ซามูเอลยกมือบีบนวดขมับเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ตอบอย่างหนักแน่นของแยนนี่ก่อนจะเอ่ยว่า “แต่เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเชนน์หนีหน้าไปเพราะเขาไม่ต้องการเจอเธอ หากเขาอยากรับผิดชอบเธอจริงๆ เขาคงไม่หลบหน้าเธอแบบนี้แยนนี่ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สนิทกับเชนน์มากนัก แต่ฉันแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนที่เธอจะแบ่งปันเวลาใช้ชีวิตที่เหลือด้วยได้แค่ดูจากที่เขาทำกับเธอที่คาสิโนต่อหน้าผู้คนมากมายมันก็บอกอะไรได้หลายๆ อย่างแล้ว คิดเสียว่าฉันให้คำแนะนำเธอในฐานะเพื่อนเถอะเพราะฉันไม่อยากให้เธอตกหลุมผู้ชายคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก”
“ตอนนั้นเราแค่ผิดใจกัน มันค่อนข้างพูดยากน่ะฉันอธิบายให้นายฟังตอนนี้ไม่ได้ และฉันไม่ต้องการให้เขามารับผิดชอบเพราะฉันโตแล้วและต้องการรับผิดชอบความรู้สึกตัวเองที่มีต่อเขา เรื่องที่เชนน์หนีหน้าฉันนั้นไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากเจอแต่เพียงแค่เขาต้องการคำตอบที่ชัดเจนจากฉัน ซามูเอล ฉันขอบคุณที่นายแนะนำฉันในฐานะเพื่อน แต่ฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ฉันจะขอรับผิดชอบต่อความสัมพันธ์ที่ฉันเป็นคนเลือก”
เมื่อได้ฟังคำตอบที่ชัดเจนและน้ำเสียงที่หนักแน่นของแยนนี่แล้วซามูเอลก็ได้แต่หัวเราะออกมาอย่างหมดหนทาง “แยนนี่ ฉันคงไม่เหลือที่ของความรักในใจเธออีกต่อไปแล้วใช่ไหม?”
ซามูเอลผู้มักจะหยิ่งทะนงในตัวเองอยู่เสมอไม่อยากจะทำใจเชื่อเลยว่าแยนนี่จะตัดเขาออกจากชีวิตเธอโดยสมบูรณ์ เธอทุ่มความรักและเทหัวใจทั้งดวงให้กับชายอื่นไปแล้ว
แยนนี่ตอบ "ในชีวิตนี้เราจะพบผู้คนมากมายที่ทำให้ใจสั่น นายอาจจะใจเต้นกับคนหนึ่งเมื่อยังเด็กและเข้าใจผิดว่าคือความรักแต่แท้จริงแล้วมันเป็นเพียงความรู้สึกดีชั่วครั้งชั่วคราว ท้ายที่สุดหัวใจที่กระพือปีกก็ไม่ใช่คำตอบเพราะความรักคือการมอบหัวใจให้กับใครสักคน ซามูเอล ฉันเคยตกหลุมรักนายแต่นั่นคือทั้งหมดที่รู้สึก ฉันโง่ที่หมกมุ่นอยู่กับนายอยู่หลายปีและเฝ้าถามตัวเองเสมอว่าทำผิดอะไรไปนายถึงทิ้งจากไป? มันไม่ใช่ว่าฉันตรอมตรมแต่แค่ไม่อาจฉุดตัวเองออกมาจากคำถามนั้นได้ แต่หลังจากที่นายกลับมาคำตอบก็กระจ่างชัดว่าฉันเพียงแค่เคยตกหลุมรักนายในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น เป็นเพียงความรู้สึกเสียดายที่ความรักในช่วงวัยรุ่นของเราไม่สมหวัง"
“แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่แค่การตกหลุมรัก ตลอดสองปีที่ผ่านมาฉันกลัวว่าจะทำให้เธอคิดมากแล้วอาจจะจากฉันไปถ้าเอาแต่คอยเฝ้าถามเธอ เพราะอย่างนัั้นฉันจึงเข้าหาในฐานะเพื่อนเพื่อที่เธอจะได้ไม่อึดอัดใจ แต่ถึงอย่างนั้นความรักที่ฉันมีต่อเธอมันก็ยังไม่เปลี่ยนไปแยนนี่ ความรักโง่เขลาในช่วงเยาว์วัยของเรามันคือรักแท้สำหรับฉัน เรา... เริ่มต้นกันใหม่ไม่ได้หรือ?"
แยนนี่ได้แต่เม้มริมฝีปากแล้วนิ่งเงียบไปอยู่ชั่วอึดใจจนท้ายที่สุดเธอก็ตอบกลับ "ครั้นที่นายทำผิดต่อฉันเราได้จบกันไปแล้ว"
หลังจากพูดจบแยนนี่ก็วางสาย
สองชั่วโมงต่อมารถแท็กซี่ก็เคลื่อนจอดที่หน้าคฤหาสน์ส่วนตัวบนเนินเขา
แยนนี่ลงจากรถแท็กซี่พร้อมลากกระเป๋าเดินทางเดินขึ้นเนิน
ประตูใหญ่ถูกเปิดออกแยนนี่เคาะประตูสองสามทีเป็นพิธีแต่ไม่มีการตอบกลับเธอจึงเข้าไปข้างใน
คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตมากสิ่งแรกที่เธอเห็นหลังจากเข้ามาคือไร่องุ่นและผืนทะเลสีครามตั้งอยู่หลังคฤหาสน์โดยไม่มีอะไรทัศนียภาพอันงดงาม เธอรู้สึกเหมือนได้หายใจเอาอากาศของภูมิประเทศนี้เข้าปอดอย่างแท้จริง
นอกจากทางเดินที่ล้อมรอบไปด้วยเถาองุ่นในสวนหน้าบ้านแล้วยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ถัดจากสระว่ายน้ำไปมีโต๊ะและเก้าอี้ที่ทำจากเถาองุ่นจากญี่ปุ่นตั้งอยู่สองตัวพร้อมแชมเปญที่เหลือครึ่งแก้ววางอยู่บนโต๊ะ
ดูเหมือนว่าเชนน์จะอาบแดดอยู่ตรงนั้นก่อนหน้านี้
ประตูคฤหาสน์ถูกเปิดกว้างแยนนี่รีบเข้าไปข้างใน ภายในถูกออกแบบสไตล์อเมริกันอย่างโอ่อ่าแสงแดดจ้าส่องสว่างไปทั่วทุกมุม บานหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสปรากฎวิวทิวทัศน์ของทะเลราวกับจิตรกรรมบนฝาผนัง
คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตและสร้างอยู่บนเกาะรีสอร์ทที่ทำเลราคาสูงลิ่ว มูลค่าของคฤหาสน์หลังนี้จึงมหาศาลไม่ต่ำกว่าพันล้านเหรียญ
เธอคิดถูก นี่ต้องเป็นคฤหาสน์ของเชนน์อย่างแน่นอน
อุปกรณ์เล่นกระดานโต้คลื่นตั้งไว้อยู่ที่มุมสนามหลังบ้าน
แยนนี่รู้อยู่เสมอว่าเชนน์เป็นแฟนตัวยงของกีฬาผาดโผนอย่างพวกดำน้ำ โต้คลื่น บันจี้จัมพ์ และการแข่งรถ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญกีฬาน่าหวาดเสียวพวกนี้
เชนน์ไม่ได้อยู่ในคฤหาสน์ เขาน่าจะอยู่ที่ทะเล
แยนนี่วางกระเป๋าเดินทางของเธอไว้และเริ่มออกไปตามหาเชนน์ที่ทะเล
มีคนอยู่บนชายหาดค่อนข้างบางตา
มีชาวต่างชาติผมบลอนด์ทองสองสามคนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ชายหาดกำลังนอนตากแดดพลางจิบน้ำส้มอย่างเพลิดเพลิน
แยนนี่ยืนอยู่ริมหาดแล้วมองออกไปยังทะเลกว้างมีนักโต้คลื่นอยู่สองสามคนกลางทะเลแต่พวกเขาอยู่ไกลเกินไปและแยนนี่ก็ไม่มีกล้องส่องทางไกลที่จะใช้มองว่าเชนน์อยู่ตรงนั้นหรือไม่
แยนนี่ยกมือขึ้นป้องปากแล้วตะโกนออกไปสุดเสียง “เชนน์ จินน์! เชนน์ จินน์!”
เชนน์ที่กำลังโต้คลื่นอยู่ในทะเลหูแว่วเขาคิดว่าตัวเองได้ยินเสียงคนเรียกอยู่บนชายหาด ชายหนุ่มขมวดคิ้วก่อนจะพยายามหรี่ตามองร่างที่คุ้นเคยดี
ลมทะเลพัดผ่านใบหน้าของแยนนี่จนผมยาวๆ ปลิวไสวไปตามกระแส ชายกระโปรงบางๆ พริ้วขึ้นตามแรงลม
แยนนี่ยิ้มทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เธอยกแขนขึ้นโอบกอดรอบลำคอแกร่งก่อนจะพูดว่า “เชนน์ จินน์ ในที่สุดฉันก็เจอคุณแล้ว”
สิ้นเสียงนั้นริมฝีปากบางก็ประกบจูบอย่างดูดดื่ม
เชนน์สูญเสียการทรงตัวจากจูบที่กระทันหันแต่ไม่นานกระดานโต้คลื่นในมือก็ร่วงหล่นลงบนผืนทรายก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นประคองหลังศีรษะแล้วปรับองศาจูบให้แนบสนิทลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ทั้งคู่ดื่มด่ำอยู่กับรสจูบนั้นราวกับรอบข้างไม่มีใคร
แสงแดดสาดส่องไปทั่วท้องทะเลลมที่คอยซัดคลื่นเข้าหาชายฝั่งพัดเอื่อยๆ ชวนให้ผ่อนคลายและหาดทรายละเอียดนุ่มสีทองก็โอบล้อมคนทั้งคู่อย่างสมบูรณ์
สิ่งเดียวที่อยู่ในสายตาทั้งคู่ตอนนี้คือคนที่อยู่ตรงหน้า
แยนนี่กอบกุมใบหน้าชายหนุ่มแล้วมองเข้าไปในดวงตาลุ่มลึกทว่าสดใสก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันรักคุณ เชนน์ จินน์ นี่คือคำตอบเดียวที่ไม่มีความสงสารหรือความเห็นใจเข้ามาเกี่ยว เส้นทางของเรามันจะแยกกันแล้วกลับมาพานพบเสมอ”
ปลายนิ้วเรียวของชายหนุ่มยกขึ้นลูบไล้ไปตามกรอบหน้าสวย เขายิ้มก่อนจะตอบว่า “ปกติเธอไม่พูดอะไรหวานๆ และเธอไม่เคยพูดคำหวานซึ้งแบบนี้ให้ฉันประหลาดใจมาก่อน ดูเหมือนว่าแซนเดอร์งี่เง่าคนนั้นจะพูดถูก ถ้าฉันรู้ว่ามันจะลงเอยแบบนี้ฉันคงยั่วเธอไปก่อนหน้านี้แล้ว”
“คุณหนีหายไป ปั่นให้ฉันร้องขอให้ชาวเน็ตช่วยตามหา พอใจคุณแล้วหรือยัง?"
เชนน์ถือกระดานโต้คลื่นไว้ในมือข้างหนึ่งขณะที่มืออีกข้างโอบรอบเอวบางก่อนที่จะพาเธอเดินกลับไปยังคฤหาสน์ รอยยิ้มที่จุดบนริมฝีปากของเขาช่างดูเย้ายวนและน่าหลงใหล “มันทำให้ฉันรู้สึกถึงความสำเร็จ คุณนายจินน์”
เชนน์ยกฝ่ามือคู่นั้นขึ้นมาก่อนจะกดจูบลงไปอย่างอ่อนโยน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน