จู่ๆ ผู้หญิงที่เข้ามาหาเรื่องแยนนี่ก็ดึงมือเธอแล้วชูขึ้นก่อนจะตะโกนบอกลูกค้าที่อยู่ในร้านหม้อไฟว่า “ทุกคน ดูสิ! นังตัวดีนี่ไง! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เอ็ดเวิร์ดกับเคอร์รีจะอยู่ด้วยกัน!”
"คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า? นั่นมันแค่ในละคร! ออกไปเดี๋ยวนี้!” ซินดี้พยายามปกป้องแยนนี่แต่ถูกผู้หญิงคนนั้นผลักออกไป
หญิงคนนั้นดูลุกลี้ลุกลนอย่างมากราวกับว่าเธอเสียสติไปแล้ว จากนั้นเธอก็หยิบกระบวยข้างๆ ที่เต็มไปด้วยซุปร้อนๆ สาดใส่แยนนี่
เชนน์รีบคว้าตัวแยนนี่มาไว้ในอ้อมแขนทันทีและหันหลังเพื่อปกป้องเธอด้วยจากน้ำร้อนๆ นั่น
ซุปร้อนๆ ถูกสาดใส่หลังของเชนน์
ซุปที่เดือดจนร้อนจัดสาดกระเซ็นใส่แผ่นหลังของเชนน์จนรู้สึกชา เขาแยกไม่ออกว่ามันเป็นความเจ็บหรือแสบจนคันกันแน่ เขารู้สึกเพียงว่าผิวหนังที่หลังของเขากำลังถูกลวก
หลังของแยนนี่เครียดตึง เธอไม่รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่คิด เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็เห็นคิ้วที่ขมวดกันจนแน่นและใบหน้าที่หล่อเหลาของเชนน์
“น-นายท่านเชนน์”
แยนนี่พลิกตัวกลับมาโดยไม่รู้ตัวเพื่อมองที่แผ่นหลังของเขา แต่เชนน์หยุดรั้งเธอไว้และผลักศีรษะของเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา
หลายคนยังคงถ่ายรูปในขณะที่เชนน์ตะโกนด้วยความโกรธว่า “มายืนมุงดูอะไรกัน? แจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้! แล้วหยุดถ่ายรูป!”
ซินดี้หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาตำรวจทันที
มีคนยังคงถ่ายรูปอย่างไม่เกรงกลัว เชนน์เดินเข้าไปกระชากหยิบโทรศัพท์ของพวกเขาทุ่มมันลงไปบนพื้น เขาตะโกนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ฉันบอกให้หยุดถ่าย เข้าใจไหมวะ?”
ลูกค้ากว่าครึ่งหนึ่งของร้านต่างพากันออกไปเนื่องจากความโกลาหล
ทันใดนั้นทุกอย่างก็ค่อยๆ เงียบลง
ในไม่ช้าห้างสรรพสินค้าก็ได้รับการร้องเรียนและพาตัวเจ้าปัญหาออกจากร้านหม้อไฟนี้ไป
แยนนี่ถามเชนน์ว่า “คุณเป็นอะไรมากไหม? ไปโรงพยาบาลกันเถอะ”
ขณะที่พูดโซเฟียก็วิ่งมาหาและถามอย่างเป็นกังวลว่า “ซุปนั่นร้อนจัดเลยนะ รีบพาคุณไปโรงพยาบาลเร็ว เข้า”
ด้วยความตื่นตระหนก โซเฟียก็ได้คว้าแขนของเชนน์แล้วรีบพาออกไป
แยนนี่ยังคงตกใจ ผู้ชายที่ปกป้องเธอตอนนี้ไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น
เธอได้แต่ตกอยู่ในความตื่นตะลึงและยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
เชนน์เดินไปสองสามก้าวเมื่อเขารู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเขาไม่ตามมา เขาอดทนความเจ็บปวดที่แผ่นหลังนี้แล้วหันกลับไปดึงเธอมาด้วย เขาขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะพูดออกมาอย่างหมดความอดทน “เธอยังยืนอยู่ที่นั่นเพื่ออะไร? ฉันเจ็บเพราะเธอ เธอจะไม่ตามมารับผิดชอบหรือไง?”
เชนน์สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของโซเฟีย
โซเฟียอึ้งไปเล็กน้อยเธอหันกลับไปมองที่แยนนี่และนึกอะไรบางอย่างออกทันที เธอมองดูแล้วยิ้ม
เธอไม่ได้เจอเชนน์มาสองสามปีแล้วและคิดว่าเชนน์ยังคงเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ เธอไม่คาดคิดว่าเชนน์จะเห็นใครบางคนอยู่ในสายตาได้เร็วขนาดนี้
เชนน์คว้าแขนของแยนนี่และจับไว้แน่น เขาดึงเธอไว้ในอ้อมแขนและก้มมองลงไปที่เธอ เขาพูดอย่างชั่วร้ายว่า “เธอต้องรับผิดชอบที่ฉันบาดเจ็บ! เธอต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล!”
แยนนี่พูดไม่ออก
เธอเม้มริมฝีปากและมองเขาอย่างงุ่มง่าม หญิงสาวขมวดคิ้วและต้องการที่จะผลักเขาออกไป แต่เขาล็อกตัวเธอไว้แน่น ไม่ว่าเธอจะผลักไสอย่างไรร่างของชายตรงหน้าก็ไม่ขยับเขยื้อน
“บอกมาตามตรง เธอจงใจให้ฉันบาดเจ็บใช่ไหม?”
แยนนี่หมดคำพูด 'เขาพูดออกมาได้อย่างไร'
ซินดี้คว้ากระเป๋าของแยนนี่และวิ่งไล่ตามพวกเขามา เธอยื่นกระเป๋าให้แยนนี่แล้วพูดว่า “แยนนี่ ธ-เธอพานายท่านเชนน์ไปโรงพยาบาลเถอะ ฉันไม่ไป”
สุดท้ายแล้วเธอก็ช่วยอะไรไม่ได้
แยนนี่อยากจะเรียกรั้งซินดี้ไว้แต่เธอก็วิ่งหนีไปเสียแล้ว เธอวิ่งเร็วยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก เพื่อนที่ดีที่สุดของเธอกระตือรือร้นมากกว่าใครในการจัดฉากให้เธอ
โซเฟียเป็นคนขับรถในขณะที่เชนน์และแยนนี่นั่งอยู่ข้างหลัง
บรรยากาศอึดอัดอย่างน่าขนลุก
ประการแรกแยนนี่คิดว่าเธอกับเชนน์เลิกกันแล้ว ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาตอนนี้มันค่อนข้างที่จะคลุมเครือ ซึ่งนั่นมันทำให้เธออึดอัดมาก
ประการที่สอง ผู้หญิงที่อยู่ในรถด้วยควรจะเป็นผู้หญิงคนปัจจุบันคนนั้นของเขา การที่พวกเขาทั้งสามอยู่ในรถคันเดียวกันแบบนี้มันไม่มีอะไรน่าอึดอัดไปมากกว่านี้แล้วล่ะ
แยนนี่กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะพูดว่า “ทำไมคุณสองคนไม่ไปโรงพยาบาลด้วยกันเอง เมื่อถึงเวลาจ่ายบิลเดี๋ยวฉันจะโอนเงินให้คุณ ขอแค่บอกมาฉันจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ฉันไม่ใช่หมอพาฉันไปก็ช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก”
เชนน์มองเธอแทบจะตัวทะลุเขาจับข้อมือของเธอแน่นขึ้นราวกับว่าต้องการบดขยี้เธอ ดวงตาคมกริบจ้องมองเธออย่างดุดัน “เธอใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
แยนนี่อ้าปากราวกับกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เพราะมีคนอีกคนหนึ่งอยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงไม่รู้จะพูดอย่างไร
เธอแทบจะไม่รู้สึกอึดอัดเลย
โซเฟียมองพวกเขาในกระจกมองหลังอย่างสนุกสนานและพูดว่า “คุณแยนนี่ ทำไมคุณจะไม่มาด้วยกันกับเราล่ะ สุดท้ายเชนน์ก็ได้รับบาดเจ็บเพราะคุณนะ โรงพยาบาลน่ะคนเยอะแยะจะตาย จไหนจะต้องต่อคิวจ่ายเงินไหนจะต้องรับยา ฉันคงทำคนเดียวไม่ไหวหรอกค่ะ”
แยนนี่พูดไม่ออก 'คุณโซเฟียคนนี้ไม่รังเกียจที่จะเป็นมือที่สามหรอกเหรอ?'
เชนน์ไม่สบอารมณ์นักแต่เขาก็ยังแผ่รังสีเย็นชา เขาพิงแยนนี่ที่อยู่ในอ้อมแขน
"นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่?"
เชนน์ตะโกนตอบเธอ “ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้ว ขอฉันพิงเธอหน่อยไม่ได้หรือไงกัน? แขนขาฉันจะขาดไหม?”
น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่เป็นมิตรและดุดันอย่างมาก
แยนนี่ขมวดคิ้ว เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้เขาพิงไป แต่ถึงอย่างนั้นเชนน์ควรจะมาพิงหน้าอกของเธอหรือไง?
เชนน์เอียงซบเธอก่อนจะหลับตาไป
น้ำเสียงของเขาสงบเงียบฟังดูช่างเย็นชาและโหดร้าย
เชนน์หันหลังกลับอย่างไม่ใยดีและก้าวเท้าออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง
แยนนี่ยืนอยู่ตรงที่เดิมเธอกำหมัดแน่นจนเล็บแทบกรีดเข้าไปในฝ่ามือ หยดน้ำตาค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาจากดวงตาคู่สวยเงียบๆ
ถ้าเธอไร้หัวใจจริงๆ เธอคงไม่เจ็บปวดขนาดนี้
เขาเป็นคนที่เดินจากไปแต่ก็ดูเหมือนยังอยากจะกลับเข้ามาหากันอีก เขาสามารถที่จะเข้าและออกจากชีวิตของเธออย่างไรก็ได้ ไม่ว่าเธอจะเตรียมใจไว้แค่ไหนก็จะมีบางครั้งที่เธอไม่สามารถรับมือไหวเช่นกัน
เมื่อเขาปฏิบัติต่อเธออย่างดีเขาจะเรียกเธอว่าแฟน เกาะติดเธอและเอาอกเอาใจเธอ
วินาทีต่อมาเขาจะห่างเหินและเย็นชาเพราะความโกรธ เขาเปรียบเหมือนลมที่เธอไม่สามารถคว้าจับไว้ได้
แยนนี่รู้สึกว่าเธอพอแล้ว ไม่มีใครอยากถูกเขาทรมานเล่นตลอดเวลา
แยนนี่ยกเท้าขึ้นและถอดรองเท้าส้นสูงออกก่อนจะโยนมันไปที่เชนน์
ส้นสูงกระแทกหลังของเขาจนล้มลงกับพื้น
แยนนี่ตะโกนกลับไปอย่างเหลืออดว่า “คุณต่างหากที่อยากจะเลิก เมื่อคุณต้องการกลับมาคบกันคุณก็คาดหวังให้ฉันกลับไปกับคุณโดยไม่มีเงื่อนไข คุณเอาเปรียบฉันทุกครั้ง ฉันตกลงที่จะเลิกกับคุณแล้วหรือไง? ฉันตกลงที่จะกลับไปคบกับคุณไหม? ฉันมักจะเป็นฝ่ายที่ถูกทิ้งและโดนลากกลับไปถ้าคุณต้องการ เชนน์คุณบอกว่าฉันไม่รักคุณ ใช่ คุณพูดถูก แต่อย่าลืมว่าฉันมักเป็นฝ่ายที่อดทนมาโดยตลอด คุณเป็นคนควบคุมความสัมพันธ์นี้ ไม่ใช่ฉัน คุณเป็นคนตัดสินใจว่าจะหยุดเมื่อไหร่และจะเล่นต่อเมื่อไหร่ คุณเคยปฏิบัติต่อฉันเหมือนเป็นคนรักบ้างไหม?”
เชนน์ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความเงียบ เขาไม่หันกลับมามองโดยไม่กี่วินาทีต่อมาชายหนุ่มก็กัดฟันกรอดกำหมัดแน่นแล้วรีบเดินออกไป
เธออยากจะคิดอะไรก็คิดเพราะท้ายที่สุดเธอแค่ต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อเป็นข้ออ้างในการเลิกกับเขา
สุดท้ายแล้วเธอก็หาเหตุผลให้เลิกกับตัวสำรองอย่างเขา แล้วเธอก็คิดว่าปัญหาทั้งหมดมันเป็นเพราะเขาอย่างจริงจัง
ใครกันแน่ที่ไปรักคนอื่น? ใครกันแน่เป็นคนไม่เด็ดขาด? มันไม่เคยเป็นเขา เขาเกือบจะมอบหัวใจให้เธอ แต่เธอแทบไม่ได้เหลือบมองเลยสักนิดและโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
จะไปไหนก็ไป ไม่มีใครอยากเป็นตัวสำรอง
ใบหน้าของแยนนี่เต็มไปด้วยน้ำตา เธอหันหลังกลับมาเพื่อเช็ดมันออกไป อย่างน้อยเธอก็ต้องกอบกู้ศักดิ์ศรีอันน้อยนิดนี้ของตัวเอง
แต่ถึงอย่างนั้นน้ำตาพวกนี้ก็ไม่มีทางที่จะหยุดไหลง่ายๆ
โซเฟียถอนหายใจและช่วยเก็บเอารองเท้าส้นสูงของเธอมาคืน เธอวางมันไว้ที่เท้าของแยนนี่และพูดว่า “ใส่รองเท้าเถอะ”
แยนนี่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียจนตัวโยนก่อนที่จะพยายามใส่รองเท้าของเธอ "ขอบคุณค่ะ"
“เชนน์น่ะ…เขาอารมณ์ไม่ดี สิ่งที่เขาพูดเป็นเพียงสิ่งที่เขาไม่ทันคิดในตอนที่เดือดจัด”
แยนนี่ยิ้มเย้ยหยัน “เขาแค่ต้องการหาข้ออ้างที่จะเลิกกับฉัน ทำไมเขาต้องพล่ามอะไรมากมายด้วย? ถ้าเขาอยากเลิก ก็แค่เลิกกัน ทำไมต้องมาหาว่าฉันไร้หัวใจ”
แยนนี่หยิบกระเป๋าของเธอพยายามยืดยืนตัวตรงและเดินจากไปในรองเท้าส้นสูงของเธอโดยไม่หันหลังกลับมามอง
โซเฟียมองว่าทั้งคู่จากไปในลักษณะเดียวกัน พวกเขาเชื่อมโยงกันโดยสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าเป็นการเลิกรากัน แต่เธอกลับรู้สึกอิจฉาพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน