ฮีลตัน เขาได้ขับรถสปาร์คเกอร์สีดำของเขาออกไปจากบ้านของครอบครัวฟัดด์
เขาลดระดับหน้าต่างลงเล็กน้อย ในขณะที่สายลมยามค่ำคืนพัดผ่านเข้ามาเพื่อบรรเทาความหงุดหงิดของเขาลงได้เล็กน้อย
เขารีบรับโทรศัพท์ทันที
“ฉันจะรีบไปที่นั่นทันที”
เสียงผู้หญิงที่สุภาพและอ่อนโยนดังออกมาจากอีกด้านหนึ่ง “ โอเค ฉันจะรอคุณนะคะ”
ฮีลตัน มาถึงหน้าอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งและเขารีบเข้าไปขึ้นลิฟต์ในทันที
เมื่อเขาเดินมาถึงหน้าประตู เขาจึงเคาะประตูสองสามครั้งก่อนที่หญิงสาวจะเปิดประตูออกมา แม้ว่าเธอจะไม่ได้ดูเด็ก และไร้เดียงสาเท่าเวอเรียน แต่เธอก็ดูอ่อนโยน และสง่างามมาก
เรน เฮย์ดี้ ก้มตัวลง และวางรองเท้าแตะไว้ข้างเท้าของฮีลตัน เธอพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นานมากแล้วที่คุณไม่ได้มาหาฉัน มีอะไรหรือเปล่า? ความเจ็บป่วยเก่า ๆ ได้เกิดขึ้นเหรอ?”
ฮีลตัน เม้มริมฝีปากของเขา หลังจากที่เขาเปลี่ยนรองเท้าเสร็จแล้ว เขาก็ตอบอย่างเรียบง่ายว่า “ใช่”
หลังจากที่ เรน ปิดประตูเสร็จ เธอก็ได้เดินตามเขาไปที่ห้องนั่งเล่น
เรน รินน้ำหนึ่งแก้วและยื่นให้กับเขา “ดื่มน้ำก่อนเถอะค่ะ”
หลังจากที่ ฮีลตัน จิบน้ำเสร็จแล้ว เขาก็ได้เอนกายพิงที่พนักเก้าอี้และพูดด้วยน้ำเสียงอันสงบว่า “เมื่อไม่นานมานี้ ตอนที่ฉันหลับ ฉันฝันว่า แซมมี่ เรียกฉัน ให้ฉันมาช่วยชีวิตเธออีกครั้ง แต่ในความฝันฉันทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง”
เรน นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และถามเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า “มันเป็นไปได้ยังไง? จนถึงตอนนี้คุณยังไม่เลิกฝันถึงเธออีกเหรอ?”
ฮีลตันเม้มริมฝีปากแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาหลีกเลี่ยงการตอบคำถามนี้โดยตรง
เรน เธอเป็นจิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ดังนั้นเธอจึงเดาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
“ฮีลตัน คุณกลับไปที่ชายหาดอีกแล้วเหรอ?”
เพราะมีแค่เพียงสองเหตุผลเท่านั้นที่จะทำให้อาการป่วยเขานั้นถูกกระตุ้น เหตุผลแรกน่าจะเป็น ยานิ เควน ที่จงใจจะยั่วเขา และอีกเหตุผลหนึ่งคือสิ่งเหล่านั้นที่อยู่ในความทรงจำของเขาบนชายหาด
“ใช่ ผมไปเที่ยวที่เกาะรีเจนท์มา”
เรน เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย “แซม จอยส์ ได้เสียชีวิตลงที่เกาะรีเจ้นท์ แล้วคุณไปที่นั่นทำไม? ก่อนหน้านี้ฉันเคยบอกคุณไปแล้วว่า สิ่งเหล่านี้คือปีศาจที่จะครอบงำคุณ การเผชิญหน้ากับพวกมันแบบตัวต่อตัว มีความเป็นไปได้ที่คุณจะสามารถเอาชนะความกลัวเหล่านั้นได้และอาจจะทำให้คุณฟื้นตัวได้ดี แต่การเสียชีวิตของ แซม จอยส์ นั้นเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจของคุณมากที่สุด ดังนั้นในทางกลับกันความกลัวเหล่านั้นมันอาจจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่และทำลายคุณในที่สุด
ในปีที่ แซม เสียชีวิต อีลตัน มีอายุเพียงยี่สิบสองปี ในตอนนั้น เด็ก ๆ มักจะกระตือรือร้นที่จะออกไปเที่ยว แต่หลังจากผ่านสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจของเขา เขาจึงขังตัวเองอยู่ที่บ้านตลอดทั้งปีและไม่ยอมพบปะกับใครเลย
ในตอนนั้น เรน ยังคงเป็นนักเรียนจิตวิทยาอยู่ในโรงเรียนแพทย์ หลังจากที่เธอรู้เรื่องนี้เธอก็รีบกลับมาจากสหรัฐอเมริกาในทันที เพื่อที่จะมาช่วยฮีลตัน จากกระบวนการทั้งหมดเหล่านี้เธอใช้เวลาเพียงครึ่งปีเพื่อให้ ฮีลตัน ฟื้นกลับมามีชีวิตที่ปกติอีกครั้ง
ความโหดเหี้ยม เยือกเย็นของ ฮีลตัน เมื่อเขาอยู่ในที่สาธารณะมีเพียง เรน เท่านั้นที่รู้ว่าความแข็งแกร่งที่ชายคนนี้แสดงออกไป อาจจะเป็นเพราะหัวใจของเขาเปราะบางอย่างไม่สามารถจินตนาการได้และยิ่งไปกว่านั้นมันเปราะบางมากจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ย้อนกลับไปตอนนั้น ฮีลตัน ไม่สามารถเอาชนะประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดกับ แซม ได้และเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรควิตกกังวล โชคดีที่มันไม่ได้ร้ายแรงมากขนาดนั้น เรน จึงใช้การแพทย์และการบำบัดจิตใจร่วมกัน เพื่อนำเขาออกมาจากบาดแผลอย่างช้า ๆ
“ผมไม่อยากเผชิญหน้ากับพวกมันหรอก แต่เมื่อผมอยู่บนเกาะรีเจนท์ผมคิดว่ามันจะดีขนาดไหนหากผมตายที่นั่น และในที่สุดผมก็จะเป็นอิสระจากความรู้สึกผิดและความวิตกกังวลทั้งหมดเหล่านั้น คุณคิดว่าผมอ่อนแอหรือเปล่า”
เรน ส่ายหัว “ฮีลตัน คุณจะเป็นคนที่อ่อนแอได้อย่างไร? คุณเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่ฉันเคยเจอมา คุณลองพูดแบบนี้กับใครก็ได้ที่มีความเห็นอกเห็นใจคุณ บางทีคุณอาจจะไม่สามารถยอมรับกับความผิดพลาดในครั้งนี้และปีศาจในใจของคุณได้ ฉันรู้ว่าคุณกำลังโทษตัวเองที่ทำให้ แซม จอยซ์ ตาย แต่นั่นมันคืออุบัติเหตุและคุณไม่ได้ตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ คุณไม่ใช่พระเจ้า คุณจึงมีช่วงเวลาที่ตัดสินใจผิดพลาดได้ ดังนั้นอย่าทำให้ตัวเองลำบากไปมากกว่านี้เลย โอเค?”
“มันเป็นเพราะผมมั่นใจมากในการตัดสินในครั้งนั้น และเป็นเพราะผมที่ดื้อรั้นมากเกินไป ในตอนนั้นท้องฟ้ามืดมาก ผมรู้ว่ากำลังจะมีพายุและคลื่นที่รุนแรงพัดเข้ามา แต่ผมก็หยิ่งเกินไปและคิดว่าเราจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ในตอนนั้นได้ นอกจากนี้ผมไม่เชื่อว่าโชคชะตาของเราจะเลวร้ายขนาดนั้น”
เรน ถามอีกครั้ง “ทำไมจู่ ๆ คุณถึงไปที่เกาะรีเจ้นท์? เพราะในตอนนี้ยังไม่ถึงวันครบรอบของการเสียชีวิตของแซม”
ฮีลตัน เขาดูเหมือนไม่เต็มใจที่จะบอกเหตุผลกับเธอ ดังนั้น เรน จึงปล่อยผ่านคำถามนี้ไป
แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่าใครคือคนที่ ฮีลตัน ไปตามหาบนเกาะรีเจนท์?
“นับตั้งแต่วันที่ แซม เกิดอุบัติเหตุเมื่อสิบปีก่อนคุณก็เลิกไปที่ชายหาด ถึงแม้ว่าจะเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของ แซม คุณก็แค่ที่หลุมศพของเธอเพื่อทิ้งดอกไม้ไว้เท่านั้น ฮีลตัน คุณไปที่เกาะรีเจ้นท์ เพื่อตามหาใครบางคนใช่มั้ย?”
เธออาจจะเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของ เจลลี่ บีน ใช่ไหม?
เธอรู้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฮีลตัน ได้พบกับแม่ผู้ให้กำเนิด เจลลี่ บีน และพาผู้หญิงคนนั้นกลับไปอาศัยอยู่ในบ้านของครอบครัวฟัดด์ และยิ่งไปกว่านั้นเธอก็เป็นภรรยาตามกฎหมายของเขา อาจจะเป็นผู้หญิงคนนั้น?
ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ฮีลตัน ฟัดด์ ดูแลเธออย่างลึกซึ้งขนาดนี้ได้อย่างไร?
…
หลังจากที่คุช ออกไปแล้ว ฮีลตันก็โทรหา กวินทันที
หลังจากเชื่อมต่อสายโทรศัพท์แล้วกวินก็ถามอย่างสงสัยว่า “คุณลุงค่ะ ทำไมคุณยังมีเวลาโทรมาหาฉันได้ ในเมื่อคุณเป็นคนที่ยุ่งมาก ๆ ”
ในชั่วโมงทองแบบนี้ลุงของเธอไม่ได้ไปนั่งจิบกาแฟในขณะที่กำลังจะประชุมผู้บริหารอยู่เหรอ?
เขาจะมีเวลาว่างให้กับเธอได้อย่างไร?
“คุณรู้จัก เวอเรียน ที่ทำงานใน บริษัทยาส หรือเปล่า”
กวินตกตะลึง “เวอร์เรียน? ทำงานในบริษัทยาสงั้นเหรอ?
ไม่ แต่เดี๋ยวก่อนคุณลุงไปสนิทกับเวอเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ฉันเป็นสามีของเธอแล้วฉันจะไม่สนิทกับเธอได้อย่างไร”
กวินรู้สึกเหมือนกับว่าเธอถูกฟ้าผ่า “คุณลุงแค่แกล้งล้อเล่นกับฉันใช่ไหม?”
ฮีลตัน ไม่ได้ที่จะล้อเล่นกับเธอ และเขาพูดออกมาอย่างห้วนๆว่า “กวิน แฟนของคุณห่วงใยคุณมากหลังจากที่ เวอเรียน ลาออกจาก ฟัดด์ กรุ๊ป เขาก็เสนอตำแหน่งว่างให้เธอทันที? คุณไม่กลัว เวอเรียน ขโมยแฟนของคุณไปเหรอ?”
กวินพูดไม่ออกในทันที “แต่ถ้า เวอเรียน ขโมยแฟนฉันนั่นหมายความว่าคุณลุงก็ถูกนอกใจด้วยใช่หรือเปล่าค่ะ? คุณลุงคุณหล่อมาก และมีคุณสมบัติที่ฉันคิดว่า เวอเรียน จะไม่เอาตัวเองไปเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กับคนอื่นนะ”
เห็นได้ชัดว่าเขามีแผนการที่ร้ายกาจ “ถึงแม้ว่าเวอเรียน จะไม่ทำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ยานิ เขาจะไม่ทำนะ”
กวินรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมากและก็ตกตะลึงด้วยเช่นเดียวกัน เธอไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้แม้แต่คำเดียว
ถ้าหาก เวอเรียน เจอกับ ยานิ ทุกวัน และพวกเขาสองคนต้องทำงานด้วยกันและกินข้าวด้วยกัน ก็ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะสปาร์คกันตอนไหนก็ได้!
เธอเชื่อว่า เวอเรียน หล่อนเป็นคนที่ซื่อสัตย์ แต่สำหรับ ยานิ ถึงแม้ว่า… เธอจะเป็นห่วงเขาแต่ ยานิ มักจะปฏิบัติต่อเธอด้วยการวางตัวที่เป็นกลาง
ไม่ เธอต้องให้เวอเรียนลาออกจากบริษัทยาสให้ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน