บ้านของเฉิงเทียนหยวนอยู่ไม่ไกลจากทางเข้าหมู่บ้านเท่าไรนัก อีกทั้งยังใกล้ถนนสายหลัก ดังนั้นลุงชางจึงได้ขับเกวียนลาตรงไปที่บ้านของเขา
"ขอบคุณลุงชางมากครับ!" สองสามีภรรยาเอ่ยขอบคุณ
เฉิงเทียนฟาง เชิดหน้าส่งเสียงหึๆ ออกมา จากนั้นกระโดดลงจากเกวียนวิ่งหนีไป
ลุงชางเป็นคนเรียบง่ายตรงไปตรงมา เขาโบกมือขึ้นกล่าวว่า "ก็แค่ทางผ่าน ล้วนเป็นคนกันเองทั้งนั้นอย่าได้เกรงใจไปเลย" จากนั้นเขาก็ได้ขับเกวียนลาของตนจากไป
เซวียหลิงอดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านเฉิงเทียนฟางและพบว่าเธอวิ่งไปอีกทางหนึ่งแล้ว
"พี่หยวน อาฟางไม่รู้ว่าไปที่ไหนแล้ว"
เฉิงเทียนหยวนไม่อยากจะไปสนใจน้องสาวของตน เขาแบกกระเป๋ายกขึ้นสะพายบ่า
"ไม่ต้องไปสนใจเธอหรอกครับ เราเข้าไปทักทายพ่อแม่กันเถอะ เดี๋ยวลองถามดูว่าเธอยังฝึกงานในสหกรณ์ร้านค้าอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย!"
เฉิงเทียนหยวนเปิดประตูเข้าไป แล้วพาเซวียหลิงเดินตรงเข้าไปข้างใน
"พ่อครับแม่ครับ พวกเรากลับมาแล้ว!"
หลิวอิงแม่สามีรู้สึกตื่นเต้นดีใจจนวิ่งออกมา เธอเข้ามาหาเซวียหลิงแล้วกุมมือหล่อนเอาไว้เอ่ยถามสารพัดนานา
"ใช้ชีวิตอยู่ในอำเภอกันเป็นอย่างไรบ้าง การงานราบรื่นไหม? กินอยู่เป็นเช่นไร? ทำไมถึงผอมแบบนี้ล่ะ ลูกต้องกินให้มากกว่านี้นะ!"
เซวียหลิงตอบรับยิ้มแล้วถามว่า "พ่อล่ะคะ? ร่างกายพ่อเป็นอย่างไรบ้าง?"
รอยยิ้มที่มุมปากของหลิวอิง จางลงเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม แขนของเขามักจะกระตุกอยู่ตลอดเวลา เมื่อไม่กี่วันก่อนเพิ่งจะไปเก็บผักกาดตั้งใจจะมาฉลองในช่วงเทศกาล ก็เลยยุ่งๆ เมื่อวานนี้บ่นว่าเจ็บอีกแล้ว"
เฉิงเทียนหยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นพูดว่า "ผักกาดจะทิ้งเอาไว้อยู่ในแปลงก่อนก็ได้ แม่ครับ แม่จะให้พ่อไปช่วยงานในนาเป็นประจำแบบนี้ไม่ได้ รอให้ผมกลับมาก่อน ผมทำงานเสร็จได้ภายในหนึ่งวันอยู่แล้ว"
หลิวอิงรีบส่ายหน้าพูดด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มว่า "ไหนๆ ก็เก็บเสร็จแล้ว กว่าลูกจะได้หยุดพักผ่อนสักวันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อย่าไปเหน็ดเหนื่อยอยู่ในนาอีก พ่อของลูกเขาก็ไม่อาจนั่งอยู่บ้านเฉยๆ ทั้งวันทั้งคืนได้ ออกไปเดินเล่นเที่ยวบ้าง กระดูกและร่างกายถึงจะแข็งแรง"
เฉิงเทียนหยวนรู้สึกว่าแม่ของเขาพูดได้มีเหตุมีผลดังนั้นจึงได้หยุดพูด
เซวียหลิงรู้สึกปวดใจยิ่งนัก เธอรีบตอบขึ้นว่า "แม่คะ ของพวกนี้เราเอามาจากอำเภอ แม่เอาไปเข้าครัวก่อนเถอะค่ะ พวกเราจะไปดูพ่อสักหน่อย"
หลิวอิงเห็นของที่ใส่ไว้ในกระเป๋าใบใหญ่เธอก็ดีใจจนยิ้มขึ้น
"ทำไมถึงซื้อมาเยอะแยะขนาดนี้ล่ะ? แม่กับพ่อจะกินหมดได้อย่างไร พวกเราเอากลับไปช่วยกันกินด้วยนะ"
เซวียหลิงผลักออกไปเบาๆ พูดว่า "พวกนี้เป็นของแห้ง ต่อจากนี้อากาศจะเย็นขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าของพวกนี้จะเสียหายค่ะ เอาเก็บไว้ในห้องครัว พ่อกับแม่จะได้กินมากขึ้น ฉันกับพี่หยวนอยู่ในอำเภอ อยากกินเมื่อไหร่เพียงแค่ไปตลาดก็มีให้กิน"
หลิวอิงกะพริบตาน้ำตานองหน้า เธอพูดด้วยความซาบซึ้งใจว่า
"หลิงหลิงเป็นคนดีกตัญญูจริงๆ......เอาล่ะ เดี๋ยวแม่จะเอาไปเก็บและทำความสะอาดห้องครัวสักหน่อย"
เฉิงเทียนหยวนและเซวียหลิงเดินไปทางห้องด้านซ้ายแล้วตะโกนเรียกอยู่ข้างนอก ก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปข้างใน
ภายในห้องแสงค่อนข้างจะมืดมนเล็กน้อย ตรงหน้าต่างมีหนังสือพิมพ์สีเหลืองถูกแปะเอาไว้ ทำให้ภายในห้องดูสลัว
เฉิงมู่ไห่นั่งอยู่บนเตียงตั่ง เขาใส่แว่นสายตายาวกำลังหยิบอะไรบางอย่าง เมื่อเห็นพวกเขาเดินเข้ามาก็จ้องมองไปแล้วยิ้มออกมาอย่างรวดเร็ว
"อ้าว กลับมากันแล้วเหรอ? มาๆ วันนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ เทศกาลแบบนี้ควรจะกลับมาร่วมฉลองด้วยกัน หลิงหลิง ระยะทางที่เดินทางมาลำบากมากมาย ใช้ชีวิตอยู่ที่อำเภอ สบายดีหรือเปล่า?"
เซวียหลิงมีความเคารพต่อพ่อสามีคนนี้มาก เธอรีบก้าวไปข้างหน้าตอบว่า
"พ่อคะ พวกเราสบายดี ระยะทางจากในเมืองมาที่นี่แค่ครึ่งชั่วโมง ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ"
เธอเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงช่วงนี้ของทั้งสองคนให้แก่เขาฟัง "ตอนนี้พวกเรามีห้องเล็กๆ อาศัย ไปไหนมาไหนก็สะดวก อาหารเครื่องดื่มก็ไม่แพงและถูกสุขะลักษณะ รอเมื่อไหร่ที่พวกเรามีความมั่นคงมากกว่านี้จะมารับพ่อกับแม่ไปอยู่ด้วยนะคะ"
เฉิงมู่ไห่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกปลาบปลื้มใจอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้น "ดีๆ ตอนนี้ยังเช่าเขาอยู่ไม่เป็นไรหรอก เก็บเงินได้แล้วเราค่อยไปซื้อบ้าน"
เฉิงเทียนหยวนที่อยู่ด้านข้างดูประหลาดใจเล็กน้อยเขาคิดไม่ถึงว่าเซวียหลิงจะมีความคิดเช่นเดียวกันกับตน
เซวียหลิงเอื้อมมือมารับไปยิ้มแล้วพูดว่า "มันร้อนไปหน่อยนะคะ"
เฉิงเทียนหยวนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ระวังด้วยนะครับ"
พ่อเฉิงที่นั่งอยู่ด้านข้างเห็นแววตาอันอ่อนโยนออกจากลูกชายของตน ดังนั้น ก็รู้ได้ว่าเขาปฏิบัติอ่อนโยนกับภรรยาของตนมาก มุมปากอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้น
ตอนนั้นที่เขาสั่งให้แต่งงานกับหลิงหลิง ดูเหมือนว่าลูกชายจะนิ่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาเลย ตัวเขายังกังวลว่าลูกชายคนนี้มีผู้หญิงอยู่ข้างนอกแล้วหรือไม่
อีกอย่างอาฟางก็ได้แต่พูดว่า พี่ชายของเธอนั้นชื่นชอบโอวหยางเหมยที่อยู่ในหมู่บ้านตระกูลโอวหยางข้างๆ
แต่เขารู้ดีว่าลูกชายของตนทำสิ่งต่างๆ ด้วยเหตุผลและระมัดระวังเสมอ รู้ดีว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ดังนั้นจึงได้เรียกลูกชายเข้าไปในบ้านและเอ่ยถามอย่างละเอียด ว่ามีผู้หญิงที่ชื่นชอบอยู่หรือไม่
ในตอนนั้นเขาเห็นลูกชายของตนส่ายหน้าแล้วตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า "ไม่มี"
เขาเชื่อใจลูกชายของตนเองมาก ในเมื่อลูกชายพูดว่าไม่มี เช่นนั้นก็คงไม่มีจริงๆ
ต่อมาก็ได้เอ่ยถามเขาว่ามีความคลุมเครือกับสตรีคนอื่นหรือไม่ ซึ่งบุตรชายของตนก็ตอบว่าไม่มี
หลังจากที่ได้ยินลูกชายตอบดังนั้นเขาจึงได้รีบเร่งว่า "ถ้าอย่างนั้นจงพาแม่ของลูกไปที่เมืองหลวงเถิด การหมั้นหมายกำหนดมาตั้งหลายปีแล้ว ตอนนี้ควรจะรับหลิงหลิงเข้ามาเป็นภรรยาสักที"
ตอนนั้นที่อาศัยอยู่ในปากซอยต้าหูถง ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี
ตอนนี้มองดูแล้ว เหมือนการแต่งงานในครั้งนี้จะไม่ได้เลือกผิดไป
เซวียหลิงไปหาผ้าขนหนูมาผืนหนึ่งแล้วใช้ห่อถุงน้ำร้อนเอาไว้ เธอถือมันอยู่ในฝ่ามือซึ่งอบอุ่นมาก
"พ่อคะ พ่อมักจะบ่นว่าแขนพ่อเจ็บ กินยาแก้อักเสบอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น แถมยังเสียสุขภาพด้วย ไม่ดีต่อกระเพาะอาหาร หนูอ่านหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีนในหนังสือพิมพ์ เขาบอกว่าเส้นเลือดมันไม่เปิดจึงทำให้รู้สึกเจ็บปวด สามารถใช้น้ำร้อนประคบทำให้เส้นเลือดขยายตัวและ เลือดจะไหลเวียนได้สะดวก สามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ พ่อลองดูนะคะ"
เฉิงมู่ไห่พยักหน้ายอมรับแล้วเอื้อมมือมารับถุงน้ำร้อนใส่เข้าไปในแขนเสื้อ
"โอ้โห อุ่นมากสบายจริงๆ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง