'ลาส เชนซอว์ แมน' เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่แย่ที่สุด ที่ฉายเป็นเรื่องสุดท้าย
ช่วงนี้ไม่ค่อยมีภาพยนตร์สนุก ๆ เข้าฉาย เชอรีชจึงเลือกดูภาพยนตร์สยองขวัญ
บอยล์รู้สึกประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าสาวน้อยเช่นเธอจะดูภาพยนตร์แนวนี้
เขาไม่เป็นอะไรหรอก เขาแค่เป็นเป็นห่วงว่าเธอจะกรีดร้องออกมาในโรงภาพยนตร์
เวอเรียนมักจะพาเชอรีชไปดูภาพยนตร์กับเธอบ่อย ๆ ตอนที่เธอยังเด็ก พวกเธอจะกินป๊อปคอร์นและโค้กด้วยกัน เธอมักจะซื้อป๊อปคอร์นกับโค้กเข้าไปด้วย
หลังจากที่เหลือบมองป๊อปคอร์น เธอก็นึกถึงเรื่องที่นาตาลีบอกเธอในตอนกลางวัน
ตระกูลของบอยล์นั้นยากจนมาก ครั้งหนึ่งเขาเคยทำงานสี่งานภายในวันเดียว
ในเมื่อป็อปคอร์นกับโค้กเป็นอาหารขยะ เธอจึงไม่ซื้อแล้ว
เธอไม่คิดว่าจะแบ่งป๊อปคอร์นและโค้กกับคนแปลกหน้า ซึ่งเธอแทบไม่รู้จักเขา
บอยล์ส่งตั๋วให้เธอก่อนที่ภาพยนตร์จะเริ่มฉาย "คุณเข้าไปข้างในก่อน เดี๋ยวผมตามเข้าไป"
เชอรีชคิดว่าเขาคงไปเข้าห้องน้ำ เธอพยักหน้าและเข้าไปข้างในก่อน
บอยล์เข้าไปนั่งข้างเธอไม่นาน หลังจากที่เธอนั่งที่ของเธอแล้ว
ชายหนุ่มยื่นป๊อปคอร์นถังใหญ่กับโค้กให้เธอ
เชอรีชยิ้มภายใต้แสงไฟสลัว เธอใช้มือล้วงป๊อปคอร์นในถัง
บอยล์ได้ยินเสียงหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเขากำลังเคี้ยวป๊อปคอร์น
แม้ว่าเขาจะให้ความสำคัญกับความเงียบ แต่เสียงเคี้ยวป๊อปคอร์นก็ไม่ได้ทำให้เขารำคาญเลย เขาเลิกคิ้วเมื่อได้ยินเสียงนั้น
ใช้เวลาไม่นานที่ภาพยนตร์สยองขวัญจะมาถึงช่วงสำคัญ
ในโรงภาพยนตร์นั้นมืดสนิท เสียงดนตรีที่เล่นผ่านลำโพงนั้นทำให้ตกใจ และน่ากลัวมากขึ้น
เชอรีชใจเต้นแรง
แม้ว่าเธอจะกลัวภาพยนตร์สยองขวัญ แต่เธอก็ยังชอบดู
เชอรีชขยับเข้าไปใกล้บอยล์เมื่อเธอรู้สึกกลัว เธอไม่กล้าแม้แต่จะกินป๊อปคอร์น
ในทางกลับกัน บอยล์รู้สึกเบื่อกับภาพยนตร์เรื่องนี่ เขาเริ่มหมดความอดทน และมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือในความมืด ตอนนี้เวลา 23.00 น.แล้ว
ปกติแล้วเวลานี้เขากำลังทำงานอยู่ เขาจะวิเคราะห์ข้อมูลตลาดหุ้นตลอดทั้งวัน
ทันใดนั้นก็มีฉากที่ทำให้ตกใจ ทำให้ทุกคนที่กำลังดูอยู่เกิดความกลัว
เชอรีชจับแขนบอยล์ และซบหน้าลงที่แขนของเขา
บอยล์ตกใจ เขาก้มลงมองเธอที่กำลังตกใจกลัว เขายิ้มแล้วถามเธอ "ทำไมถึงเลือกดูหนังสยองขวัญล่ะ ในเมื่อคุณกลัว?"
เชอรีชกุมหน้า เธอเงยหน้าขึ้นมาตอบด้วยความมั่นใจ "ไม่ได้กลัวซะหน่อย แค่ตกใจฉากเมื่อตะกี๊น่ะ!"
ทันทีที่เธอพูดจบ ก็มีฉากน่าตกใจปรากฏขึ้นบนจอ ทำให้เชอรีชกรีดร้องออกมาแล้วกอดคอบอยล์
บอยล์ยิ้มกว้างแล้วถาม "นี่ยังตกใจอีกเหรอ?"
เชอรีชถามเขา "...มีฉากตกใจอีกหรือเปล่า?"
เธอกลัวมาก เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงเหมือนเด็ก
เธอไม่กล้ามองไปที่หน้าจอ
บอยล์แตะหลังเธอ เป็นการบอกเธอว่าตอนนี้ดูได้แล้ว
ทันทีที่เชอรีชเงยหน้าขึ้นมา เป็นจังหวะที่บอยล์ก้มลงมาพอดี ทำให้ริมฝีปากนุ่มของเธอเฉียดลูกกระเดือกของเขา
มีความรู้สึกของความรักและความเสน่หา ก่อตัวขึ้นมาอย่างรุนแรงในโรงภาพยนตร์
โชคดีสำหรับเธอที่แสงไฟในโรงภาพยนตร์นั้นมืดสลัว ไม่อย่างนั้นบอยล์คงได้เห็นว่าเธอหน้าแดง
เมื่อบอยล์มองไปที่หน้าจอ ดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะดูน่ากลัวน้อยลง รูม่านตาและลำคอของเขากระตุก
เขาอดกลั้นตัณหาที่มีความรู้สึกรุนแรงภายในร่างกายของเขาเอาไว้
ภาพยนตร์สยองขวัญเริ่มฉายตอนสี่ทุ่ม และจบประมาณเที่ยงคืน
เชอรีชได้รับข้อความจากแมนดี้ เมื่อพวกเขาออกมาจากโรงภาพยนตร์
เพื่อนที่พักห้องเดียวกับเธอ ต่างพากันถามว่าเธอออกไปไหน
'โอ้ ไม่นะ ผู้ดูแลหอพักคงกำลังตรวจสอบอยู่แน่'
เมื่อพวกเขามาถึงตรงทางออกของโรงภาพยนตร์ เชอรีชพูดอย่างกระวนกระวาย "ฉันต้องกลับไปหอพักแล้ว!"
บอยล์ดูเวลา ตอนนี้เวลา 00.05 น. เขาบอกเธอ "ตอนนี้หอพักปิดแล้วล่ะ"
"...งั้นฉันจะไปนอนที่โรงแรม"
บอยล์ถามเธอ "คุณเอาบัตรประจำตัวมาด้วยหรือเปล่า?"
"...ไม่ได้เอามา"
'บ้าจริง' เชอรีชคิดในใจ 'ฉันไปนอนที่โรงแรมไม่ได้ ถ้าไม่มีบัตรประจำตัว'
บอยล์ขึ้นไปบนจักรยานแล้วบอกเธอ "ขึ้นมาสิ"
จักรยานของบอยล์ไม่มีเบาะนั่งข้างหลัง เพราะมันเป็นจักรยานเสือภูเขา มีแค่เบาะนั่งสำหรับคนขี่
โรงภาพยนตร์อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมาก ก่อนหน้านั้นพวกเขาเดินมาที่โรงภาพยนตร์ บอยล์เอาจักรยานไว้ที่นี่
บอยล์ขมวดคิ้วเมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่ขยับตัว เขาไม่อยากเสียเวลา จึงจับมือเธอแล้วยกตัวเธอขึ้นมานั่งบนจักรยาน
เชอรีชพูดไม่ออก
เธอได้ยินเสียงเย็นชาและทุ้มต่ำ อยู่เหนือศีรษะของเธอ "จับแน่น ๆ ห้ามขยับนะ"
เชอรีชยังคงไม่ตอบสนอง
เธอเคยเห็นแค่พ่อของเธอทำตัวไม่มีเหตุผลกับมอนตี้ ไม่เคยเห็นผู้ชายคนอื่นทำแบบนี้มาก่อน
บอยล์ขี่จักรยานได้นุ่มนวลมาก
เธอรู้สึกปลอดภัยที่ถูกปกป้องอยู่ในอ้อมกอดของเขา
ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น พวกเขารู้จักกันแค่สองวัน ตอนนี้เธอกำลังไปกับเขาตอนกลางดึก
"คุณจะพาฉันไปไหน?"
"ไปบ้านผม"
เชอรีชพูดไม่ออก มุมปากของเธอกระตุก
"ทำไมเหรอ? ถ้าคุณมีเจตนาแอบแฝงอีกล่ะ?"
เชอรีชกอดตัวเองแน่น แม้ว่าบอยล์จะดูไม่เหมือนคนมี่มีเจตนาไม่ดีก็ตาม
บอยล์รีบโต้กลับ "คุณดุเกินไป ไม่ใช่สเป็คผมหรอก"
เชอรีชพูดไม่ออก
เธอจะดุร้ายได้ยังไง แล้วนั่นหมายความว่ายังไง? เขาต้องรู้นะว่าเธอเป็นคน 'มีเสน่ห์'
เธอมองเขาอย่างโมโห เธอยังยืนพิงประตูและคิดในใจ 'ฮึ่ม นายก็แค่มองไม่เห็น!'
หลังจากบอยล์มองหญิงสาวเข้าไปในห้องและปิดประตู เขาก็นอนลงบนโซฟาแล้วนอนหนุนแขน
ชายหนุ่มยิ้มแล้วหลับตา
มันรู้สึกแปลกที่ถูกผู้หญิงอ่อนแอปกป้อง ในใจของเขาเหมือนถังน้ำร้อนที่กำลังเทน้ำที่กำลังเดือด มันไม่ได้รู้สึกอบอุ่นหรือสบายใจ เขาอยากต่อต้านความรู้สึกนี้แต่ก็ยังซาบซึ้งอยู่
บอยล์ไม่คิดว่าภายนอกของเธอที่ดูดื้อรั้น ภายในจะเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์และไร้เดียงสา
เชอรีชตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่
มันเป็นเวลาตีห้าตอนที่เธอดูเวลา
เธอรู้สึกเหนื่อย แต่เมื่อคิดว่าอยู่ในบ้านของบอยล์ เธอควรรีบออกไปให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เพื่อนที่พักกับบอยล์เข้าใจพวกเขาผิด
เธอรีบลุกขึ้นมาเปิดประตู เธอเห็นบอยล์นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เขากำลังจ้องอุปกรณ์ที่มีสีเขียวและสีแดงบนหน้าจอ ดูเหมือนว่าเขากำลังดูตลาดหุ้นอยู่
'พระเจ้า มีคนบ้างานกว่าพ่อของเธออีกหรือนี่? เขากำลังเรียนตลาดหุ้นตั้งแต่เช้าเนี่ยนะ?"
เชอรีชเกาหลังศีรษะ เธอยังรู้สึกง่วงนอนอยู่ เธอถามอย่างมึนงง "ทำไมตื่นเช้าจัง?"
บอยล์ลุกขึ้นรินน้ำให้เธอ "ผมชินแล้ว การเรียนสิ่งนี้ตอนเช้ามันดีกว่า"
เขาส่งแก้วน้ำให้เธอ เชอรีชรับแก้วน้ำมาก่อนจะยกนิ้วโป้งให้เขา "ท่านคะ ฉันนับถือคุณเลย คุณวิเคราะห์เรื่องนี้ได้ในตอนเช้า ฉันไม่เข้าใจเรื่องนี้หรอก ฉันคิดได้แค่เรื่องนอน!"
หลังจากนั้นบอยล์ก็ไปส่งเชอรีชกลับหอพัก
หลังจากผ่านไปสองสามวัน บอยล์ก็ไม่ได้ติดต่อเธออีก
เชอรีชรู้สึกเศร้าเล็กน้อย เธอดูข้อความในเฟสบุ๊คบ่อยมาก
วิทนีย์แซวเธอตอนทานอาหารกลางวัน "ดูสิว่าเธอโง่แค่ไหน! เธอออกไปดูหนังสยองขวัญตอนดึกกับบอยล์เนี่ยนะ? โอ้ เชอรีช ทำไมฉันถึงไม่รู้นะว่าการเดทของเธอตอนนั้นน่ะมันโง่แค่ไหน?"
"ใครจะไปใช้สมองตอนกำลังเดทอยู่ล่ะ? ส่วนใหญ่คนที่ไปเดทกัน ล้วนใช้แต่ความรู้สึกไม่ใช่เหรอ? ใครจะไปคิดว่าเขาจะตอบตกลงทันทีล่ะ?"
เมื่อวิทนีย์เห็นว่าเธอเศร้าแค่ไหน จึงบอกเธอ "ตอนนั้นเธอไม่อยากไปเดทกับเขา และตอนนี้เธอก็ติดโทรศัพท์ ดูสิว่าเธอสับสนแค่ไหน พูดได้หรือยังว่าตอนนี้เธอชอบเขา?"
เชอรีชเป็นคนพูดตรงตั้งแต่ยังเด็ก เธอเม้มปากแล้วตอบ "แล้วยังไงล่ะ ฉันจะชอบเขาไม่ได้หรือไง? แล้วตอนนี้เขามีแฟนหรือยังล่ะ?
"เธอชอบเขาได้อยู่แล้ว! ฉันสนับสนุนเธอเต็มที่!"
ดวงตาของเชอรีชเป็นประกาย เมื่อได้ยินที่เพื่อนพูด "เธอจะสนับสนุนฉันยังไง?"
วิทนีย์พูดเป็นนัย "ฉันเชี่ยวชาญการหลอกคนนะ! ทำไมเราไม่ทำแบบนั้นกันล่ะ!"
เชอรีชไม่รู้จะพูดยังไง "เธอมีแผนอะไรโง่ ๆ อยู่ใช่ไหม? ฉันว่าก่อนที่เราจะทำสำเร็จ เขาคงทิ้งฉันแล้วล่ะ!"
"เธอรู้ได้ไง! ฉันรู้เคล็ดลับในการจีบผู้ชายเยอะนะ! ฉันรู้ว่าที่จริงแล้วบอยล์เป็นพวกบ้ากาม! ยิ่งเขาปฏิเสธเธอ เขาก็ยิ่งชอบเธอ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน