ภายในห้องทำงานประธาน… คุซ แตะไปจมูกของเขาลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ไม่ทำ ฮีลตัน จ้องมองเขาชั่วครู่ด้วยความเย็นชา “พูดมาสิ”
"ผมได้ยินมาว่า ผู้จัดการแซนเดอร์ สั่งให้ คุณมอนท์ ไปส่งเอกสารไปที่ชั้นยี่สิบแต่ตอนนี้ลิฟต์ในอาคารทั้งหมดอยู่ระหว่างการบำรุงรักษา ตอนที่ผมได้ไปนำเอาภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อค้นหาพนักงานที่นินทา คุณมอนท์ และผมเห็นคุณมอนท์ เดินลงบันไดมาพร้อมกับกองเอกสารหนัก ๆ หน้าตาของเธอดูป่วยมากเลยครับ"
นิ้วเรียวยาวของ ฮีลตัน ที่กำลังจับปากกาชะงักลงเล็กน้อย เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างสงสัย ใบหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์เลย และดูเหมือนว่าเขาจะไม่เต็มใจที่จะช่วยเวอเรียนเลย
ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเธอได้ต่อต้านเขา ถ้าเธอสามารถเชื่อฟังเขาได้ เธอก็ไม่ต้องมาทำงานในวันนี้ด้วยซ้ำ คาดว่าร่างกายที่ผอม และอ่อนแอของเธอคงไม่สามารถทนต่อกิจกรรมประจำวันในวันนี้ได้แน่ ตอนนี้ แนนซี่ บังคับให้เธอขึ้นลงบันได เธอควรมาหาเขาและขอความช่วยเหลือจากเขาสิ เขาแค่อยากจะดูว่าเธอจะดื้อทำเป็นเข้มแข็งอย่างเอาแต่ใจได้นานแค่ไหนกัน
ถ้าเมื่อเช้านี้ถ้าเขาไม่สั่งให้เธอเข้ามาในลิฟต์ของเขาด้วยเธอคงจะต้องสายแน่ ๆ ดูจากความแข็งแรงทางร่างกายของเธอในวันนี้แล้วถ้าเธอเข้าไปในลิฟต์ได้มันต้องเป็นโชคมากแน่ ๆ
คุซ เห็นว่าเจ้านายเงียบมานานเขาจึงพูดอย่างไม่แน่ใจว่า “ผมคิดว่าวันนี้ คุณมอนท์ คงรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ถ้าเธอเป็นลมตกบันไดจริง ๆ ผมคิดว่า ฟัดด์ กรุ๊ป จะได้พาดหัวข่าวใน นอร์ท ซิตี้ นิวส์ ในพรุ่งนี้เช้าอย่างแน่นอนครับ”
คุซ คิดไปถึงเรื่องพาดหัวข่าวเสียด้วยซ้ำ ประมาณว่า พนักงานสาวรายหนึ่งของฟัดด์ กรุ๊ป ได้รับค่ำสั่งให้โหมทำงานมากเกินกำลังของเธอจนมากเกินไปจนเป็นลมตกบันไดในเวลาทำงาน สื่อเหล่านี้ตีประเด็นเกินจริงเสมอ พวกเขาอาจเขียนสิ่งที่เกินจริงกว่านี้ด้วยซ้ำไป
ฮีลตัน เงยหน้าขึ้นมองดวงตาสีดำของเขาอย่างแผ่วเบา “ดูเหมือนว่าคุณอยากจะช่วยเธอจริง ๆ เลยนะ?”
"เอ่อ... ผมแค่กำลังเป็นห่วงชื่อเสียงของบริษัทครับ"
คุซ ไม่ใช่คนโง่ หลังจากอยู่กับ ฮีลตัน มาหลายปีเขาก็กลายเป็นคนมีเล่ห์เหลี่ยมพอควร เขารู้ว่าควรพูดอะไรและไม่ควรพูดต่อหน้าเจ้านายของเขา เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของ ฮีลตัน เมื่อเช้านี้เขาคงทะเลาะกับ เวอเรียน แน่ ๆ ทั้งสองคนไม่ได้มีที่ท่าว่าจะง้อขอคืนดีด้วยกันทั้งคู่อย่างแน่นอน และตอนนี้เขาอธิบายสถานการณ์ของ เวอเรียน ให้แย่กว่าที่เป็นอยู่เล็กน้อยและพูดคำโน้มน้าวสองสามคำกับ ฮีลตัน สิ่งนี้อาจทำให้พวกเขากลับมาคืนดีกันก็เป็นได้
"ถ้าคุณเป็นห่วงชื่อเสียงของบริษัทขนาดนั้น ก็อย่าปล่อยให้พนักงานเป็นลมตกบันได และมาทำให้บริษัทต้องกลายเป็นแพะรับบาปด้วยล่ะ"
คำพูดของ ฮีลตัน ฟังดูเลือดเย็นก็จริง แต่ คุซ ก็สามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี เขาทำตามคำสั่งในทันที “ผมจะส่ง คุณมอนท์ กลับเดี๋ยวนี้ครับ”
ถ้าเธอเดินขึ้นบันไดจากชั้นหกสิบไปชั้นยี่สิบจริง ๆ ชีวิตของเธอคงจะใกล้ดับสูญเป็นแน่
...
เยลเลน โบดด์ เพิ่งมาถึงแผนกครีเอทีฟ เขาได้มองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบ เวอเรียน หลังจากถามนักศึกษาฝึกงานที่โต๊ะทำงานถัดไปจากเขา ในที่สุดเขาก็รู้ว่า เวอเรียน กำลังเดินลงบันไดไปส่งเอกสาร โบดด์ รีบวิ่งออกจากแผนกครีเอทีฟในทันที นี้มันเป็นการขึ้นลงบันไดตั้งสี่สิบชั้นเลยนะ! ขาของเธอคงจะอ่อนแรงมากอย่างแน่นอน
...
อีกด้านหนึ่ง เวอเรียน เดินมาที่ชั้นห้าสิบสามแค่เท่านั้น เธอได้เวียนศีรษะและรู้สึกหนักที่ศีรษะเป็นอย่างมาก หัวใจของเธอเต้นรัวอย่างรุนแรงราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมา บันไดเคลื่อนไปมาต่อหน้าต่อตาเธอเหมือนภูตผีไม่มีผิด ทันใดนั้นเองการมองเห็นของเธอก็มืดลงและเอกสารในมือของเธอก็ร่วงหล่นไปทั่ว...
"เวอเรียน!"
โบดด์ จับ เวอเรียน ที่เป็นลมอย่างรวดเร็วแล้วอุ้มเธอขึ้น
ทันทีที่ คุซ มาถึงเขาได้เห็น โบดด์ ที่กำลังอุ้ม เวอเรียน ที่เป็นลมแล้วนั้นลงไปชั้นล่างอย่างรีบร้อน
คุซ พูดทันทีว่า "คุณชายโบดด์ ลิฟต์ทำงานได้ตามปกติแล้วครับ!"
โบดด์ เงยหน้าขึ้นเพื่อมองไปที่ คุซ "ขอบคุณ ฉันจะพาเวอเรียน ไปโรงพยาบาลทันที!"
คุซ เฝ้าดู โบดด์ เดินไปที่ลิฟต์โดยมี เวอเรียน อยู่ในอ้อมแขนได้แต่ถอนหายใจ
ฮึ เจ้านายหมดโอกาสที่จะเป็นฮีโร่เพื่อช่วย เวอเรียน ซะแล้วกลายเป็น โบดด์ ก้าวนำหน้าคะแนนก่อนพวกเขา
ในฐานะผู้ช่วยพิเศษของ ฮีลตัน นั้น คุซ ยังคงทุ่มเทเพื่อโทรหาเขาในทันที
"...ไม่ต้องเป็นห่วง ปล่อยฉันลงฉันเดินเองได้!"
เมื่อคืนเขาใจร้ายกับเธอมาก เขาเพิ่งมาเป็นห่วงในตอนนี้?
ไม่ว่าเธอจะต่อต้านอย่างไร ฮีลตัน ก็เพิกเฉยต่อเธอโดยสิ้นเชิง ทางโบดด์ ที่ไล่ตามเธอลงจากรถยื่นมือออกไปเพื่อขว้างทางของ ฮีลตัน ในทันที "คณลุงแค่แกล้งเป็นสามีภรรยากับเวอเรียน และเวอเรียนก็เป็นแฟนผม คุณไม่สามารถพาเธอไปไหนได้ตามใจชอบ ผมจะพาเธอไปโรงพยาบาลเอง!"
ฮีลตัน ส่งเสียงอย่างเย็นชา และมีแสงเย็นเยียบส่องประกายในดวงตาสีดำของเขา “แกล้งเป็นสามีภรรยากันงั้นเหรอ? งั้นอยากลองถามเธอดูไหม ว่าเมื่อคืนเธอพอใจมากแค่ไหนกัน?”
ใบหน้าของ โบดด์ แข็งขึ้นทันที
ฮีลตันอุ้มเวอเรียน เดินผ่านโบดด์ และกระแทกไหล่ของเขา ท่าทาง และพฤติกรรมของ ฮีลตัน ดูหยิ่งผยองเป็นอย่างมาก เวอเรียน กำหมัดแน่น และชกเข้าที่ไหล่ของเขาอย่างแรง "ทำไมคุณถึงต้องทำให้ฉันอับอายมากขนาดนี้ด้วย! เพราะอะไรกัน?"
ให้ตายเถอะ! เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอ? เธอต้องให้ตายก่อนใช่ไหม?!
ฮีลตัน ไม่เคยต้องอดทนกับผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้ เมื่อว่าเธอคงไม่ยอมสงบง่าย ๆ เขาก็อุ้มเธอพาดบนไหล่ของเขาโดยตรง
หัวของ เวอ หันเข้าหาพื้น และความรู้สึกอับอายของเธอ ก็เริ่มมากขึ้นไปอีก "ฮีลตัน คุณปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้!"
เธอพยามเงยหน้าขึ้นอย่างแรงภาพที่เธอเห็นในตอนนี้คือ โบดด์ ที่ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
หัวใจของเธอก็เจ็บปวด เธอไม่เคยเห็น โบดด์ดูเศร้าขนาดนี้มาก่อน...
โบดด์ ใช้เวลาร่วมกับเธอมาสามปีที่ปารีสได้ผ่านความเหงาและความยากลำบากมาด้วยกันมากมาย เธอเคยคิดมาตลอดว่าเขาจะเป็นชายหนุ่มที่ได้รับพรจากดวงอาทิตย์แน่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดเราก็ส่องประกายตลอดเวลา คงไม่มีความมืดมนหรือความเศร้าเข้ามาในชีวิตของเขาอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน