ตอนที่ 157 พบเจอกับชู้
ตระกูลของมนต์ตรีและตระกูลสุรีย์วัลย์ถือเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงต้นๆขเมืองs ฉะนั้นแล้วงานแต่งสุรีย์วัลย์กับมนต์ตรีจัดใหญ่เหมือนกัน
เมื่อเทียบกับงานแต่งครั้งที่แล้วของมนต์ตรีกับจารวี ถือว่างานแต่งครั้งนั้นถ่อมตัวไปไม่น้อย
ยืยตรงหน้าประตูโรงแรม จารวีมองป้ายคำยินดีกับพวกเขารักกันไปนานๆ รูปโป่งหลากหลายสีจัดไว้หน้าประตูอย่างสวยงาม
มองสถานการณ์แบบนี้แล้ว สมองจารวีพลางมีภาพงานแต่งไม่สำเร็จของตัวเองและมนต์ตรีปรากฏขึ้น ในใจพลางมีความเศร้าพุ่งเข้าไป
“เหม่ออะไร?ถ้าตอนนี้เธอไม่อยากเข้าไป ฉันจะพาเธอออกไปทันทีเลย”ยศพลมองเธอไว้แปลกๆ
จารวียิ้มอย่างอ่อนโยน “นายรอฉันข้างนอกเถอะ!”
ยศพลมองนาฬิกาหยกบนข้อมือ “ครึ่งชั่วโมงนะ ห้ามเกินแม้แต่นาทีเดียว ไม่อย่างนั้นฉันพุ่งเข้าไปแน่”
จารวีขำออกมา พลางจี้ไหล่เขา “รู้แล้วหน่า ขี้บ่นจังนะ ฉันเข้าไปแล้ว เดี๋ยวเจอกัน”
ยศพลมือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้าง เขาเงยหน้าขึ้นมองตรงหน้าหน้าต่างชั้นสองอย่างไม่ได้ตั้งใจ เห็นเงาหนึ่งที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วแน่น
จารวีดึงกระโปรงขึ้นแล้วเดินขึ้นบันได จากนั้นค่อยๆเดินไปกลางงานแต่ง
“เอ้ย จารวี บังเอิญจังเลย ไม่คิดจะเจคุณที่นี่!”
นิชาภาปรากฏตัวขึ้นในสายตาจารวี
เธอสวมชุดราตรีสีชมพูกอดอก หุ่นดีเซ็กซี่ ดูโอเคทุกอย่าง ผมเซฟหมวนโดนัทไว้สูงๆ ไม่มีความใสซื่อในปกติสักนิด
ในมือถือกระเป๋าที่มีหวิงๆ ยืนตรงหน้าจารวี
จารวีอึ้ง “เธอตามฉันเหรอ?”
“แปลกจัง ทำไมฉันต้องตาเธอด้วย?ฉันเป็นเพื่อยสนิทเจ้าสาว หรือเป็นเพื่อนสนิทเธอเหมือนกัน?”
จารวียิ้มเบาๆ “แบบนี้นี่เอง ไปก่อนแล้ว”
นิชาภากดเสียงต่ำพูดขึ้นกะทันหัน “เธอคงไม่ใช่จะมาหาเจ้าบ่าวนะ?อี๊ ทำไมยศพลไม่มากับเธอด้วยรึ?”
จารวีตอนนี้ไม่มีความรู้สึกดีอะไรต่อนิชาภาแล้ว “หลีกไปหน่อย!”
นิชาภาถอนหายใจยาวๆ “จารวี ฉันบอกเธอนะ เธอแพ้แน่นอน”
พูดจบพลางยิ้มแปลกๆใส่เธอแล้วค่อยๆจากไป
จารวีต้องเธอไว้ สายตาเปลี่ยนเป็นลึกมาก
“จารวี...”
เสียงคุ้นเคยเสียงหนึ่งดังขึ้นมา จารวีหันหันกลับไป ร่างชยรพปรากฎขึ้นตรงหน้าเธอ
จารวีตกใจ เธอยิ้มเบาๆ “ไม่คิดเลยจริงๆ คุณยังมีหน้ามาร่วมงานแต่งพี่มนต์อีก”
ชยรพไม่คิดว่าจารวีจะเยาะเย้ยตัวเองอย่างๆไม่เหลือหน้าให้
ใบหน้ามีความละอายเกรงพุ่งเข้ามา “ฉันไม่ได้มาร่วมงาน ฉันคือ มาหาเธอ ฉันไปที่บ้านยศพลหลายรอบก็ไม่เจอเ เลยมาลองดูที่นี่ว่าเธออยู่หรือเปล่า”
จารวียิ้มเย็นๆ “แสดงว่าคุณโชคดีจัง!แต่เห็นได้ชัดพอว่าฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
“จารวี เธออย่าทำแบบนี้ได้ไหม เมื่อก่อนพ่อทำผิด พ่อไม่ควรทำแบบนั้นกับเธอ พ่อรู้ผิดแล้ว ให้อภัยพ่อดีไหม?”ชยรพพูดด้วยน้ำเสียงถอยตนนัก
“ชยรพ...”จารวีเปลี่ยนเป็นเสียงแหลม “ชยรพ คุณไม่ใช่พ่อฉัน!”
“จารวี เธออย่าพูดแบบนี้ ถึงแม้เธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ความรักที่ฉันมีต่อเธอไม่เคยปลอม ตั้งแต่เธอคลอดลงมา ฉันก็ใส่ใจเธอแบบนั้น...”ชยรพดูอย่างน่าสงสาร
“พอแล้ว!ชยรพ ฉันไม่มีสายเลือดคุณ คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวน่าสงสารต่อหน้าฉัน ฉันไม่รับคุณ ไม่มีวันแน่นอน...”จารวีเปลี่ยนเสียงจนแหลม เมื่อคำพูดนี้ออกมา เธอเองยังรู้สึกแปลกประหลาด
ชยรพเก็บเสียงขึ้น พลางหันเดินผ่านไปอย่างผิดหวัง
ร่างที่จากไปอย่างไร้ค่านั้น เหมือนเป็นตราปั้ม ที่ปั้มลงในใจลึกๆจารวีไปแล้ว
ตั้งแต่นี้ไป ทั้งชีวิตนี้จะเป็นความทรงจำสุดท้าย
เห็นชยรพยิ่งเดินยิ่งไกล น้ำตาจารวีพลางไหลรินลงมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ทั้งสองมือเธอผสานไว้ ริมฝีปากกัดไว้แน่น กั้นน้ำตาที่อยากไหลออกมา
ทำไม ทำไมในใจถึงได้เกลียดเขามากขนาดนั้น!!!
เพราะการตายของแม่ หรือการขาดความรักจากพ่อตั้งแต่เด็ก?
จนกว่าร่างชยรพค่อยๆหายไปจากประตูโรงแรม จารวียังคงเหม่อลอย
นานพอสมควรจารวีถึงรู้สึกผิดปกติ เพราะรอบๆเริ่มมีเสียงกระซิบนินทาขึ้นมา
เธอดึงสติกลับ รีบเช็คน้ำตา แล้วหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้ตัวเองสงบลง แล้วค่อยๆเดินออกไป
จากการรุมมองของคน เธอเห็นร่างมนต์ตรีในสายตา
มนต์ตรีตกใจบ้าง จารวี เธอมาได้ไงฉันไม่ได้ ทั้งๆที่เขาไม่ได้เชิญเธอ!!
เขาหันมาอย่างตกใจ มองสุรีย์วัลย์ข้างๆ “เธอให้เขามาเหรอ?”
สุรีย์วัลย์ยิ้ม “ใช่ไง ทำไม เธอไม่อยากให้เขามายินดีหรือไง?เขาเป็นน้องสาวเธอนะ?”
ใบหน้าเรียบดูอ่อนโยนมนต์ตรีเริ่มมีความตรึงเครียดขึ้นมา เขาปล่อยแขนออก ออกจากสุรีย์วัลย์ แล้วเดินไปหาจารวีก้าวยาวๆ
จารวีสวนชุดราตรียาวที่น้ำเงิน ทั้งคนเหมือนเป็นดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ให้คนต้องจ้องมอง
เธอยิ้มเกรงๆ เพียงแค่ขยับเล็กน้อย ก็จะอยู่ในสายตาผู้คน
เขารีบดึงสุรีย์ออก “จารวี ถ้าเธอมีธุระก็ไปก่อนได้!”
พิธีต่อมายัฃมีมากมาย เขาไม่อยากให้จารวีอยู่ที่นี้นั้นเกิน เขาไม่ชอบความรู้ยั่นนี้
ให้ผู้หญิงที่ตัวเองชอบดูตัวเองแต่งงานกับหญิงที่ไม่ชอบคนหนึ่ง!
เขารู้สึกเหนื่อยมาก!!
จารวีพยักหน้า “โทษทีนะคุณสุรีย์วัลย์ ฉันยังมีธุระ ไปก่อนแล้ว!”
“เฮ้อ...”สุรีย์ถอนหายใจทีหนึ่ง ยังเตรียมตัวไปรั้งอีก แต่มนต์ตรีจับแขนเธอไว้ แล้วดึงเธอกลับมา
“มนต์ตรี เธอน้าแล้ว เธอจะใช้แรงมากแบบนี้ได้ไง ทำเอาฉันเจ็บแล้ว...”
มนต์ตรีดึงมือสุรีย์วัลย์ด้วยสีหน้านิ่งไม่เปลี่ยน แล้วดึงเธอเข้ามาห้องจากนั้นปิดประตู
“สุรีย์วัลย์ ทำไมเธอต้องเชิญเขามา?”
“ทำไมฉันจะทำไม่ได้?เขาเป็นน้องสาวแท้ๆเธอไม่ใช่?หรือระหว่างพวกเธอยังมีอะไรไม่ดีไม่ร้าย?”
สุรีย์วัลย์โต้แย้งกลับอย่างหยุด
มนต์ตรีจับแขนสุรีย์วัลย์แน่น สายตาน่ากลัวขึ้นมา
นานไปสักพัก เขาถึงค่อยๆปล่อยออก “ฟังไว้นะสุรีย์วัลย์ ถึงแม้เธอจะแต่งงานกับฉันแต่เธอคงเข้าดูว่าฉันไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามายุ่งเรื่องของตัวเอง ไม่อย่างนั้น ผลที่ตามมาเธอรู้ดี”
“มนต์ตรี เธอไม่ชอบฉันเหรอ?”สุรีย์วัลย์รู้สึกหงุดหงิดมาก เธอผิดอะไร?เธอแค่เชิญจารวีมาร่วมงานแต่ง ทำไมเขาต้องโกรธขนาดนั้นด้วย?
มนต์ตรีจ้องเธอไว้แน่น นานไปสมควร เขาหันกลับไปอย่างไร้อารมณ์ ดึงประตูแล้วออกไป
สุรีย์วัลย์อยู่ในห้องคนเดียว นิ่งเฉยไป เหมือนที่ผ่านมา เขาปล่อยเธอไปแบบนั้น แล้วเดินออกไป
และครั้งนี้ อาจจะรุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว บางทีในใจเขาอาจจะไม่มีส่วนของเธอเลย!
จารวีรับเดินออกจากโรงแรม ยืนมองที่หน้าประตู กลับไม่เห็นร่างยศพลแล้ว
ผู้ชายคนนี้วิ่งไปไหนแล้ว!ไหนบอกว่าครึ่งชั่วโมงไง?จารวีเอามือถือออกมาดู ครึ่งชั่วโมงพิดี ไม่ได้พลาดเลย
จารวีมองไปแล้วเดินออกจากประตู เดินไปทางจอดรถ
จากการเดินไป พลางได้ยินเสียงก้าวเดินของผู้หญิงและเสียงตะโกนแหบต่ำของผู่ชายประสานกันไว้ กำลังเข้าไปทางรถRolls Royce สีดำของยศพล
จารวีกัวใจเต้นแรง มีความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้น เธอค่อยยื่นหน้าไปมอง
ภาพตรงหน้าทำให้เธอต้องเปิดโลกเปิดตา
ยศพลกำลังกดนิชาภาไว้ประตูรส เขากดเธอไว้แน่นๆ บางทีเสียงฝีเท้าของ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย