ตอนที่ 141 ลูกของใคร
จารวีทานอาหารมื้อนี้อย่างช้าๆ เธอละเลียดลิ้มชิมรส จริงๆแล้วอาหารเหล่านี้อาจไม่ใช่เพราะรสชาติที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่เพราะว่าเมนูเหล่านี้ล้วนเป็นเมนูที่เธอชอบทานเมื่อตอนยังเป็นเด็ก ความทรงจำของเธอถูกจดจำว่าอย่างนั้น เมื่อโตขึ้นก็ย้อนกลับไปคิดถึงรสชาติที่คุ้นเคยนั้น
ก็เหมือนกับอาหารเหล่านี้ ที่มนต์ตรีทำทำให้เธอนึกถึงเรื่องราวมากมาย คุณแม่ คุณน้ารนารีย์ อีกทั้งความสุขที่เคยมีเมื่อตอนยังเป็นเด็ก
"วีร้องไห้ทำไม?”
สายตาของมนต์ตรียังไม่ละออกไปจากใบหน้าของจารวีแม้แต่วินาทีเดียว เธอทานอาหารไปเรื่อยๆ อยู่ๆน้ำตาก็ไหลออกมา
เขายื่นกระดาษทิชชูให้เธอยังห่วงใย จารวีรับกระดาษมาซับน้ำตา พลางฉีกยิ้ม
"คงเพราะไม่ได้กินเผ็ดนาน น้ำตาก็เลยไหลน่ะค่ะ”
"งั้นก็ไม่ต้องกินแล้ว ดื่มซุปไก่นี่ดีกว่า”
มนต์ตรียื่นซุปไก่ไปตรงหน้าของจารวี พลางเทลงที่ถ้วยใบเล็กของเธอ
เมื่อสุรีย์วัลย์เห็นมนตรีเอาใจใส่จารวี พลันความหวงในใจของเธอก็ประทุขึ้นมาเล็กน้อย
ในตอนที่เธอเคยอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขา ก็ยังไม่เคยเห็นเขาเอาใจใส่ใครขนาดนี้มาก่อน
แต่ถึงเป็นเช่นนี้สุรีย์วัลย์ก็ยังรักเขาอย่างไม่มีข้อแม้ รักเขาทั้งหมดของหัวใจ
"อืม วีไม่เป็นไรแล้วค่ะพี่มนต์ วีอิ่มแล้ว"จารวีลุกขึ้นยืน เธอไม่อยากทานต่อไปแล้ว
"วี เราออกไปดูโทรทัศน์กันเถอะ!”
อังคณาวางจานกับตะเกียบลง พลางจูงมือของจารวีออกไป
ในห้องอาหารจึงเหลือเพียงแค่มนต์ตรีกับสุรีย์วัลย์
"มนต์"สุรีย์วัลย์จ้องมองมนตรี พลันดวงใจของเธอก็นึกย้อนไปถึงความทรงจำอันลึกซึ้ง ที่สองคนเคยได้อยู่ด้วยกัน พลันความปวดร้าวในหัวใจของเธอก็พรั่งพรูออกมา ทำให้น้ำตาของเธอแทบจะไหล
" ว่าไง"มนตรีทานข้าวอย่างสุภาพเรียบร้อย ดวงตาสีน้ำตาลของเขาจ้องมองไปยังด้านหน้า ไม่รู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่
"มนต์ ฉันรู้ว่าฉันเคยทำผิด ความผิดของฉันมันไม่น่าให้อภัย แต่ฉันก็จมอยู่กับความทุกข์ทรมาณที่ตัวเองเคยก่อไว้มานานมากๆ คุณจะให้อภัยฉันได้ไหม?คุณหนูที่เคยเย่อหยิ่งและชอบวางอำนาจ ยอมศิโรราบ ต่อหน้าคนรักของตัวเอง
มนต์ตรีเงยหน้าขึ้นพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน"วัลย์ คุณรู้ว่าตัวเองผิดแล้วหรอ?”
" ค่ะ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำร้ายจารวีอีกแล้ว ได้โปรดอภัยให้ฉัน พวกเรามาคืนดีกันใหม่ได้ไหม?"สุรีย์วรรณเอ่ยอย่างร้อนใจ
ในตาของมนต์ตรีดำขลับ เขาพยักหน้ารับเบาๆ “โอเค”
ถึงแม้น้ำเสียงของเค้าจะหลุบต่ำ แต่ก็จุดประกายหัวใจที่ตายด้านของสุรีย์วัลย์ให้มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
สุรีย์วัลย์วางตะเกียบในมือลง พรางโผเข้าสู่อ้อมกอดของมนต์ตรี เบ้าตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยน้ำตา สองมือของเธอกอดเขาไว้แน่น เธอได้กลิ่นกายที่คุ้นเคยจากอ้อมกอดของเขา เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น เธอรักเขา รักเขา อย่างสุดหัวใจ
"มนต์ คุณรู้มั้ยว่าฉันรอวันนี้มานานมากๆ ฉันคิดถึงคุณ ทุกๆคืนฉันเอาแต่คิดถึงคุณ คิดถึงช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คิดถึงเสียงที่คุณเคยพูด คิดถึงสายตาของคุณ แต่ว่า ไม่ว่าฉันจะคิดถึงคุณแค่ไหน แต่พอท้องฟ้าสว่าง ฉันก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับความจริงที่ว่าฉันเสียคุณไปแล้ว ฉันรับไม่ไหว ฉันรับไม่ไหวจริงๆ”
หยดน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ ไหลลงมาอาบสองข้างแก้ม เขาใช้นิ้วมือเช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ
" ไม่ต้องร้องแล้ว เราคืนดีกันแล้วไม่ใช่หรือไง?"มนตรีเอ่ยเสียงเรียบ
สุรีย์วัลย์ยิ้มทั้งน้ำตา เธอใช้มือเช็ดน้ำตาออกไป"มนต์ ฉันรู้ว่าจะราวีคือน้องสาวของคุณ ต่อไปนี้ฉันจะรักเขาเหมือนที่คุณรัก คุณเชื่อฉันนะ”
ความเจ็บปวดปรากฏออกมาจากนัยน์ตาของมนต์ตรี เขาเงยหน้าขึ้น พลางเสมองออกไปด้านนอก
" คุณไปทานข้าวต่อเถอะผมยังมีธุระที่ต้องจัดการ”
เขาดันเธอออกเบาเบา พลางหันหลังเดินไปยังห้องครัว
สุรีย์วัลย์ตะลึงงัน คว้ากระเป๋าพลางวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ เธอถูกความสุขมากมายถาโถมเข้าใส่ เธอจึงจำเป็นต้องหาวิธีทำให้จิตใจของตัวเองสงบลง
ในเวลากลางคืน จารวีนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนสำรองเพียงคนเดียว เธอจมอยู่กับความมืด ไม่ได้กดเปิดไฟแต่อย่างใด สายตาจ้องมองไปยังความมืดมิดบนเพดาน ความคิดของเธอกวัดแกว่งไปมา
ยศพลจะยอมปล่อยเธอไปไหม? คนบ้านโพธิสูงจะยอมปล่อยเธอไปหรือเปล่า? แล้วในอนาคตเธอควรจะทำอย่างไรดี?
คำถามมากมายประเดประดังเข้ามาในหัวของเธอจนปวดหนึบไปหมด
เธอลืมตารอให้ฟ้าสว่าง
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าเบาเบาดังเข้ามาจากหน้าประตู จารวีตกใจเป็นอย่างมาก" ใครน่ะ!!”
" พี่เองวี ไม่ต้องตกใจนะ"น้ำเสียงอ่อนโยนของมนต์ตรีดังเล็ดลอดเข้ามา" วียังไม่นอนอีกหรอ?”
" พี่มนต์ ดึกขนาดนี้พี่ยังไม่นอนอีกหรอคะ?"จารวีลุกขึ้นนั่ง พลางกดเปิดไฟหัวเตียง
ภายใต้แสงไฟ เธอมองเห็นมนต์ตรีสวมใส่ชุดเป็นระเบียบเรียบร้อย เขายืนอยู่ที่หน้าประตู พลางมองมาที่เธอ ใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มจางๆ
" อื้ม พี่มาดูว่าวีหลับหรือยัง วีจะถือสาไหม ถ้าพี่จะขอเข้ามาคุยกับวี?”
จารวีคิดไปคิดมา พี่มนต์คงจะไปส่งสุรีย์วัลย์กลับบ้าน ถึงเพิ่งจะกลับมา เธอพยักหน้าช้าๆ
" ได้ค่ะ ยังไงวีก็นอนไม่หลับ”
มนต์ตรีเดินมายังเก้าอีด้านหน้าของจารวี เขานั่งลงพลางมองเธอด้วยรอยยิ้ม
" วี ถ้าพี่คืนดีกับสุรีย์วัลย์ วีจะขับไล่พี่ไปให้พ้นไหม?”
" คืออย่างนี้นะคะพี่มลย์ วีก็ต้องอยากให้พี่มีความสุขอยู่แล้วสิ ไม่ว่าพี่จะใช่หรือไม่ใช่พี่ชายแท้ๆของวี วีก็จะอวยพรพี่”
อวยพรงั้นหรอ? ในใจของมนต์ตรีรู้สึกผิดหวัง ที่สุดแล้วก็ไม่มีความรักเข้ามาปะปนเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่เคยรักเขาเลย สักนิดก็ไม่มี
เมื่อรู้ว่าเธอค้างอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่สามารถทำใจให้สงบลงได้
จารวีรีบลุกพรวดพราดขึ้นสวมเสื้อผ้า พลางดึงประตูให้เปิดออก มนตรียืนอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นเธอเปิดประตูมา เขาก็ตกใจเล็กน้อย พลางก็ถอยหลังไปหนึ่งเก้า" ยังเช้าอยู่เลย ทำไมรีบตื่นล่ะ?”
จารวีเม้มปากเป็นเส้นตรง" ข้างนอกเสียงดังเอะอะโวยวายซะขนาดนั้น ถ้าวียังหลับลง วีก็คงจะเป็นเทพแล้วล่ะค่ะ!”
เธอส่ายหัวไปมายังจนปัญญา หลังจากนั้นจึงเดินลงไปด้านล่าง" ขอโทษนะคะพี่มนต์ที่สร้างความลำบากให้พี่”
หลังจากที่จารวีก้าวออกไปจากประตู อังคณาก็สวมชุดนอนเดินออกมาจากห้องนอนของเธอ
เธอลูบศีรษะไปมาพลางบ่นอย่างไม่พอใจ" คุณยศพลนี่น่ากลัวจริงๆ ร้องคำรามยังกะสิงโต”
จารวีไหวไหล่ พลันเธอก็นึกอะไรขึ้นได้ ทำไมพี่มนต์ถึงอยู่ที่หน้าประตูของเธอล่ะ อย่าบอกนะว่าเขายืนอยู่อย่างนั้นทั้งคืน!
จะราวีหันหน้ากลับไปมองเขาใบหน้าของมนต์ตรีถูกประดับไปด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน เขาสบเข้ากับในตาของเธอพลางเอ่ยออกมา" หิวหรือยัง? ทานข้าวก่อนแล้วค่อยไปสิ!”
อังคณาย่นริมฝีปากพลางเอ่ย" ฉันว่าแกรีบออกไปเดี๋ยวนี้เลยเถอะยัยวี ไม่งั้นเขาคงพังประตูเข้ามาแน่!”
จารวีหันไปยิ้มให้มนตรีอย่างจำใจ" ฉันไปก่อนนะคะพี่มนต์ ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะคะ!”
จารวีมองเห็นยศพลที่กำลังโมโหอยู่ที่หน้าประตู เขาน่าจะไม่ได้นอนทั้งคืน ใบหน้าของเขาค่อนข้างดำคล้ำ จนทำให้คนตกใจ
จารวีเดินเข้าไปหาเขาอย่างช้าๆ คนงานดึงประตูรั้วเหล็กให้เปิดออก
ยศพลยืนอยู่ที่หน้าประตู ไม่ได้เดินเข้ามาแต่อย่างใด ดวงตาของเขามองมาที่จารวีอย่างมืดครึ้ม" ทำไมไม่รีบโผล่หัวออกมา? อาลัยอาวรณ์ที่นักหรือไง? หรือว่าจะอยากจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับมันล่ะ!"
คำพูดเสียดแทงใจที่ถูกพ่นออกมาของเขา ทำให้จารวีรู้สึกลำบากใจ
เธอหันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นมนต์ตรีกับอังคณายืนอยู่ไม่ห่างจากหน้าประตูใหญ่มากนัก เธอคิดว่าถ้อยคำเหล่านี้คงจะดังเข้าสู่ใบหูของเขาทั้งสองเป็นที่เรียบร้อย
จารวีเดินออกมาอีกเพียงไม่กี่ก้าว ก็ก้าวพ้นบ้านของมนต์ตรี เธอยืนอยู่ที่ด้านหน้าของยศพล พลางใช้สายตาไม่พอใจมองไปที่เขา
" คุณใช้คำพูดให้มันดีดีหน่อยได้ไหมยศพล? พี่มนต์คืนดีกับคุณสุรีย์วัลย์แล้ว หรือคุณอยากให้พวกเขาเลิกกันอีก?”
ยศพลส่งสายตาเกลียดชังไปยังมนต์ตรี" ผู้หญิงพรรค์นั้นน่ะหรอ? ไอ้มนต์ตรียังจะไปคืนดีกับเธออีกหรือไง เป็นไปไม่ได้มั้ง!”
" ขอร้องล่ะ คุณสุรีย์วัลย์เธอเกิดในชาติตระกูลที่ดี หน้าตาของเธอก็สะสวย ไม่มีเหตุผลอะไรที่พี่มนต์จะไม่ชอบเธอ”
ยศพลจูงมือของจารวีเดินไปยังตัวรถ
" ถ้าไอ้มนต์มันรักยัยสุรีย์วัลย์นะ ฉันยอมเอาหัวให้เธอเตะเล่นแทนลูกบอลเลย”
ยศพลเอ่ยอย่างดูถูกเหยียดหยาม
" แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าพี่มนต์จะรักคุณสุรีย์วัลย์ไม่ได้ล่ะ" ยศพลเริ่มต้นบังคับพวงมาลัยพลางเอ่ยอย่างเย็นชา" ใช้ความรู้สึกของผู้ชายด้วยกัน ยัยสุรีย์วัลย์วันมีคุณค่าตรงไหน" เขาก็เป็นผู้ชาย เพราะฉะนั้นเขามองตาของมนต์ตรีออก ว่าไอ้ผู้ชายคนนี้จริงๆแล้วกำลังคิดอะไรอยู่
แต่ไม่ว่าสิ่งที่ไอมนต์ตรีคิดคืออะไร ล้วนเป็นความฝันลมๆแล้งๆ ไม่มีใครสามารถแย่งจารวีไปจากเขาได้ทั้งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย