนที่ร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเธอก่อนหน้านี้ ยังช่วยเธอตอกกลับคุณหนูมหาเศรษฐีหลายคนที่จุกจี้จุกจิกนั้น
ในงานเลี้ยงเธอก็ตอบรับปาก ว่ามีเวลาว่างจะไปคลับรถให้พวกเขาลองลัมโบร์กีนีvenenoคันนั้นของเธอ
“ขอโทษด้วย พอดีว่าเพื่อนของฉันมาจากเซี่ยงไฮ้ ฉันเกือบลืมไปเลย วันนี้ฉันไม่ได้ขับรถมา ไม่งั้นฉันให้คนขับรถส่งรถตรงไปที่สนามแข่งในตอนบ่ายดีกว่า รอพวกนายเล่นสนุกพอแล้ว ค่อยคืนให้ฉัน?”
ครอบครัวของตระกูลโจวส่วนใหญ่อยู่ในเซี่ยงไฮ้ ทางเมืองหลวงนี้ ก็ไม่ค่อยได้เข้าร่วมงานเลี้ยงของทายาทมหาเศรษฐี จือหมิงไม่รู้จักกับโจวหยุน แต่ได้ยินเหลิงหยุนฉีพูดแบบนี้ ก็พยักหน้าทักทายโจวหยุน จากนั้น ก็หันหน้าไปที่เหลิงหยุนฉีในทันที: “ช่างเหอะ บ้านของเธอนั้น แค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ล้วนเป็นกระสุนจริง ไปคืนรถที่เธอนั้น ยุ่งยากเกินไป รอเธอมีเวลาว่าง พวกเราค่อยนัดกัน”
จากนั้น ก็ทำท่าทาง“ไว้ค่อยคุยกัน” ก็เดินออกไป
ท่าทางของผู้จัดการที่เดิมตามหลังก็ร้อนรนเล็กน้อย
เมื่อกี้นี้เขาได้ยินอะไรน่ะ???
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของในบ้านก็ล้วนเป็นกระสุนจริงงั้นเหรอ???
คุณหนูคนนี้เป็นใครกัน???
ไม่เพียงแต่เขา ทั้งห้องวีไอพี นอกจากโจวหยุน ทุกคนก็มองไปทางเหลิงหยุนฉีด้วยท่าทางตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่เป็นนางร้าย เอ๊ย! นางเอก