สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง
ที่บ้านของเธอไม่มีรูปถ่ายนั้นอยู่จริง เธอหวนคิดถึงชีวิตในชาติก่อน รู้สึกคลุมเครือมากเกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่างที่บ้าน
เฉิงเทียนหยวนยิ้มแล้วอธิบายให้เธอฟัง “ลุงเซวีย ย้ายไปอย่างรวดเร็วในตอนนั้น หลังจากกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว พวกเธอก็ย้ายบ้านไปอีกครั้งใช่ไหม? เธอมักจะย้ายบ้านเสมอ ระยะทางการเดินทางก็ยาวไกล สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้หายง่ายจะตายไป”
เซวียหลิงกำรูปเล็กใบนั้นไว้ในมืออันอบอุ่นและอดไม่ได้ที่จะเก็บไว้เอง
เฉิงเทียนหยวนลังเลเขากระซิบว่า "ไม่ได้......ผมมีแค่ใบเดียว อย่าทำมันเสียหาย เอาเก็บไว้ในพจนานุกรมนั่นแหละดีแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายจากความชื้นในฤดูใบไม้ผลิ”
เซวียหลิงขมวดคิ้วด้วยความผิดหวังและพึมพำว่า "พี่หยวน ฉันก็เป็นหนึ่งในตัวเอกของรูปด้วย! ฉันมีสิทธิ์ที่จะเก็บมันไว้!"
เฉิงเทียนหยวนมองดูเธอด้วยความตำหนิ แต่แววตาเขากลับอ่อนโยนอย่างสุดจะพรรณนา
"ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันแล้ว เธอยังกังวลว่าจะไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปคู่กันอีกในอนาคตเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เซวียหลิงก็โอบกอดเขาด้วยหัวใจอันอ่อนหวาน
"เราไม่ได้ถ่ายรูปตั้งแต่แต่งงาน! เราหาโอกาสไปถ่ายรูปเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของเรากันดีไหม?"
“ตกลง” เฉิงเทียนหยวนตกลงอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “เราแต่งงานกันด้วยความเร่งรีบ หลายต่อหลายสิ่งผมได้ละเลยต่อคุณ......ต้องขอโทษด้วยนะ”
เขาวางรูปถ่ายลงไปแล้วโอบแขนเธอกอดไว้แน่น
เซวียหลิงยิ้มอย่างแผ่วเบา ก่อนถามว่า “พี่หยวน นายเก็บภาพนี้มาหลายปีแล้ว นายเอามันออกมาดูบ่อยไหม?”
หูของเฉิงเทียนหยวนแดงขึ้นเล็กน้อย เขาพยักหน้า
"......ก็มีบ้าง"
เซวียหลิงดีใจมากแล้วก็ยิ้มอีกครั้ง
"จริงเหรอ?"
เฉิงเทียนหยวนตอบว่า "อืม" แล้วนิ่งเงียบไป
บรรยากาศโดยรอบดูมีเสน่ห์คลุมเครือ ดูเหมือนเขาจะกลั้นหายใจไปนานก่อนกระซิบว่า “เรื่องการแต่งงานของเรา...…ผมจำได้เสมอ ไม่มีวันลืม”
เซวียหลิงหัวใจเต้นแรง!
เมื่อเธอย้ายออกจากปากซอยเธอยังเด็กและลืมหลายสิ่งหลายอย่างไปแล้ว
แต่เขาแก่กว่าเธอแค่ห้าปี กลับเขาจำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ได้
คู่รักในวัยเด็กเช่นนี้ สำหรับเขาแล้วมันสำคัญกว่าที่เธอคิดเสียอีก
ลำคอของเธอกระอึกกระอักอยู่ครู่หนึ่ง หัวใจของเธอร้อนผ่าว เธอเงยหน้าขึ้นสัมผัสใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ก่อนจะประทับริมฝีปากสีแดงของเธอลงไป!
เฉิงเทียนหยวนตะลึงงัน!
เขาตัวแข็งทื่อ แต่ก็รู้สึกตัวอย่างรวดเร็ว เขาจูบเธอกลับอย่างกระตือรือร้นและตื่นเต้น ลมหายใจของเขาดูหมดความอดทนและร้อนรน
เซวียหลิงไม่มีประสบการณ์ในการจูบ ดังนั้นจึงถูกเขาจูบจนรู้สึกอบอุ่นไปทั่วร่างกาย หัวใจของเธอร้อนผ่าว หายใจเหนื่อยหอบ
“พี่หยวน......”
เฉิงเทียนหยวนลืมทุกสิ่งอย่างไปทันควัน เขากดเธอไว้ใต้ร่างเขา บรรจงจูบเธออย่างอบอุ่น เขาจูบเธอตั้งแต่คอลงไปอย่างกระหาย และดึงเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว
“ที่รัก......ผม ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ! คืนนี้......คืนนี้ได้ไหม? ผมทนทรมานแทบตายแล้ว...…”
เซวียหลิงรู้สึกเวียนหัวเมื่อได้ยินคำพูดของเขา ใบหน้าของเธอแดงก่ำไปด้วยความอับอายไม่รู้จะตอบเขาอย่างไร ทำได้เพียงใช้ความรู้สึกตอบเขาอย่างเขินอาย
ท่าทางของเธอคือคำตอบแก่เขา
เฉิงเทียนหยวนหายใจเหนื่อยหอบแล้วจูบเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาจูบอย่างดูดดื่ม โอบกอดเธอไว้แน่นด้วยความเร่งรีบและหลงใหล
ข้างนอกสายลมพัดเย็น ฝนก็เริ่มเทลงมา
อุณหภูมิภายในบ้านเริ่มสูงขึ้น มันช่างสวยงามดูอบอุ่น
ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างหายใจถี่รัว
จากนั้นเขาก็ลงไปชั้นล่างเพื่อหุงข้าวต้ม ขี่จักรยานไปตลาดซื้อไก่สดมาตัวหนึ่ง และซื้อของอีกหลายๆ อย่างก่อนจะรีบกลับมา
เขาทำอาหารเช้าเสร็จแล้วแต่เซวียหลิงยังไม่ตื่น เขาไม่กล้าปลุกเธอ จึงได้กินเองแล้วนำส่วนของเธอมาอุ่นบนเตา
หลังจากนั้นเขาก็ฆ่าแม่ไก่ ทำความสะอาดโยนใส่ไปในหม้อ เทน้ำ ล้างพุทราสีแดงที่ซื้อมาและเก๋ากี้ นำมันใส่ลงไปในหม้อ
เตามีทั้งหมด 2 เตา เซวียหลิงซื้อมาเพิ่มเมื่อสองวันก่อนโดยเธอบอกว่าอากาศเริ่มเย็นลง เตานี้จะสามารถทำอาหารได้เร็วขึ้น ดังนั้นปัจจุบันเตาในครัวจึงเพียงพอสำหรับพวกเขา
เดิมทีทั้งสองตั้งใจว่าจะไปโทรศัพท์แต่เช้าตรู่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไปไม่ได้เสียแล้ว
เมื่อคืนนี้อากาศเย็นลงหลังจากฝนตก ลมพัดทำให้อากาศหนาวกว่าเมื่อวานมาก เขาไม่อยากปล่อยให้เธอออกไปถูกอากาศหนาวข้างนอก
พัดใส่ ตอนกลางวันมีแดดค่อยพาเธอออกไป
เมื่อเซวียหลิงตื่นขึ้น ก็เป็นเวลาเกือบจะเที่ยงแล้ว
เธอหรี่ตาพยายามจะลุกขึ้น แต่ทั้งเนื้อตัวของเธอเจ็บและปวดเมื่อยราวกับว่าร่างจะฉีกขาดออกจากกันหลังจากออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง
ฉากที่เร่าร้อนเมื่อคืนนี้ทำให้จิตใจของเธอท่วมท้น ใบหน้าเล็กๆ ของเธอกลายเป็นสีแดงเรื่ออย่างอดไม่ได้
ไม่น่าเชื่อว่าคืนวิวาห์จะมาถึงช้าขนาดนี้......
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย เขาทรมานเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับว่าต้องการเอาคืนในส่วนที่ติดค้างไว้ก่อนหน้านี้
เธอเหนื่อยมาก!
เธอมองไปรอบๆ พบว่าเสื้อผ้าของเธอถูกพับอย่างเรียบร้อยที่ข้างหมอน
เธอยิ้มขึ้นเบาๆ ชื่นชอบในความเอาใจใส่เช่นนี้ของเขา
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยดังมาจากประตู เขามาแล้ว!
เซวียหลิงจำได้ขึ้นใจถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกอายมาก เธอไม่ทันจะนำเสื้อผ้ามาสวมใส่ ได้แต่รีบคว้าผ้าห่มมาคลุมเอาไว้แล้วแทรกตัวเข้าไปหลบข้างใน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง