เล่ห์รัก ท่านประธาน นิยาย บท 1064

แยนนี่อึ้งไปเลย เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่านักแสดงที่ดูมีหลักการและมีความชอบธรรมอย่างนาธานจะมีความคิดใช้วิธีแบบนี้หาทางลัดไปสู่ความโด่งดัง

แยนนี่ไม่ได้ต่อต้านวิธีแบบนี้ที่จะซื้อใจแฟนๆ จากสาธารณะชน แต่เห็นได้ชัดว่านาธานพยายามใช้เธอเป็นโอกาสในการดังทางลัด

แยนนี่ยิ้มอย่างสุภาพและตอบว่า “รุ่นพี่คะ สิ่งที่ฉันต้องการทำตอนนี้คือฟังคำแนะนำของแลร์รีเพื่อการแสดงที่ดี ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาที่จะพิจารณาทำสิ่งอื่น อีกอย่างเรายังไม่ได้อยู่ในช่วงโปรโมทของหนังด้วยใช่ไหมคะ? หรือถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในช่วงโปรโมทหนังก็ตามฉันคิดว่าทีมโปรโมทคงมีแผนของเขาเอง เราไม่ต้องเป็นกังวลแทนพวกเขาเรื่องทำให้หนังมีชื่อเสียงหรอกค่ะ”

แยนนี่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเธอปฏิเสธข้อเสนอของนาธาน

นาธานเป็นรุ่นพี่ในวงการบันเทิง เขาจึงรู้สึกอับอายที่ถูกเธอปฏิเสธ ชายหนุ่มเริ่มทำหน้าบูดบึ้ง “แยนนี่ คุณคิดว่าผมไม่รู้จริงๆ เหรอว่าทำไมคุณถึงไม่อยากเสแสร้งเป็นคู่จิ้นกับผม เพราะคุณรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญของแลร์รีเป็นคนที่เขาประทับใจจนออกตัวชมคุณต่อหน้ากล้อง คุณต้องคิดว่าคุณโดดเด่นเป็นพิเศษและจะประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอนล่ะสิ”

แยนนี่ไม่ได้รู้สึกโกรธหรือรำคาญอะไร เธอควบคุมอารมณ์ของเธอและยิ้มอย่างใจเย็น “รุ่นพี่คะ ฉันเป็นเพียงเด็กใหม่ การที่แลร์รี่เลือกฉันเป็นนักแสดงนำหญิงของเขาฉันนั้นรู้สึกเป็นเกียรติมาก อย่างไรก็ตาม ฉันไม่มีคุณสมบัติที่จะแกล้งเป็นคู่จิ้นกับรุ่นพี่อย่างคุณ ฉันเกรงว่าผู้ชมและชาวเน็ตอาจคิดว่าฉันพยายามใช้คุณเป็นบันไดปีนขึ้นไป แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้มีซีนปะทะอารมณ์กันมากนักในภาพยนตร์ ถ้าเราพยายามสร้างข่าวสร้างภาพความสัมพันธ์ที่มันมากเกินไป ฉันเกรงว่ามันจะไม่เหมาะสม”

แยนนี่ตีเส้นและวางกรอบคำพูดของเธออย่างฉะฉานสมบูรณ์แบบว่าคำพูดของนาธานไม่มีผลกระทบต่อเธอ

นาธานกัดฟันกรอดเขาจ้องไปที่แยนนี่อย่างไม่เป็นมิตร "ก็ได้ แยนนี่ แลร์รี่บอกว่าคุณเหมาะที่จะก้าวขึ้นไปอยู่บนจุดที่สูง แล้วคุณก็เชื่อว่าคุณเป็นอย่างนั้นจริงๆ ได้! ผมจะแนะนำให้เอาบุญว่าอย่าอวดดีนัก!”

นาธานชี้นิ้วไปที่เธอ

แยนนี่ปัดขนตาที่เริ่มตกลงจากมาสคาร่าที่หนาเตอะขึ้นเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ การจ้องมองของเธออ่อนโยนและสงบ “รุ่นพี่คะ แม้ว่าเราจะไม่แสร้งเป็นคู่จิ้นกันเพื่อดึงดูดแฟนๆ แต่ฉันแน่ใจว่าคุณจะมีชื่อเสียงในไม่ช้าด้วยทักษะการแสดงของคุณเอง ไม่คิดอย่างนั้นหรือคะ?"

นาธานกำหมัดแน่นและยังจ้องเขม็งไปที่เธอ เขาพูดไม่ออกจึงทำได้เพียงแค่นยิ้มเย้ยหยัน ได้แต่ระงับความโกรธแล้วหันหลังกลับเดินจากไป

แยนนี่ส่ายหัวพลางคิดว่าช่างน่าตลกเสียจริง อุตสาหกรรมบันเทิงเปรียบเสมือนถังย้อมสีขนาดยักษ์จริงๆ นักแสดงฝีมือดีอย่างนาธานยังคิดที่จะทำเรื่องไร้สาระแบบนี้เพียงเพื่อให้มีชื่อเสียง

แยนนี่หันหลังกลับและกำลังจะเข้าไปในห้องของเธอ แต่จู่ๆ ก็มีเสียงโอดครวญดังมาจากมุมทางเดิน

“โอ๊ย! ใครกล้าต่อยฉันวะ! นายบ้าหรือไง?" เป็นเสียงของนาธาน

แยนนี่ขมวดคิ้วเธอเดินเข้าไปดูก็เห็นเชนน์กำลังต่อยนาธานอยู่บนพื้น

“กล้าดียังไงมาใช้ผู้หญิงของฉันเป็นเครื่องมือ! ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?”

'ต้องการที่จะแสร้งทำเป็นคู่รักใช่ไหม? ไปตายซะ!'

นาธานปิดหน้าของเขาเมื่อเห็นแยนนี่เดินเข้ามา เขาก็รีบร้องขอความช่วยเหลือทันที “แยนนี่! ช่วยฉันที! แจ้งตำรวจเร็ว!”

แยนนี่ยืนนิ่งพูดไม่ออกอยู่สองสามวินาที เมื่อเห็นว่าเชนน์ไม่ได้ตั้งใจทำเช่นนี้เธอจึงพูดว่า “นายท่านเชนน์ คุณมาที่นี่ทำไม”

เธอไม่คาดคิดว่าเขาจะมาที่ออซซิตี้เพื่อตามหาเธอ

เชนน์ปล่อยคอเสื้อของนาธานก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นอย่างสง่างาม เขามองไปที่นาธานซึ่งมีใบหน้าฟกช้ำดำเขียว และพูดอย่างสุภาพปนเย็นชาว่า “อัปลักษณ์ขนาดนี้ ยังอยากจะแกล้งเป็นคู่กับผู้หญิงของฉันอีกเหรอ? ทำไมไม่ส่องกระจกดูตัวเองเสียบ้าง!”

เชนน์เตะเขาอีกครั้ง ดวงตาของเขาเย็นชาและร้ายกาจ

นาธานชี้ไปที่เชนน์และแยนนี่ “แกสองคนเป็นพวกกัน! ฉันจะฟ้องทั้งคู่!”

นิ้วเรียวยาวของเชนน์หยิบนามบัตรสีดำที่มีลายนูนสีทองแล้วโยนไปที่หน้าของนาธาน “นี่เป็นนามบัตรของฉัน อย่าส่งหมายศาลไปผิดที่ล่ะ เผื่อแกหาป๊ะป๋าไม่เจอไง”

ท่าทางหยิ่งยโสของเขาช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

นาธานหน้าซีดเผือด แยนนี่พยายามกลั้นหัวเราะ เธอมองไปที่คนเดินตรวจตาแถวทางเดินและพูดว่า "ไปกันเถอะ เร็วเข้า"

แยนนี่ดึงมือของเชนน์ลากออกไปทันทีที่พวกเขาหันไปอีกทาง

เชนน์เดินตามอย่างเกียจคร้าน เขาถูกแยนนี่ดึงไปข้างหน้า “ผมควรจะทุบผู้ชายคนนั้นให้ตาย คิดได้อย่างไรจะมาใช้ผู้หญิงของผม”

แยนนี่หยอกเล่นอย่างสนุกสนาน “ถ้าอย่างนั้น ฉันไม่ต้องไปหาคุณที่คุกแทนหรือไง?”

“เธอใจร้ายขนาดนั้นได้อย่างไร? เพราะเธอเลยนะ กำปั้นของผมเจ็บไปหมดแล้ว”

แยนนี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอหันกลับมามองเขา “เป็นคนไปต่อยเขาแต่ดันเจ็บมือเองเนี่ยนะ”

เชนน์มองที่เธอ “ใช่น่ะสิ แรงที่กระทำซึ่งกันและกัน คุณไม่เคยเรียนฟิสิกส์เหรอ?”

แยนนี่ไม่สามารถเถียงชนะเขาได้

เธอผลักประตูห้องของเธอออกและผลักเชนน์เข้าไป

เมื่อตัวทั้งคู่พ้นผ่านประตูเข้าไป เชนน์ก็หันกลับมาทันทีและตรึงแยนนี่เข้ากับประตูด้านในอย่างแรง

ตอนนี้เขายังคงดูเย็นชาและสงบเสงี่ยม แต่เมื่อเขาเข้ามาในห้อง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

เชนน์กักตัวแยนนี่ที่พิงผนังอยู่ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ลูบผมยาวสลวยของเธอให้ทัดใบหูเผยให้เห็นใบหน้าที่สะอาดเกลี้ยงเกลาของหญิงสาว

เชนน์จ้องมองเธออย่างเอาเป็นเอาตายแต่ก็ยังไม่พูดอะไรดีๆ ออกมา “ไม่ได้เจอเธอมาพักหนึ่งแล้ว เธอผอมลงและดำคล้ำแบบนี้ได้อย่างไร? แลร์รี่ไม่ให้กินข้าวเหรอ?”

แยนนี่ได้ยินแบบนั้นก็เผลอยกมือจับใบหน้าของเธอโดยไม่รู้ตัว ออซซิตี้อยู่ใกล้กับเนินเขาดังนั้นรังสียูวีที่นี่จึงแรงมาก นอกจากนี้พวกเขาต้องถ่ายทำกลางแดด มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ผิวเธอจะคล้ำขึ้น แต่น้ำหนักที่ลดลงนั้นคงเปแ็นเพราะเธอโหมงานหนักไม่ใช่อดข้าว

“ตัวละครนี้ต้องผิวคล้ำแล้วก็ผอมแห้งในช่วงแรกๆ น่ะ ตอนนี้ฉันดูไม่เหมือนเหรอ?”

เชนน์เม้มริมฝีปากบางของเขาและมองเธออย่างลึกซึ้ง “ไม่น่าปล่อยให้เธอมาที่นี่เพื่อเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้เลย นานมากแล้วนะที่เธอไม่เคยแม้แต่จะโทรหา หรือว่าเพราะแลร์รีคิดว่าเธอกำลังจะดังเปรี้ยงแน่ๆ เลยพยายามให้เธอเขี่ยฉันออกจากชีวิต”

พวกเขาค่อนข้างออกมาไกลจากใจกลางเมือง ใช้เวลาราวๆ สามชั่วโมงในการไปกลับ สัญญาณต่างๆ ก็ค่อนข้างแย่เช่นกันเนื่องจากไม่มี 4G หรูสุดก็ 3G

เชนน์เดินไปตามถนนกว้างและแสดงความคิดเห็นว่า “นี่มันสถานที่บ้าบออะไรกัน ต่อให้เธอเอาเสลี่ยงแบกฉันมา ฉันก็ไม่มาหรอก”

“อืม แต่ก็มานี่ คุณชาย มาเถอะฉันจะเลี้ยงคุณด้วยอาหารมื้อใหญ่”

'อาหารมื้อใหญ่?'

เชนน์มองไปที่ชามราเมนเนื้อตรงหน้าเขาโดยไม่พูดอะไร “นี่คืออาหารมื้อใหญ่ที่เธอพูดถึง?”

แยนนี่ยกมือทักทายเถ้าแก่ “เถ้าแก่ ขอไข่ดาวเพิ่มให้เราด้วย”

มุมปากของเชนน์กระตุก เขาหยิบช้อนส้อมขึ้นมาดู เครื่องใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ เขามองพวกมันอย่างชิงชังอยู่สองสามวินาที

แยนนี่หยิบช้อนส้อมในมือมาเช็ดด้วยทิชชู่ก่อนจะส่งมันให้กับเขา “ฝุ่นพวกนี้มันไม่ได้จะฆ่าคุณ ไม่ใช่ยาพิษเพราะฉะนั้นกินให้หมด”

เชนน์พูดไม่ออก แต่ในไม่ช้าเขาก็เลิกลังเลเพราะความหิวโหย

เชนน์จัดการราเมนของตัวเองอย่างรวดเร็วแต่เขาก็ยังดูดีขณะกิน แยนนี่ทานมื้อเย็นเพื่อที่เธอจะได้ไม่หิว เธอรองมือใต้ช้อนที่ตักซุปร้อนๆ เข้าปากขณะที่มองเชนน์กินไปด้วย

เธอจำได้ว่าจินน์กรุ๊ปมีส่วนร่วมในการลงทุนบางอย่างกับแบล็คแอนด์ไวท์ด้วย จึงไม่แปลกที่เธอจะอยากรู้อยากเห็นเรื่องนี้ “คุณชาย คุณบอกให้แลร์รีมาเลือกฉันหรือเปล่า”

เกี่ยวกับเรื่องนี้เชนน์ไม่รู้มาก่อนจริงๆ “ฉันไม่รู้ว่าเธอไปออดิชั่น แลร์รี่ยังไม่รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเราด้วย”

เขาจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถ้าจะส่งเธอไปที่ชานเมืองเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาไม่ได้พบเธอเป็นเวลาหลายเดือนและต้องเดินทางหลายต่อเพื่อที่จะได้พบเธอ

สถานที่บ้าๆ นี่นี้หาได้ไม่ง่ายนัก แล้วมันยังทำให้เธอผอมลงและคล้ำขึ้นด้วย

แยนนี่ยิ้ม เธออารมณ์ดีเพราะตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าเธออาศัยความสามารถของตัวเองในการรับบทนี้

เมื่อมองไปที่รอยยิ้มของเธอ เชนน์ก็ยิ้มอย่างซุกซนเช่นกัน “เธอต้องคิดว่าเธอมีความสามารถพิเศษสิ เธอถึงได้รับเลือกจากแลร์รีโดยไม่มีการช่วยเหลือจากฉัน เธอภูมิใจในตัวเองไหม”

แยนนี่ตอบตามความจริง เธอไม่จำเป็นต้องโกหกต่อหน้าเชนน์ เธอพูดกึ่งติดตลกว่า “ก็นิดหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลหรอก คุณชาย แม้ว่าฉันจะมีชื่อเสียงฉันก็ไม่ทิ้งคุณหรอก แม้ว่าฉันจะอยู่บนพรมแดงเมืองคานส์ก็ตามเถอะ”

เชนน์เลิกคิ้วและพูดอย่างมีเลศนัยว่า “การได้เดินพรมแดงที่เมืองคานส์นั้นโดดเด่นกว่าการเป็นแฟนของ เชนน์ จินน์หรือเปล่า?”

“ไม่เลยสักนิด”

เชนน์เลิกคิ้วขึ้น ต้องอย่างนี้สิ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน