รูบี้เย้ยหยันและพูดว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าประธานาธิบดีของประเทศอาร์ จะเป็นคนที่ไร้มนุษยธรรมและโหดเหี้ยมขนาดนี้ เพื่อที่จะได้ข้อมูลที่แกต้องการ พวกแกตัดสินใจใช้วิธีการประทับรอยใส่ตัวฉัน งั้นก็เอาเลย ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ในปอดของฉัน ฉันจะให้พวกแกประทับรอยใส่ตัวฉัน 10 จุดสำหรับแต่ละคน”
เมื่อเธอพูดแบบนั้น เธอก็จ้องเขม็งไปยังคนที่ทรมาน สายตาของเธอรู้สึกเย็นเยือกไปจนถึงกระดูก และคุกคามทุกคนที่มีอาวุธอยู่ในขณะนั้น ช่างน่าขันจริง ๆ เนื่องจากเธอเป็นคนที่โดนจับตัว แต่เธอกลับทำให้คนที่จับเธอมาทั้งหมดสั่นคลอนจากสายตาที่ร้อนแรงของเธอ
ทันใดนั้นไม่มีใครกล้าก้าวเข้าไปข้างหน้า พวกเขายืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับเหล็กร้อน
เมื่อสังเกตเห็นการ์ดไม่ทำอะไร เลขาจึงตะโกนออกมาว่า “พวกแกยืนนิ่งกันเพื่ออะไร? พวกแกอยากโดนประทับตราเหมือนกันงั้นเหรอ?”
การ์ดก้าวเข้าไปอย่างลังเล แต่เลขาแย่งเหล็กร้อนมาจากเขา และจี้ไปที่หน้าอกของรูบี้ทันที!
ฉี่…
กลิ่นเนื้อไหม้อบอวลไปในอากาศ
"อ่า…!"
รูบี้สลบไปทันทีจากความเจ็บปวด
การ์ดก้าวเข้าไป และค่อย ๆ ตรวจดูรูบี้อย่างระมัดระวังในขณะที่เขาพูด “คุณเลขาครับ เธอสลบไปแล้ว”
“ฉันต้องสอนพวกแกว่าจะต้องทำอย่างไรต่อหรือเปล่า? ปลุกเธอด้วยการสาดน้ำเย็นใส่เธอ! สอบปากคำต่อไป!”
เลขาเย้ยหยันก่อนจะโยนเหล็กตีตรากลับเข้าไปในเตาหลอม จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินออกไป
…
ติ้ง ติ้ง
ในตอนกลางคืน ความเงียบนั้นทำให้ไม่ได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงน้ำหยดในคุกใต้ดินที่ชื้น และมืด
หลังจากที่รูบี้ฟื้นคืนสติจากการที่ถูกน้ำเย็นสาด เธอก็ต้องทนโดนการ์ดฟาดอีกรอบเป็นเวลานานมาก แต่เนื่องจากจำนวนบาดแผลที่เธอได้รับบนร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง การทรมานจึงไม่เจ็บปวดสำหรับเธออีกต่อไป
ณ จุดนี้ เธอรู้สึกชาไปหมดทั้งตัว
การ์ดไม่สามารถทำต่อไปได้อีกต่อไป จึงตัดสินใจไปนอน
รูบี้ถูกแขวนไว้ และดูเหมือนเธอกำลังสลึมสลือ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอหมดสติไป มันจะรู้สึกเหมือนว่าเธอหลับไปนานมาก แต่เธอจะถูกปลุกด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานมาก เธอร้องเรียกหาเบลนให้มาช่วยเธอตามสัญชาตญาณ
แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าเบลนจะมาช่วยเธอจริง ๆ หรือไม่
เธอไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ ที่เบลนเก็บมาเพราะความสนใจ และเธอใช้เบลนเพื่อประโยชน์ของเธอเองเท่านั้น ถ้าเบลนมาช่วยเธอจริง ๆ การเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับเขา เบลนจะต้องปะทะกับประธานาธิบดี เพื่อคนที่ไม่สำคัญอย่างเธองั้นหรือ?
รูบี้รู้สึกไม่มั่นใจ
สิ่งเดียวที่เธอรู้ในตอนนี้คือ ไม่มีภารกิจใดที่องค์กรไลท์มอบหมายให้เธอเป็นงานที่ง่าย ๆ ทุกภารกิจเดิมพันด้วยชีวิต
การหลบหนีจากคุกใต้ดินแห่งนี้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น เป็นสิ่งที่เธอไม่มั่นใจอีกแล้วในตอนนี้ ดังนั้นการกลับไปที่ประเทศแซด หรือแม้แต่องค์กรไลท์เป็นสิ่งที่เอาไว้คิดในภายหลัง
สิ่งที่น่าขันที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้คือ ความจริงที่ว่าเธอไม่แม้แต่คิดว่าเธอจะหลบหนียังไงด้วยซ้ำ มันคงเป็นเรื่องไร้ประโยชน์เพราะการหนีจากคุกใต้ดินแห่งนี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเธอในตอนนี้ สิ่งเดียวคือเธอกำลังคิดเกี่ยวกับความจริงที่ว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่โรแมนติกเลย นอกจากตอนที่เธออายุสิบแปด ความทรงจำสุดท้ายในชีวิตของเธอคือวันที่เธอได้ใช้ร่วมกันกับเบลน
เธอมีความรู้สึกให้วิลสันมาโดยตลอด แต่ก็ยังไม่สามารถนอนกับเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเบลนรักเธอจริง ๆ หรือไม่ เพราะเขายังไม่ติดกับดักของเธอจริง ๆ ไม่ต้องพูดถึง เธอเคยบอกกับตัวเองว่าเธอจะทำเงินให้ได้มหาศาล และหนีกลับไปยังคฤหาสน์หรูในสรวงสวรรค์ของเธอ เธอยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ มันคงจะโชคร้ายเกินไปหากเธอต้องตายตอนนี้ ตอนที่เธอต้องการเป็นผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ
เบลนจะต้องมาช่วยเธอ เพราะเขาบอกเธอว่าเขามีความรู้สึกให้เธอแล้ว
ค่ำคืนยาวนาน และหลังจากที่อะดรีนาลีนของเธอหมดลง ความเจ็บปวดก็ค่อย ๆ เริ่มกลับมา ความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกไม่ได้เกิดจากบาดแผลธรรมดา ๆ แต่เกิดจากการฟาดของแซ่แต่ละครั้งที่เฉือนผิวหนังของเธอจนไปถึงกระดูก แม้แต่การกระตุกกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าร่างของเธอกำลังถูกรถบรรทุกวิ่งทับ เธอทรมานอย่างมากจนแทบอยากจะร้องไห้
ในช่วงอายุสิบแปดของรูบี้ เธอจำได้ว่าเธอไม่เคยหลั่งน้ำตาเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าเธอจะถูกเด็กกำพร้าคนอื่นรังแก ทำให้เธอต้องอดอาหารเพราะเธอรู้ว่าการร้องไห้นั้นไร้ประโยชน์ และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย เธอต้องการจะเก็บพลังของเธอไว้เพื่อเอาชีวิตรอดต่อไปมากกว่า
คนอย่างเธอรู้ดีว่าการร้องไห้มันไร้ประโยชน์เพียงไร แต่ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงเกินไปสำหรับเธอ มันแผ่ซ่านไปทั่วแขนขา และทุกอวัยวะในร่างกายของเธอ
'รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า ได้โปรด…เบลน’
เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว
“ผู้บัญชาการ เรากำลังปฏิบัติภารกิจกันอยู่ในตอนนั้น ดังนั้นสิ่งที่ผมทำได้คือปิดบังเรื่องนี้จากคุณ คุณละทิ้งภารกิจของคุณ และบินกลับมาที่ประเทศอาร์เพื่อช่วยคุณซอฟตี้ไม่ได้ ใช่ไหม? คุณจะกังวลถ้าผมบอกคุณในตอนนั้น”
“นายต้องแจ้งให้ฉันทราบทันทีว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต”
โอล เครู้ว่าตอนนี้เบลนไม่ได้คิดอย่างมีเหตุมีผล ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้คือการนิ่งเงียบในขณะที่เขาเห็นด้วย “ครับ ผู้บัญชาการ”
ในขณะที่โอล เค กำลังจะขึ้นไปนั่งที่เบาะคนขับ เบลนก็พูดขึ้นทันทีว่า “ถอยไป วันนี้ฉันจะขับเอง”
โอล เคตกตะลึง เขาไม่เคยเห็นเบลนอยู่ในสภาพตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อน...
แม้ว่าเบลนจะมีสีหน้าที่สงบ และความกังวลของเขาถูกซ่อนไว้ค่อนข้างดี แต่เบลนก็ขับรถเร็วมาก เห็นได้ชัดว่าเบลนเป็นห่วงคุณซอฟตี้อย่างมาก
…
รถเบนท์ลีย์สีดำมาถึงที่ออฟฟิสของประธานาธิบดีหลังจากผ่านไปยี่สิบนาที
โอล เคเดินตามเบลนจากด้านหลัง ในขณะที่พวกเขาบุกเข้าไปในออฟฟิสของประธานาธิบดี แต่เมื่อพวกเขามาถึง พวกเขาถูกลูกน้องสองคนของพอลหยุดพวกเขาไว้
"คุณกลาโซ ตอนนี้ท่านประธานาธิบดีกำลังมีการประชุมระหว่างประเทศอยู่ คุณ…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ โอล เคก็ได้เคลื่อนไหวแล้ว และทำให้พวกเขาทั้งสองคนสลบ
เบลนบุกเข้าไปทันที เขาไม่มีอารมณ์จะทักทายใด ๆ ในขณะที่เขาถามอย่างตรงไปตรงมา “ผู้หญิงของผมอยู่ที่ไหน?”
พอลชี้นิ้วไปที่แล็ปท็อป และแสร้งทำเป็นประชุมอยู่ในขณะที่เขาพูดว่า “คุณกลาโซ ตอนนี้ผมมีประชุมสำคัญอยู่”
เบลนยกแขนซ้ายของเขาขึ้น และปิดแล็ปท็อปของพอล
พอลพูดไม่ออก เมื่อคิดว่าเบลนเคยชินกับการกระทำที่ป่าเถื่อนอย่างไร้เหตุผลมากเพียงใดตอนที่อยากทำอะไรก็ตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน