ขณะที่ คุช ซาเวียร์ เดินเข้าใกล้ประตู เขาก็ถูก ฮีลตัน ฟัดด์ หยุดไว้
เขาตกตะลึง เขาคิดว่าเจ้านายของเขาจะเปลี่ยนใจ และต้องการกลับไปที่สำนักงานเพื่อลงนามในข้อตกลงกับเขา
อย่างไรก็ตามใครจะรู้ว่า ฮีลตัน ฟัดด์ จะพูดอะไร ขณะที่เขาสั่งด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด “ไปสืบดูประวัติของ เวอเรียน มอนท์ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา รวมถึงดูความสัมพันธ์ของเธอกับคนอื่นด้วย”
“ ... ได้ครับ”
สิ่งที่ ฮีลตัน ฟัดด์ ต้องจะพูดก็คือ “ตรวจสอบทุกสิ่งที่เธอทำ ที่เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของ เวอเรียน มอนท์ และความสัมพันธ์ของเธอในช่วงสามปีที่ผ่านมา”
ดังนั้น คุช ซาเวียร์ จึงออกจากห้องพร้อมกับ ‘ภารกิจ’ ในมือ
…
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง คุช ซาเวียร์ ได้โทรศัพท์มาหาเขา ฮีลตัน ฟัดด์ เขารับสายหทันทีหลังจากที่เดินออกจากห้อง
“บอสเมื่อ 3 ปีก่อน คุณมอนตี้เลิกกับเจนเซ่น แฟนเก่าของเธอ เธอไม่เคยคบกับใครอีกเลยตั้งแต่นั้นมา แน่นอนว่า นอกจากพบคุณแล้ว”
ขณะที่ คุช ซาเวียร์ ครุ่นคิดกับตัวเองอย่างเงียบ ๆ ตามลักษณะตามธรรมชาติ ตามปรารถนาของเจ้านายของเขา เขาคงยอมรับไม่ได้ถ้าหากคุณมอนท์จะมีความสัมพันธ์กับชายอื่น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณมอนท์ แต่เธอก็ยังคงเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของ เจลลี่ บีน ดูเหมือนว่าเจ้านายของเขาตอนนี้กำลังคิดว่า คุณมอนท์เป็นผู้หญิงของตัวเองไปแล้ว
“ความสัมพันธ์ของเธอกับ เลฟี่ โบดด์ เกี่ยวข้องกันอย่างไร”
“หลังจากที่คุณมอนท์ เดินทางไปเรียนต่อที่ปารีส เธอก็พบกับคุณโบดด์ ที่นั่น ทั้งคู่เป็นนักเรียนของโรงเรียนปารีส อินเตอร์เนชั่นเนล สาขาศิลปกรรม คุณโบดด์ ดูแลเธอเป็นอย่างดีในช่วงเวลาส่มปีที่ผ่านมา ทั้งคู่สนิทสนมกัน...แต่ก็เป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น”
คุช ซาเวียร์ หยุดทันทีก่อนที่จะพูดจบประโยคสุดท้าย
ฮีลตัน ฟัดด์ วางสายทันที ในขณะที่ดวงที่คมชัดของเขาเปล่าประกายอย่างเยือกเย็น
ระหว่างชายหญิงจะเรียกตัวเองว่าเป็นเพื่อนที่ดีได้อย่างไร?
ความรู้สึกไม่สบายใจเกิดขึ้นภายในใจ
…
เมื่อ เวอเรียน มอนท์ ตื่นขึ้นมาดวงตาสองคู่นั้นก็จับจ้องเธอ
คู่แรกเป็นดวงตาสีมุกเข้มลึกของเขา คนที่สองคือดวงตาขนาดใหญ่ที่ไร้เดียงสา และน่ารักของ เจลลี่ บีน
ทันทีที่เธอสังเกตเห็นว่า เวอเรียน มอนท์ รู้สึกตัว เจลลี่ บีน ก็กระโดดรอบ ๆ ไปมาอย่างตื่นเต้น ในขณะที่เธอสวมชุดคนไข้ของเธอ เธอปรบมือเล็ก ๆ ของเธอ อย่างดีใจขณะที่เธอพูด “ในที่สุดมอนตี้ก็ตื่นแล้ว!!"
เด็กน้อยกำลังกอดคอของ เวอเรียน มอนท์ เธอสับสนอยู่ครู่หนึ่งอย่างไรก็ตามเธอยกแขนขึ้นเพื่อกอดร่างเล็ก ๆ ที่อ่อนนุ่มนั้นไว้ในตัว
เจลลี่ บีน…มักจะทำให้เธอนึกถึงลูกของตัวเองที่เพิ่งคลอดเมื่อสามปีก่อนโดยไม่รู้ตัว
บางครั้งเธอก็คิดว่ามันจะดีแค่ไหนถ้า เจลลี่ บีน เป็นลูกสาวของเธอเอง
ทั้งเชื่อฟัง ฉลาด เข้าใจง่าย และเป็นเด็กที่น่ารัก
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีทางสมหวังเลย เพราะเธอไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดของ เจลลี่ บีน และก็คงเป็นไปไม่ได้มากกว่าเป็น ‘แม่เลี้ยง’ ของเธอ
เวอเรียนลูบหัวของเธอ และขอบคุณผู้ชายที่นั่งสง่าอยู่ตรงหน้าเธอ “ขอบคุณที่ดูแลฉัน”
เขาปิดข้อมูลที่อยู่ในมือของเขาลง ในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่เย้ายวน ด้วยดวงตาสีไข่มุกสีดำของเขาจดจ่อที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ เขาบอกว่า “คุณขอบคุณที่ผมดูแลคุณเมื่อคืนนี้ หรือดูแลคุณหลังจากที่คุณสลบไปแล้ว?”
ติ่งหูของ เวอเรียน มอนท์ เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอกัดริมฝีปากตัวเองแล้วพูดว่า “เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา คุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจ เราเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ ฉันจะรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง…”
ฮีลตัน ฟัดด์ จ้องมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง เขาถามเธอกลับว่า “แสดงว่าไม่ต้องคิดมากงั้นหรือ?”
น้ำเสียงของผู้ชายที่น่าหลงใหลนั้นมีระดับเสียงสูงกว่าในพยางค์สุดท้าย มันเหมือนขนนกที่กระตุ้นหัวใจของเธอเบา ๆ มันกระตุ้นความรู้สึกปรารถนาที่รุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อะไร? ฉันหมายถึง ฉันจะไม่บังคับคุณให้มารับผิดชอบอะไรฉัน…”
ดูเหมือนว่าเธอตั้งใจจะรับบทเป็น ‘ภรรยาปลอม’ ของเขาในขณะที่เธอใกล้ชิดกับหลานชายของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ?
“คุณจะรับผิดชอบใช่ไหม?”
“ห๊า!”
ฮีลตัน พูดถึงเรื่องการแต่งงานกับ เวอเรียน มอนท์ ก่อนหน้านี้ นั่นหมายความว่าอย่างไร?
เวอเรียน มอนท์ กับเขายังไม่ได้รับใบทะเบียนสมรสกันจริงเหรอ!
เจลลี่ บีน ซบไหล่ของ ฮีลตัน ฟัดด์ ขณะที่โบกมือให้เวอเรียน เธอกล่าวว่า “มอนตี้ เราจะกลับมาหลังจากที่ล้างแผลเสร็จแล้วนะคะ”
หลังจากที่ฮีลตัน และ เจลลี่ บีน ออกไป แนนซี่ก็หยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาปอกเปลือก เธอกล่าวว่า “เวอเรียน ถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งเข้ามาในครอบครัวฟัดด์ แต่ฉันมีบางอย่างจำเป็นที่จะบอกเธอ”
เวอเรียนขมวดคิ้วและพูดว่า “มีอะไรกันคะ พี่สะใภ้?”
แนนซี่ มองตรงไปที่เธอ แล้วหัวเราะเบา ๆ เธอกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอ และฮีลตันจะแต่งงานกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เธอทั้งคู่ก็แค่แสดงละครใช่ไหมล่ะ”
“ทำไมถึงพูดแบบนั้น”
แม้ว่าจะเป็นความจริงที่ว่าเธอและ ฮีลตัน ฟัดด์ กำลังแสร้งทำเป็นคู่สามีภรรยา แต่เธอก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินสิ่งที่แนนซี่พูด
“คุณรู้ไหม บริซลี ฟัดด์ พี่ชายของ ฮีลตัน ฟัดด์ เขาล่วงลับไปเมื่อห้าปีก่อน เธอรู้ไหมว่าเขาเสียชีวิตได้อย่างไร”
ฮีลตัน ฟัดด์ ไม่เคยพูดถึงพี่ชายของเขามาก่อน ดังนั้นเธอจึงส่ายหัว
แนนซี่ กล่าวต่อว่า “บริซลี เสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ และสาเหตุนั่นก็เป็นเพราะฉันบอกเขาว่า ฉันไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้อีกแล้ว”
“ทำไม?”
“เป็นเพราะตอนนั้นฉันท้องลูกของฮีลตัน”
เวอเรียน ตกตะลึง คุณพูดว่าไงนะ “พี่สะใภ้... คุณหมายถึงอะไร”
หัวใจของเวอเรียน กระวนกระวายอย่างไร้เหตุผล เธอสังเกตเห็นเพียงริมฝีปากของแนนซี่ ที่พูดว่า “แม้ว่าคุณจะให้กำเนิดลูกสาวของฮีลตัน แต่ฉันก็ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งแก่เขา เซย์นเป็นลูกชายของฉันกับฮีลตัน ตลอดห้าปีที่ผ่านมาฉันรู้สึกผิดต่อฮีลตัน แต่เพราะสังคมเราจึงไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ เวอเรียน...อย่างไรก็ตาม ฉันกับฮีลตัน เรามีความรักที่แท้จริงต่อกัน”
ทันทีที่เธอจบคำพูดนั้น แนนซี่ แซนเดอร์ ก็ปอกแอปเปิ้ลเสร็จแล้วส่งให้เธอ รอยยิ้มที่ดูสวยงามตามปกติของเธอยังคงฉาบอยู่บนใบหน้าของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน