หลังจากวันที่เชนน์ไปจากกองถ่าย ทีมงานทุกคนในกองถ่ายต่างพากันซุบซิบ เรื่องที่เขาแอบมีความสัมพันธ์กับแยนนี่
ทีมงานหลายคนกระซิบกันในห้องน้ำ
"แยนนี่ไม่ใช่คนในวงการบันเทิง แต่เธอได้เล่นเป็นนักแสดงนำคนที่สาม ในการปรากฎตัวครั้งแรก ฉันรู้ว่าเรื่องนี้มีพิรุธ"
"เธอโชคดีมาก ที่ท่านประธานเชนน์ถูกใจเธอ"
"ได้ยินว่าท่านประธานเชนน์ไม่ให้ให้เธอถ่ายฉากจูบเลย เขาให้ผู้กำกับและคนเขียนบท ลบฉากจูบออกจากบทของเธอด้วย"
"พระเจ้า เหมือฉากโรแมนติกของซีอีโอในนิยายเลย เธอทำได้ทุกอย่างเพื่อเงินเลยนะ!"
"งั้นเหรอ? ละครเรื่องนี้ จิน กรุ๊ป เป็นผู้สนับสนุน ถ้าท่านประธานเชนน์อยากให้เปลี่ยนฉาก ผู้กำกับหรือคนเขียนบทจะปฏิเสธได้เหรอ?"
แกร็ก
แยนนี่เปิดประตู เธอเดินออกมาล้างมือด้วยท่าทางไม่พอใจ
คนที่กำลังนินทาอยู่เงียบทันที พวกเธอมองหน้ากัน และทำหน้าเจื่อนออกไปจากห้องน้ำ
ลิลี่เดินออกมาจากอีกห้องและเจอแยนนี่
เธอมองแยนนี่ผ่านกระจกแล้วยิ้ม "ขอบคุณนะ ที่เมื่อวานช่วยฉันไว้ ฉันจะตอบแทนทีหลัง"
"อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลย"
ลิลี่ถามต่อ "เธอรู้จัก วิเวียน รี้ด หรือเปล่า? เธอเปิดตัวครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน และไม่มีใครรู้จัก จนได้มาเป็นคนรักของท่านประธานเชนน์ หลังจากนั้นก็มีชื่องเสียงมากขึ้น ท่านประธานเชนน์ตามใจและให้ทุกอย่างที่เธอขอ รวมถึงได้เป็นนางเอกหนัง ที่ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ตราบใดที่วิเวียนร้องขอ ท่านประธานเชนน์ก็จะให้เธอ"
"แต่ว่า..." ลิลี่ทำเป็นลังเลสักพัก เธอยิ้มแล้วบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน "ไม่ว่าพวกเขาจะรักกันแค่ไหน ท่านประธานเชนน์ก็เป็นไร้หัวใจ พวกเขาเคยเลิกกันครั้งนึง เขายกเลิกงานโชว์ตัวและข้อตกลงทั้งหมด มีช่วงที่เธอไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างให้ทีมงาน เธอแย่กว่าดาราระดับสามอีก"
แยนนี่เม้มปากและถามลิลี่ตรง ๆ "คุณอยากจะบอกอะไร?"
"ฉันแค่จะบอกเธอว่าอย่ามั่นใจเกินไป แค่เพราะท่านประธานเชนน์สนใจเธอ วิเวียนสนิทกับท่านประธานเชนน์มาก แต่เธอก็ถูกทิ้งทันที ดูสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับวิเวียน แล้วเธอคิดว่าเธอเป็นใครล่ะ?"
ลิลี่ยิ้มด้วยความพอใจ ที่ได้สั่งสอนแยนนี่
"ขอบคุณที่เตือนนะ แต่ฉันไม่ใช่ วิเวียน รี้ด" แยนนี่บอกเธอ
ลิลี่มองด้านหลังแยนนี่แล้วกลอกตา "เธอจะหยิ่งทำไม? สุดท้ายเธอก็จะเป็นเหมือนวิเวียน!"
'ไม่สิ เธอจะแย่กว่าวิเวียนอีก!'
คำพูดของลิลี่ยังดังอยู่ในใจแยนนี่ หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำแล้ว
คำพูดของเธอก็มีเหตุผล
มีคำพูดที่ว่า "ยิ่งปีนขึ้นไปสูง ก็ยิ่งตกลงมาเจ็บ" แยนนี่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เชนน์จะผลักเธอตกลงมา
เธอต้องการให้เชนน์สนับสนุนเธอ ถ้าเขาทิ้งเธอก่อนที่เธอจะประสบความสำเร็จ เธอก็จะไม่เหลืออะไรเลย
แยนนี่ต้องเรียนรู้ให้มากที่สุด ตั้งแต่เชนน์ออกไปจากกองถ่ายในวันนั้น เขาก็ไม่ได้ติดต่อเธออีก
แยนนี่ไม่ได้คิดมาก เธอคิดว่าเชนน์คงเบื่อเธอ
ดูจากการที่ได้อยู่กับเขามา ความสนใจที่เชนน์นั้นมีต่อเธอ เหมือนเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่หลายวัน แล้วก็ดับลงอย่างรวดเร็ว เขาจะมาหาเธออีกในเดือนหน้า เพราะเขาคงเริ่มสนใจเธออีก
'ฉันคงเป็นแค่คนรับใช้ที่เขาประมูลมา' เธอคิดในใจ
การถ่ายทำสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นกลางฤดูร้อนในเมือง นอร์ท ซิตี้
แยนนี่ออกไปทำงานมากกว่าหนึ่งเดือน และเป็นนักแสดงแทนหลายฉาก ทำให้ผิวของเธอค่อนข้างคล้ำ
เธอเพิ่งกลับมาถึงบ้านและยังไม่ได้เอาของออกจากกระเป๋า ซาแมนธาก็โทรหาเธอ
"พี่กลับมาจากป่าแล้วเหรอ แยนนี่?"
"ใช่ ซาแมนธา มีอะไรเหรอ?"
ซาแมนธาทำเสียงน่าสงสาร "พี่แยนนี่...คือ...ผลสอบปลายภาคฉันออกมาไม่ดี และครูก็เรียกประชุมผู้ปกครอง ถ้าพี่ใหญ่รู้ว่าสอบตก ฉันต้องถูกตีก้นและโดนตัดเงินแน่! ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันจะไม่เหลือเงินให้ใช้เลยนะ!"
แยนนี่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร เธอยิ้มแล้วถาม "อยากให้พี่ไปประชุมผู้ปกครองแทนพี่ใหญ่ใช่ไหม?
"ใช่แล้ว! พี่เป็นพี่สาวให้ฉันได้! เพราะพี่สวยเหมือนฉัน ครูต้องคิดว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแน่!"
แยนนี่เขินเพราะคำพูดของยัยตัวแสบ "ก็ได้ ถ้าพี่ชายเธอรู้เข้า พี่ไม่กล้าคิดเลย"
"พี่ชายไม่รู้หรอก! ถ้าพี่กับฉันไม่บอก เราจะเหยียบความลับนี้ไว้"
แยนนี่ตอบตกลง "ประชุมเมื่อไหร่? ให้พี่ล้างหน้าก่อน"
"เริ่มบ่ายสองนี้" ซาแมนธาพูดเสริม “อ้อ จริงสิ พี่สะใภ้ อย่าลืมแต่งตัวให้ดูเป็นผู้ใหญ่ด้วยนะ! อืม...พี่ต้องดูอายุเท่ากันกับพี่ใหญ่นะ"
"..."
'พี่สะใภ้เหรอ? เธอเพิ่งบอกไม่ใช่เหรอ ว่าให้แกล้งทำเป็นพี่สาว? มาเปลี่ยนได้ยังไงกัน?'
แยนนี่มองตัวเองในกระจกแล้วขมวดคิ้ว เธอใส่ชุดสีส้มประดับด้วยดอกไม้ นั่นยังไม่ดูเป็นผู่ใหญ่พอ
แยนนี่ยิ้มแล้วตอบเธอ "มาดามคะ ฉันรู้จักซาแมนธาดีค่ะ เธอเป็นเด็กดี เธอไม่ทำอะไรคนอื่นถ้าไม่ถูกยั่วยุหรอกค่ะ"
เธอรู้ว่าคาราเป็นคนผิด
ครูประจำชั้นส่ายหน้า "คุณเป็นพี่สะใภ้ คงไม่กล้าลงโทษเธอหรอก แต่คุณควรจับตาดูเธอไว้ ดูผลสอบปลายภาคเธอสิคะ เกือบได้ที่สุดท้ายในห้อง"
แยนนี่พยักหน้า "ค่ะ ฉันจะคอยดูเรื่องเรียนของเธอ"
เมื่อแยนนี่ออกมาจากห้องทำงาน ซาแมนธาสะพายกระเป๋าและวิ่งเข้ามาหาเธอ "ครูบอกอะไรพี่เหรอ? ทำไมคุยนานจัง?"
แยนนี่โอบไหล่ซาแมนธาและเดินลงมาข้างล่าง "ครูบอกว่าเธอแกล้งเพื่อนในห้อง"
"ฮ่ะ ไม่มีอะไรหรอก ครูคิดว่าฉันเป็นเด็กมีปัญหา ที่แกล้งคนที่อ่อนแอกว่า"
แยนนี่อดหัวเราะไม่ได้ "ทำไมขัง คารา จาร์คอป ไว้ในห้องน้ำล่ะ?"
"เธอบอกว่าพี่อ่อยพี่ใหญ่และเป็นมือที่สาม ฉันทนฟังเธอพูดเรื่องโกหกไม่ได้ จึงขังเธอไว้ในห้องน้ำเพื่อเป็นการสั่งสอน ไม่คิดว่าเธอจะขี้แย ฉันแค่ขังเธอไว้ชั่วโมงเดียวเอง"
แยนนี่แปลกใจ เธอหยุดเดินกะทันหัน
ซาแมนธาเดินลงไปข้างล่างต่อโดยไม่ได้มองแยนนี่ เมื่อหันมาเธอก็นำหน้าแยนนี่ไปสองก้าว
พวกเธอมองหน้ากัน
"พี่แยนนี่?"
รอยยิ้มของแยนนี่ดูอ่อนโยน แสงอาทิตย์ที่อบอุ่นในฤดูร้อนส่องมาตรงบันได และกระทบกับใบหน้าที่งดงามของเธอ "ขอบใจนะ ซาแมนธา"
ซาแมนธาโบกมือและกระโดดลงขั้นบันได "ฮ่า ไม่เป็นไรหรอก ยังไงพี่ก็เป็นว่าที่พี่สะใภ้ฉันอยู่แล้ว ฉันต้องอาศัยพี่เพื่อเงิน!"
แยนนี่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพี่สะใภ้ซาแมนธา แต่ความคิดชั่ววูบหนึ่ง เธอก็สนุกกับความคิดที่ว่า คนที่ได้เป็นพี่สะใภ้ซาแมนธา ต้องเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก
อย่างน้อยก็มีคนในตระกูลจิน ที่เข้ากับเธอได้
ซาแมนธาเดินไปแล้วพูดต่อ "ไปกินหม้อไฟกันเถอะ พี่แยนนี่!"
"ฟังดูเข้าท่านี่"
แยนนี่พาซาแมนธาไปที่ลานจอดรถ
แยนนี่สูงห้าฟุตเจ็ดนิ้ว ซึ่งเป็นความสูงมาตรฐาน รองเท้าส้นสูงสามนิ้วที่เธอใส่นั้นยิ่งเน้นความสูงของเธอ ซาแมนธาสูงแค่ห้าฟุตสองนิ้ว เธอใส่รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส แยนนี่โอบไหล่เธอ ทำให้ดูเหมือนแม่กับลูก
แชะ! มีคนถ่ายภาพพวกเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน