ในช่วงที่ เซย์น รักษาตัวในโรงพยาบาล ฮีลตัน และ แนนซี่ ผลัดกันเฝ้าที่โรงพยาบาล บางครั้งทั้งคู่ก็เฝ้าด้วยกัน สำหรับเวอเรียน พวกเขาดูเหมือน "คู่รัก ที่รักกันมาก"
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เวอเรียนแทบจะไม่เห็นหน้าของ ฮีลตันเลย
เขาอยู่ในโรงพยาบาลตลอดทั้งคืน และเมื่อเขากลับไปที่ บ้านของครอบครัวฟัดด์ เวอเรียนก็ออกไปทำงานแล้ว
เซย์น ถูกย้ายไปที่ห้องพักฟื้นทั่วไปได้ในวันที่ห้าของการเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ฮีลตัน มีเวลาหยุดพักเพียงช่วงสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะต้องเริ่มทำงานอีกครั้งเนื่องจากตารางงานที่ยุ่งส่วน แนนซี่ ได้รับอนุญาตให้หยุดยาวเพื่อเฝ้าดูแล เซย์นที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
เป็นเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่เวอเรียน และฮีลตัน แถบไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่แค่สบตายังทำไม่ได้เลย
สัปดาห์นี้ ฮีลตัน ฟัดด์ มีเรื่อง และกองเอกสารของงานมากเกินไปจนเขาไม่ได้จัดการกับพวกมันเลย ในระหว่างการประชุมผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในต่างประเทศ ได้นำเสนอแผนงาน และ เสนอผ่านพาว์เวอร์พ้อย ด้วยความเต็มใจ แต่ฮีลตัน เองก็เสียสมาธิหลายครั้ง
เมื่อคุชรู้เขาก็เข้าไปกระซิบที่ใกล้ ๆ หูของฮีลตัน และพูดเบา ๆ ว่า "เจ้านายคุณยังไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เลยนะครับ เราควรระงับการประชุมนี้ก่อนดีไหมครับ?"
ฮีลตัน ตาแข็งกร้าว เขาเบิกตาดำขึ้นมาแล้วกดริมฝีปากบาง "ไม่เป็นไร ออกไปได้แล้ว"
หลังจากการประชุมที่ยาวนาน แต่ไม่มีความคืบหน้าทุกคนก็ออกจากห้องประชุม ฮีลตัน นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนสีดำ และไม่ได้จากไปไหน ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
คุซ ชงกาแฟเข้มหนึ่งแก้วแล้วส่งไปทางเขา “เจ้านายคุณยังไม่ได้คุยกับคุณมอนท์ เลยใช่ไหมครับ?”
ดวงตาสีเข้มไข่มุกของฮีลตัน กวาดผ่านเขาราวกับมีดที่เย็นเฉียบ
คุซหุบปากอย่างเงียบ ๆ เขาพูดอะไรผิดหรือเปล่านะ?
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ตอบอย่างเคร่งขรึมว่า "ฉันกังวลเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเซย์น ต่างหาก"
คุช กล่าวโดยไม่รู้ตัว "คุณชายได้ถูกย้ายออกจากห้องไอซียูแล้วนี่ครับ และอยู่ในอาการที่คงที่แล้วไม่ใช่หรือ?"
ทันทีที่เขาพูดจบ คุซ ก็รู้สึกได้ถึงมีดน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนที่บินมาหาเขา
คนสมัยนี้ไม่นิยมฟังความจริง...
ฮีลตัน หงุดหงิดเล็กน้อย เขาขมวดคิ้ว “วันนี้ผู้อำนวยการแซนเดอร์ ไม่อยู่ นายควรให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของแผนกครีเอทีฟมากกว่านี้นะ”
แม้ว่า ผู้อำนวยการแซนเดอร์ ไม่อยู่ แต่รองผู้อำนวยการก็ทำหน้าที่แทน แผนกครีเอทีฟ อาจถือได้ว่าเป็นแผนกย่อยของ ฟัดด์ กรุ๊ป เท่านั้น เมื่อเทียบกับบริษัท ย่อยอื่น ๆ และแผนกขนาดใหญ่โดยทั่วไปแล้วการจัดการของ ฟัดด์ กรุ๊ป ของแผนกครีเอทีฟ จะถูกปล่อยให้ละเลย ในขณะเดียวกันแผนกครีเอทีฟจะไม่มีปัญหาใหญ่ ๆ อะไรที่ต้องแก้ไข เจ้านายต้องการให้เขาให้ความสำคัญกับแผนกครีเอทีฟหรือคุณมอนท์ กันแน่?
คุชรั้งท้ายและตอบด้วยความเคารพว่า "ได้ครับ ผมจะให้ความสำคัญกับแผนกครีเอทีฟให้มากขึ้นอย่างแน่นอนและรายงานให้เจ้านายทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ที่นั่นครับ"
"แล้วสิ่งที่ฉันขอให้นายตรวจสอบก่อนหน้านี้ล่ะ?"
คุช พูดทันทีว่า "คืนนั้นหลังจาก คุณมอนท์ ออกจากโรงพยาบาลเธอก็ขับรถเข้าไปชนรถของ ยานิ เควน และประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เล็กน้อย เธอจึงไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจและรับการรักษาพร้อมกับเขาครับ"
ดวงตาของชายคนนั้นสั่นสะท้านและหัวใจของเขาก็ตกตะลึง "ทำไมพึ่งมาบอกฉันตอนนี้ นายควรรายงานเรื่องนี้ทันทีที่รู้"
คุช รู้สึกผิด "เจ้านายเป็นคนสั่งไม่ให้พูดถึง คุณมอนท์นี่ครับ"
เจ้านายได้ทะเลาะกับคุณมอนท์ และพวกเขาอยู่ในสงครามเย็นกันอยู่ แล้วเขาจะกล้าที่จะพูดถึงเรื่องนี้เหรอ?
ฮีลตันส่งเสียงอย่างเย็นชา "นายจะไม่พูดถึงเรื่องนี้เมื่อฉันไม่อนุญาตให้นายพูดถึง แต่ตอนนี้นายไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อย่างกระตือรือร้นหรอกเหรอ?"
"..."
ฮีตันลุกขึ้นและเดินออกจากห้องประชุมด้วยขายาว ๆ พร้อมกับสีหน้าเย็นชา
เมื่อเขามาถึงบ้านฟัดด์ เขาก็พา เจลลี่ บีน เข้าไปในบ้าน เวอเรียนซึ่งแต่เดิมอยู่ชั้นล่างนั้นจึงหันกลับเพื่อขึ้นไปชั้นบนเมื่อเธอเห็นฮีลตันเข้ามา แต่ เจลลี่ บีน วิ่งเข้ามากอดต้นขาของเธอ “มอนตี้ขา ทำไมคุณไม่สนใจหนูล่ะคะ?”
ขนตาของ เวอเรียน สั่นระริกขณะที่เธอมองลงไปที่เจ้าตัวเล็ก “ฉันไม่ได้เพิกเฉยต่อหนูเลยนะ”
เธอยกมือขึ้นลูบที่หัวของ เจลลี่ บีน ด้วยความรัก
"มอนตี้ นั่งตรงนี้ไม่ต้องไปไหน นั่งคุยกับคุณพ่อดีไหมคะ?"
เสียงของเด็กน้อยสั่นสะท้าน และเวอเรียนเองไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ เธอทำสงครามเย็นกับเขาเมื่อไม่นานมานี้และพวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันในช่วงนี้เลย
เมื่อเธอเห็น เจลลี่ บีน มองมาที่เธอด้วยดวงตาที่โตชัดเจนและไร้เดียงสาเหล่านั้นเธอก็เม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรสักพัก
ฮีลตัน ยื่นกระเป๋านักเรียนให้ เจลลี่ บีน และพูดว่า "ไปที่ห้องและอ่านหนังสือด้วยตัวเอง"
เจลลี่ บีน ถือกระเป๋านักเรียนใบเล็กแล้วพยักหน้า เธอรู้ว่าพ่อของเธอกำลังจะคุยกับมอนตี้ ตามลำพัง เมื่อเธอจากไปเธอก็ไม่ลืมที่จะกระซิบกับเวอเรียนว่า "มอนตี้ คุณต้องคุยกับคุณพ่อดี ๆ ไม่ต้องโกรธ คุณพ่ออารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ค่ะ"
แม้ว่าเสียงเด็ก ๆ ของ เจลลี่ บีน จะเบามาก แตฮีลตันก็ยังคงได้ยินเธออย่างชัดเจนด้วยประสาทหูที่แหลมคมของเขา เขาขมวดคิ้วและเรียกเธอด้วยชื่อเต็มของเธออย่างเย็นชา “เชอรีน ฟัดด์”
เจลลี่ บีน ปิดปากแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบนทันทีพร้อมกับถือกระเป๋านักเรียนใบเล็กของเธอ คงจะไม่ดีเท่าไหร่ถ้าพ่อจับเธอมาตีก้น
‘ฮึ่ม คุณพ่ออารมณ์ร้ายแบบนี้ เขาจะหาแม่ที่ดีอย่าง มอนตี้ ให้เธอได้ยังไง?’
เมื่อ เจลลี่ บีน ขึ้นไปชั้นบน เวอเรียน ก็ถอดแหวนเพชรออกจากนิ้วนางและส่งคืนให้เขา “เมื่อ นายใหญ่ฟัดด์ ออกจากโรงพยาบาลฉันจะอธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง จากนี้เราไม่ต้องแสร้งทำเป็นคู่สามีภรรยาอีกต่อไปและคุณไม่ต้องขู่ฉันด้วย บ้านครอบครัวมอนต์อีกแล้ว ฉันจะคืนแหวนเพชรให้คุณ”
ดวงตาสีดำของฮีลตัน จ้องมาที่เธออย่างเย็นชา การจ้องมองของเขาทำให้เธอมึนงงเพราะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเอื้อมมือไปหยิบแหวนแต่อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน