หลังจากคาลัมลงจากรถ เขาก็เดินไปที่รถปอร์เช่ 911 แล้วเคาะกระจก
"สวัสดีครับ ให้ช่วยไหมครับ?"
เป็นไปตามที่คิดไว้ สาวสวยในรถลดกระจกลง
เชอรีชรีบเหลือบมองกระจกมองหลัง เธอเห็นรถเบนท์ลีย์สีดำอยู่ข้างหลังเธอ เธอจอดรถแย่จนไปขวางรถที่อยู่ข้างหลัง
เธอรีบขอโทษอย่างลนลาน "ขอโทษด้วยนะคะ ฉันจอดรถยังไม่เก่ง"
คาลัมพูดอย่างสุภาพ "ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมช่วยคุณได้นะครับ"
คาลัมคิดในใจ 'เวลาของเจ้านายมีค่ามาก มันจะแย่ถ้าเขามาเสียเวลาอยู่ที่ลานจอดรถ'
ดวงตาของเชอรีชเป็นประกาย เธอรู้สึกดีใจที่มีคนมาช่วยจอดรถให้ หมายความว่าเธอไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นอีกแล้ว
เธอปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย แล้วตอบพร้อมรอยยิ้ม "ขอบคุณค่ะ"
ทันทีที่เชอรีชลงมาจากรถ
บอยล์ที่นั่งอยู่ข้างหลังรถมองมาที่เธอ เขาเห็นรูปร่างที่คุ้นตาจากความทรงจำของเขา
ดวงตาของเขาเป็นประกาย
บอยล์เห็นใบหน้าที่เขาโหยหาและคิดถึงมาตลอด เมื่อเชอรีชหันมามองที่รถเบนท์ลีย์
เธอนั่นเอง
บอยล์ใจเต้นแรง
คาลัมใช้เวลาจอดรถให้เธอไม่นาน
เชอรีชพูดขอบคุณเขาอย่างสุภาพ "ขอบคุณมากนะคะ"
"ไม่เป็นไรครับ"
คาลัมกลับมาที่รถเบนท์ลีย์สีดำ หลังจากที่ขอบคุณกันเสร็จแล้ว
เชอรีชหยิบกระเป๋าแล้วเดินเข้าไปในอาคาร หลังจากที่จอดรถเสร็จแล้ว
กระจกรถของรถเบนท์ลีย์สีดำเลื่อนลงมา
บอยล์มองร่างบางแล้วสั่ง "ชนรถเธอซะ"
คาลัมตกใจ เขาไม่เข้าใจที่เจ้านายสั่งแบบนั้น "เจ้านาย?"
"ฉันบอกให้ชนรถเปอร์เช่ 911 ไงล่ะ"
คาลัมคิดว่าเขาได้ยินผิดไป "ทำไมล่ะครับ?"
หญิงสาวคนนั้นทำให้เจ้านายของเขาไม่พอใจหรือเปล่า?
บอยล์ตอบเสียงทุ้มต่ำ "เลิกถามว่าทำไม แล้วทำตามที่ฉันสั่งซะ"
คาลัมพูดไม่ออก
เขารับได้กับการกระทำแบบนั้นจริงเหรอ?
คาลัมไม่มีทางเลือกจึงต้องทำตามคำสั่ง เขาสวดภาวนาในใจให้หญิงสาวคนนั้น ก่อนจะชนรถเธอ
มันเป็นรถเปร์เช่ 911 ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนขับ มันยังคงเป็นรถที่สวย
การที่รถถูกชน จะไม่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นเสียใจเหรอ?
คาลัมกัดฟัน เขาหลับตาและเหยียบคันเร่งก่อนจะเกิดเสียงดังขึ้น
รถเบนท์ลีย์สีดำชนเข้ากับรถเปอร์เช่ 911
คาลัมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
บอยล์กลับดูสงบนิ่ง เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
คาลัมถาม "เอายังไงต่อครับ เจ้านาย?"
บอยล์ออกคำสั่ง "ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ เจ้าของรถจะได้ติดต่อเราเพื่อคุยเรื่องค่าเสียหาย"
คาลัมพูดไม่ออก
วันนี้เจ้านายของเขาถูกผีเข้าหรือไง เขาเบื่อจนไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้ทำแล้วเหรอ?
คาลัมได้แค่บ่นในใจ เขาไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดออกมา
บอยล์เตือนเขา "ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของนายให้สิ"
"หา?" คาลัมสับสน แต่เขาก็ตอบรับ "ครับเจ้านาย"
หลังจากทิ้งเบอร์โทรศัพท์และจอดรถแล้ว บอยล์กับคาลัมก็เดินเข้าไปในอาคารด้วยกัน
ผู้จัดงานเลี้ยงการกุศลคืนนี้คือ ชินด์เลอร์ กรุ๊ป ประธานกรรมการบริหารและคนที่มีอิทธิพลหลายคน ได้ถูกเชิญมา
ห้องโถงสว่างและตกแต่งอย่างดี ดอกไม้สดและแชมเปญจัดวางอยู่ทั่วห้องโถง
หญิงสาวที่มีเสน่ห์หลายคนก็ปะปนกันอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน
บอยล์เงียบ เขาไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นเลย
เขาสนใจแต่หญิงสาวที่อยู่บนเวที เธอเหมือนดอกกุหลาบที่สวยงามและเปราะบางในเวลาเดียวกัน เธอดูน่าทึ่ง
บอยล์รู้สึกเห็นแก่ตัว เขาอยากเก็บเธอไว้เป็นของเขาคนเพียงเดียว เขารู้สึกหึงเมื่อมีคนมากมายกำลังจ้องเธอพร้อมกัน
เขาต้องการให้โลกได้รู้ ว่าเขาประทับใจผู้หญิงของเขามากแค่ไหน
เขายิ้ม เมื่อเขามองเปียโนภายใต้แสงไฟสลัว
ดูเหมือนว่าการได้กลับมาพบกันจะเป็นสิ่งที่ดี
ทันทีที่เธอเล่นเพลงเสร็จ เชอรีชก็ลงมาจากเวทีและหายเข้าไปในกลุ่มคน
เธอใส่ชุดสีเลม่อนสวยงาม ทำให้ผิวของเธอยิ่งดูสว่างขึ้น
บอยล์จดจ่ออยู่ที่หญิงสาวคนนั้น
มีผู้หญิงหลายคนที่หลงเสน่ห์บอยล์ แต่บอยล์ก็เป็นผู้ชายที่ถือตัวและปฏิเสธพวกเธอทั้งหมด ผู้หญิงที่มาจีบเขานั้นได้ถอยกลับไป เมื่อเห็นว่าบอยล์ไม่สนใจพวกเธอ
เชอรีชยืนกินเค้กสตรอวเบอร์รี่อยู่ที่โต๊ะ
มีผู้ชายเข้ามาจีบเธอ
สายตาของบอยล์เย็นชาขึ้น เขาโมโหและเข้าไปหาเธอ
"เชอรีช"
เชอรีชตกใจ และคิดว่าเธอเป็นประสาทหลอน เธอหันมามองด้วยความไม่เชื่อ
ผู้ชายคนนั้นใส่สูทและยืนอยู่ใต้โคมไฟระย้า เขาดูหล่อและสง่างาม เธอรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นภาพหลอน
เธอดูตกใจมาก
ทั้งคู่สบตากัน อากาศรอบตัวพวกเขาหนักอึ้ง เธอคิดอะไรไม่ออกหลังจากที่ได้กลับมาพบกัน ในเวลาที่ผ่านไปนานเช่นนี้
เธอไม่คิดว่าจะได้มาพบเขาอีก หรือไม่คิดว่าจะเจอเขากะทันหันแบบนี้
บอยล์เดินเข้ามาหาเธอ เขาดูน่ากลัวกว่าปกติ
เชอรีชกำหมัดแล้วยิ้มตอนที่เขาเข้ามาใกล้เธอ
"ไม่ได้เจอกันนานนะ เชอรีช"
เธอดูตกใจมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน