เซวียหลิงจ้องกลับด้วยความเย็นชาเรียบเฉย พูดด้วยใบหน้าสุขุม "โดยที่ไม่มีหลักฐาน พวกเธอพูดจาส่งเดชใส่ร้ายชื่อเสียงฉันได้ยังไง? ทำเกินไปแล้วนะ!"
เฉิงเทียนฟางพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ "เธอมันเล่นลิ้น! พี่เหมยเป็นคนเห็น! ผู้ชายสูงใหญ่คนหนึ่งขี่จักรยานพาเธอออกไป อีกชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะกลับมา!"
เซวียหลิงไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ "แค่นี้ก็มีปัญหาเหรอ? ถ้าฉันเป็นชู้กับคนอื่นจริง ฉันจะโง่พาเขามาที่บ้านตัวเองไหม! ให้มารับฉันที่ประตูบ้าน แถมมาส่งฉันอีก ไม่กลัวพี่ชายเธอรู้หรือไง? สมองเป็นสิ่งที่ดี พวกเธอสองคนควรมีมันมากหน่อยนะ!"
เฉิงเทียนหยวนวางแก้วลง หายใจเข้าลึกๆ มองเธอด้วยความสงสาร
"ที่รัก ไม่ต้องโกรธ......"
"ฉันโกรธมาก!" เซวียหลิงพูดเสียงเข้ม "ฉันประพฤติตัวบริสุทธิ์ ทำอะไรเหมาะสมและจริงใจ จะไม่ให้ใครมาใส่ร้ายฉัน มาดูถูกฉันต่อหน้า!"
เธอหันไปพูดกับเฉิงเทียนหยวน "ตอนบ่ายอาหู่ลูกพี่ลูกน้องของเฉินหมินมาหา เขาบอกว่าได้เงินขายที่ดินริมแม่น้ำมาแล้ว ตอนเช้าเขาไปรับเงินที่คณะกรรมการชุมชนมาแล้ว รีบมาบอกพวกเรา ให้พวกเรารีบไปเอา"
เฉิงเทียนหยวนพยักหน้า พูดด้วยความกังวล "ที่รัก เธอไม่ต้องอธิบาย......ฉันจะไม่เชื่อเธอได้ยังไง!"
"ไม่" เซวียหลิงพูดขึ้น "ฉันรู้พี่เชื่อฉัน แต่คนอื่นไม่เชื่อน่ะสิ! ฉันอยากเคลียร์ให้ตัวเองหน่อย จะได้ไม่โวยวายทะเลาะกันจนทำให้รู้สึกแย่ในใจ"
เฉิงเทียนหยวนฟังจบ ก็มองน้องสาวตัวเองด้วยความเย็นชา
ตั้งแต่แต่งงานเข้าบ้านมา เขาไม่เคยเห็นเธอโกรธขนาดนี้มาก่อน
ตัวก่อปัญหา! อย่าว่าแต่ทำให้พ่อแม่เป็นห่วง ยังทำให้ภรรยาโกรธขนาดนี้อีก!
เซวียหลิงอธิบายต่อ "อาหู่เขาบอกว่า ตอนเช้าทุกคนไปเอาหมดแล้ว ให้เรารีบไป ฉันอธิบายไปว่าพี่ไม่อยู่ พรุ่งนี้ค่อยไปก็ได้ แต่พอคิดว่าพรุ่งนี้พี่กับฉันต้องลางาน ส่งผลต่อการทำงานจะมีปัญหาเกินไป อาหู่เขาซื้อจักรยานคันใหม่มา เสนอเองว่าจะพาฉันไปเอา ถนนมันขับไม่สะดวก เลยไปชั่วโมงกว่าๆ ถึงกลับมา"
เธอจ้องมองโอวหยางเหมยและเฉิงเทียนฟาง แล้วพูดขึ้นเสียงดัง "เขาเป็นเพื่อนเรา เขาเคยมาแล้วสองสามครั้ง คุยกับเราเกี่ยวกับเรื่องเงิน ฉันบริสุทธิ์ใจกับเขา เพราะคุยกันไม่กี่ประโยค มีน้ำใจไปรับไปส่งฉันสองครั้ง ก็โดนพวกเธอพูดจาเหลวไหลจนกลายเป็นแบบนี้!"
เธอทำเสียงฮึดฮัดเย็นชา "จงใจใส่ร้ายชื่อเสียงผู้อื่น ต้องโทษทางกฎหมาย! พวกเธอรู้หรือเปล่า? ฉันมีสิทธิไปฟ้องหมิ่นประมาทพวกเธอที่สถานีตำรวจ พวกเธอรู้ไหม?"
เซวียหลิงพูดต่อ "ไม่ใช่แค่ฉันที่ทำได้ อาหู่ก็ทำได้เหมือนกัน! เขาก็มีสิทธิปกป้องชื่อเสียงตัวเองไม่ให้คนอื่นหมิ่นประมาท! ขัดแย้งกับคนอื่น แถมยังทะเลาะกับคนในครอบครัวอีก! เธอเป็นน้อง เธอไม่เคยคิดจะปกป้องสมาชิกในครอบครัวเหรอ? ถ้ามันเผยแพร่ออกไปเขาก็จะหัวเราะเยาะครอบครัวนี้ หัวเราะเยาะเธอด้วย!"
"ฉันเห็นเธอเป็นคนในครอบครัว เธอพูดอะไรฉันพยายามอดทนให้มากที่สุด แต่คราวนี้เธอทำเกินไปแล้ว! ถ้าจากนี้ไปเธอกล้าพูดจาเหลวไหลใส่ฉันอีก ฉันจะไปฟ้องเธอทันที! เธอใกล้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบเอง!"
โอวหยางเหมยกับเฉิงเทียนฟางตกใจกลัวจนหน้าซีด หดตัวไปด้านหลังอย่างต่อเนื่อง
ยังไงแล้วเซวียหลิงก็เป็นคนมีประสบการณ์มากมาย ปกติจะซ่อนไว้เป็นอย่างดี ตอนนี้จู่ๆ เธอระเบิดความโกรธ อำนาจของหญิงแกร่งก็เผยออกมา!
เฉิงเทียนฟางสองสาวชนบท เขียนคำว่า "กฎหมาย" สองคำนี้ไม่เป็นด้วยซ้ำ จะเข้าใจเรื่องกฎหมายได้ยังไง!
ตกใจกลัวเธอ ตัวสั่นระริกทันที อิงแอบกันไม่กล้าพูดอะไร
เฉิงเทียนหยวนเดินไปข้างหน้า คว้าแขนเซวียหลิงเอาไว้
"ที่รัก เธอไม่ต้องโกรธนะ อีกสองวันหิมะละลาย ฉันจะส่งหล่อนกลับหมู่บ้าน หล่อนไม่มีสมอง เธออย่าโกรธหล่อนเลย จะได้ไม่โกรธจนเสียสุขภาพ"
เซวียหลิงมองชายอบอุ่นตรงหน้า ต้องอดทนความใจร้อนที่จะระเบิดออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง
แต่เธอไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้วจริงๆ หันหลังขึ้นไปข้างบน
เฉิงเทียนหยวนเห็นเธอขึ้นไปข้างบน ก็รีบวิ่งตามขึ้นไป
"ที่รัก!"
เซวียหลิงโบกมือบอกปัด แล้วพูดเสียงทุ้ม "ฉันเหนื่อยมาก ขอกลับไปนอนที่ห้องสักพัก เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน"
เรื่องนี้เธออยากทำมาหลายเดือนแล้ว กว่าจะเก็บเงินได้มากพอ ต้องรีบจัดการ
ตอนแรกเฉิงเทียนหยวนคิดว่าเธอจะบ่นเรื่องน้องสาวตนกับตน ไม่คิดว่าเธอจะพูดถึงอาการป่วยของคุณพ่อ
เธอเพิ่งแต่งเข้าบ้านได้ไม่นาน เสี่ยวกูจื่อมักจะหาเรื่องเธอ พูดจาไม่น่าฟัง แต่เธอกลับคำนึงถึงครอบครัวนี้ อดทนมาตลอด แถมยังพยายามหาเงินเต็มที่อยากช่วยพ่อไปหาหมอ
ชาติที่แล้วเขาทำความดีใหญ่หลวงช่วยจักรวาลอะไรหรือเปล่า ไม่งั้นทำไมถึงโชคดี----ได้แต่งกับภรรยาผู้แสนดีขนาดนี้!
เขาเก็บความคิดในใจ แล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม "ที่ตัวฉันมีเก็บไว้หลายร้อยหยวน ถึงตอนนั้นรวบรวมใช้ด้วยกัน แค่ว่าเราจะไปเมื่อไร?"
เซวียหลิงตอบ "ฉันตัดรายงานนั้นมาแล้ว ในนั้นน่าจะมีเบอร์ติดต่อสอบถามของทางโรงพยาบาล พรุ่งนี้ฉันจะออกไปหา เราหาเวลาไปถามดูก่อน แล้วค่อยไปบอกให้พ่อเตรียมเดินทาง"
เฉิงเทียนหยวนคิดแล้วพูดขึ้น "ฉันไปกับพ่อก็พอแล้ว งานเธอค่อนข้างมีมาตรฐาน ลางานยากกว่าฉัน อีกอย่างอากาศหนาวมาก เธอออกไปด้วยแล้วฉันไม่วางใจ"
เซวียหลิงหัวเราะเบาๆ "รอถามก่อนค่อยวางแผนอีกที สุขภาพร่างกายคนที่บ้านสำคัญกว่างาน เราทำงานก็เพื่อให้ชีวิตที่บ้านดีขึ้นนะ"
เฉิงเทียนหยวนประทับใจมาก กอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่น
"ที่รัก......"
เขาไม่ใช่คนพูดเก่ง จึงต้องใช้กอดเรียบง่ายแสดงออกถึงความตื้นตันใจและความซาบซึ้งในใจตอนนี้
เซวียหลิงนึกถึงรอยเท้าก่อนหน้านี้ จึงดึงมุมเสื้อเขา
"พี่อย่าดุน้องนะ วันนี้เธอแอบออกไปอีกแล้ว พี่ต้องเอาใจใส่ให้มากขึ้น อย่าให้เธอไปยุ่งกับหลินชงอีก"
เฉิงเทียนหยวนแววตาเย็นชาบูดบึ้ง แต่ก็พยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เกิดใหม่ยุค80 กุลสตรีอย่างข้าจะพารวยเอง