ตอนที่ 183 เด็กก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
แสงอาทิตย์อันอบอุ่นอาบไล้ไปที่ร่างของทั้งสองคน ทั้งสองถูกลำแสงสีทองอาบไล้ทั้งใบหน้า
ภาพนี้งดงามจนทำให้ผู้คนแทบหยุดหายใจ
“พรุ่งนี้พวกเราไปซื้อเสื้อผ้าให้ลูกกัน”
จารวีชักชวน
“ก่อนหน้านี้ก็ซื้อไปตั้งเยอะขนาดนั้นแล้ว เขายังใส่ไม่ทันครบเลย...”
“แฮะแฮะ ก็ใช่ ก่อนหน้านี้ล้วนซื้อเสื้อผ้าของเด็กทารก ฉันยังคิดจะซื้อให้ใหญ่สักหน่อย หนึ่งขวบสองขวบสามขวบ ล้วนต้องซื้อมาทั้งหมด...”
สีหน้าของยศพลมืดครึ้มลง เขาไม่ชอบที่จารวีพูดจาราวกับสั่งเสียอย่างนี้
“ไม่ต้องซื้อแล้ว! นอนเป็นเพื่อนฉันนะ!”
ยศพลโอบกอดจารวีไว้ในอ้อมอกอย่างแนบแน่น จมูกของเขาแตะไปที่จมูกของเธอ ทั้งสองคนใกล้ชิดแนบแน่น ต่างแลกเปลี่ยนลมหายใจอันอบอุ่นให้กันและกัน
“คราวหลังอย่าพูดเช่นนี้อีกนะ ไม่อยากได้ยินแล้ว ฉันไม่มีทางปล่อยให้เธอเป็นอะไรแน่”
ยศพลกล่าวกับเธออย่างขึงขัง จารวีก็ไม่ได้ปฏิเสธเพียงแต่หัวเราะคิกคักเท่านั้น จากนั้นยืดมือไปจับเส้นผมของยศพล
เส้นผมของยศพลเป็นสีดำเงางาม แต่เดิมดกหนามาก
จารวีหรี่ตาลง เธอกำลังคิดถึงเส้นผมของเธอ ก่อนหน้าก็มากเช่นนี้
ทั้งสองคนรักใคร่กันเช่นนี้ นอนทั้งวันก็ไม่รู้สึกเศร้าซึม
ที่จริงถึงจารวีจะไม่พูด ในใจยศพลมีนาฬิกาปลุกเรือนหนึ่ง ที่ไม่เคยหยุดก้าวเดิน
คล้ายกับเสียงของกาลเวลาไหลผ่าน ภายในความคิดของเขาขยายตัวไม่มีสิ้นสุด
เขาอยากจะจับมือของเธอ จับให้แน่นหนา ไม่ต้องปล่อยอีก
ท้องฟ้าสีขาว เวลามีมากล้น ยศพลล้วนสามารถไปเป็นเพื่อนจารวี ไม่ว่าเธอจะต้องการสิ่งใด ไม่ว่าเธอจะอยากไปที่ไหน เขาล้วนสามารถไปเป็นเพื่อนเธอ
ทว่ากาลเวลาที่ผ่านไป อาการเจ็บป่วยของจารวีก็ยิ่งร้ายแรงมากขึ้นไปด้วย
ป่วยไข้มาเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายของเธอค่อยๆ อ่อนแอลงทีละนิด
ค่ำคืนอันเงียบงัน ระลอกคลื่นของความเจ็บปวดผ่านไปแล้ว จารวีนอนวิงเวียนอยู่บนเตียงจนหลับไป
ยศพลกุมมือซ้ายที่เหน็บชาของเธอ ออกแรงเค้นคลึง
เขาหวังว่าจะเค้นคลึงเช่นนี้ ลูบไล้แบบนี้ ไม่อาจปล่อยให้กล้ามเนื้อของเธอตาย
ในความฝัน จารวีรู้สึกไม่สงบนัก ขนหนาหนาสั่นไหวเล็กน้อย ปากพึมพัมเอ่ยออกมาหลายประโยค
ยศพลมองร่างของเธอ จุมพิตริมฝีปากของจารวีแผ่วเบา ตอนท้ายกดจูบอย่างแนบแน่น ยกศีรษะขึ้น จ้องมองอยู่เนิ่นนาน
ต่อให้ต้องมองทั้งวัน เขาก็ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
ผ่านไปเนิ่นนาน ยศพลเดินออกจากห้องไป
ปิดไฟ ปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบา หันหลัง นิรันจับตามองตรงสุดทางเดินแล้ว
“นายน้อย เตรียมการเรียบร้อยแล้วครับ”
“อืม ไปกันเถอะ!”
ในค่ำคืนสลัว เงาร่างมืดดำของยศพลราวกับเสือชีต้าร์ออกล่าเหยื่อ กำจายกลิ่นอายอันตราย
ในเวลานี้ เขาไม่รั้งรอได้อีก เขาต้องการชิงลงมือก่อน
เช้าวันต่อมา จารวีลืมตาขึ้น
ทุกวันนี้ตอนที่เธอลืมตา สามารถขยับร่างกายของตนได้ทั้งหมด จากเท้าจรดศีรษะ ตลอดทั้งนิ้วมือ จนถึงเครื่องหน้าทั้งห้า...
มือซ้ายจากที่ก่อนหน้านี้ไม่ยืดหยุ่น ค่อยๆ กลายเป็นหนึบชาแล้ว กลางฝ่ามือไม่อาจแบออกได้อย่างสิ้นเชิง
เธอใช้มือขวาหยิกมือซ้าย หยิกจนเนื้อหนังแดงบวมแล้ว ถึงเพิ่งรู้สึกเจ็บปวดสักเล็กน้อย...
จารวีเหม่อลอยเล็กน้อย ช่างเธอ พวกคุณในท้ายที่สุดก็ล้วนต้องสูญเสียสติรับรู้
จารวีใช้มือจับหน้าท้อง หกเดือนกว่าแล้ว การเคลื่อนไหวของลูกยิ่งถี่ขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
โดยเฉพาะในตอนเช้าที่เพิ่งตื่นนอน เขาก็จะเตะถีบไม่หยุด
ช่างเป็นเด็กที่ขยันจริงๆ รีบร้อนคิดอยากออกจากท้องของแม่ขนาดนี้เชียวหรือ?
“จารวี เธอตื่นแล้ว!”
น้าอามปรากฎกายขึ้น ยิ้มแย้มเอ่ยถาม
มองเห็นจารวีลืมตาตื่น ก็รีบมาช่วยเธอใส่เสื้อผ้า
“น้าอาม ฉันลุกเองได้ค่ะ...”
แขนของจารวีหนึบชา ไม่สามารถใช้การได้เลย เวลานานแล้ว น้าอามก็มองออกแล้ว
“คุณจารวี มือของคุณ...”
ตอนที่กำลังเปลี่ยนชุดนอน น้าอามช่วยเธอดึงเสื้อผ้าอย่างมีน้ำใจ
จารวียิ้มอย่างซาบซึ้ง “น้าอาม ตอนนี้ฉันได้เรียนรู้จริงๆ แล้ว เป็นแม่คนช่างไม่ง่ายดายเลยจริงๆ”
“ฮะฮะ ใช่แล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรหรอก ทุกคนล้วนผ่านมาได้!”
“คุณจารวี วันนี้มีชมพู่สดๆ เยอะมาก เป็นนายน้อยที่ให้คนซื้อกลับมาจากไต้หวัน สีแดงสด แต่ละลูกก็ใหญ่มากค่ะ!” น้าอามยิ้มกล่าว
“อื้อ แล้วเขาละ?”
“บอกว่าที่บริษัทมีเรื่อง คงจะกำลังยุ่งอยู่ค่ะ ใช่แล้ว! คุณหมอวิซ์เตอร์เช้าวันนี้มาแล้วค่ะ”
จารวีกระทั่งไม่แปรงฟัน วิ่งออกไปทันที
ภายในห้องรับแขกชั้นล่าง วิซ์เตอร์กำลังอ่านหนังสือพิมพ์ มองเห็นจารวี จึงลุกขึ้นยืนอย่างสุภาพ
“คุณจารวี ช่วงนี้ร่างกายของคุณเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
จารวีวิ่งจนหายใจหอบ ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว วิ่งระยะทางสั้นๆ ก็เหนื่อยมากแล้ว
“วิซ์... ช่วงก่อนหน้านี้คุณไปที่ไหนมา?”
“อ้อ ขออภัยครับ ช่วงก่อนหน้านี้ที่บ้านผมมีเรื่องนิดหน่อย กลับไปมารอบหนึ่งครับ”
“โอเค ตอนนี้คุณบอกกับฉันหน่อย ลูกเขาไม่ได้ติดเชื้อใช่ไหม?”
จารวียืนอยู่ในห้องรับแขกอย่างสงสัย หันหลัง เธอมองไปที่นิรัน
“พวกเธอไปต่อสู้ที่ไหนมา?”
นิรันกระพริบตาปริบๆ ส่ายหน้า “ไม่นะครับ พวกเรา ก็แค่... นายน้อยไม่อนุญาตให้พูดครับ”
นิรันพลันรับภาระหนักชิ้นนี้ ผลักไปที่ร่างของยศพล
จารวีมองเขาอย่างเฉียบขาด “นิรัน เธอกลับปิดบังความจริงจากฉันได้ ปกติเธอดูจริงใจมากนะ เธอ... เหอะ!”
นิรันหลบหนีทันใด “ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นครับ”
จารวีนั่งบนโซฟา น้าอามนำชมพู่ที่ล้างจนสะอาดเอี่ยมมาวางไว้บนโต๊ะ
จารวีใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มกิน กินไปพลาง ดูโทรทัศน์ไปพลาง
“ข่าวล่าสุดของสถานีโทรทัศน์ ซีอีโอของซัวกรุ๊ปจำกัด มนต์ตรีแจ้งความว่าพ่อของเขาหายสาบสูญไปอย่างปริศนา จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเบาะแสใดๆ คุณมนต์ตรีให้รางวัลหนึ่งล้านบาทเพื่อรวบรวมข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ของพ่อของเขา ผู้ใดมีเบาะแส กรุณาติดต่อเบอร์โทรศัพท์ *****”
จารวีได้ยืนมาตรงนี้ พลันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหามนต์ตรี
“พี่มนต์ตรี ลุงพัชพงษ์เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?”
“พ่อของพี่หายตัวไป”
“เรื่องเกิดขึ้นตอนไหน? ทำไมฉันไม่รู้เลยสักนิดคะ?”
“สักสามวันแล้วละ ปกติฉันติดต่อกับเขาน้อยมาก...”
ตั้งแต่แผนร้ายถูกเปิดโปงในงานแต่งงานของจารวีและมนต์ตรี ความสัมพันธ์ระหว่างมนต์ตรีและพ่อก็อยู่ในภาวะว่างเปล่า
“เช่นนั้นเขาหนีออกจากบ้านหรือเปล่าคะ?” จารวีเอ่ยถามอย่างกังวลยิ่งนัก
“จารวี เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้หรอก พี่มีวิธีค้นหาเขา”
“พี่มนต์ตรี ถ้าพี่ต้องการให้ฉันช่วยอะไร...”
“ฮ่าฮ่า เด็กโง่ เธอคลอดลูกให้ดี พี่ทางนี้ก็มีข่าวดีแล้ว ไว้จะบอกเธอนะ”
ขณะจารวีสนทนากับมนต์ตรีทางโทรศัพท์ ยศพลที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
ร่างส่วนบนแข็งแกร่งประพรมไปด้วยหยดน้ำ ผมสั้นเปียกชื้น ดูเร่าร้อนเย้ายวนยิ่ง ผ้าเช็ดตัวขาวสะอาดผืนหนึ่งพันอยู่รอบเอว ปกปิดกลิ่นอายความเป็นชายอันเปี่ยมเสน่ห์
“กำลังคุยโทรศัพท์กับใครอยู่หรอ?”
จารวีก็ไม่ได้ปิดบัง “เพิ่งเห็นข่าว บอกว่าลุงพัชพงษ์หายตัวไป ฉันโทรไปถามไถ่กับพี่มนต์ตรีนิดหน่อยค่ะ”
ยศพลใบหน้าอึมครึมและเย็นชา นั่งลงข้างกายจารวี “ยังจะลุงพัชพงษ์อีก? คนสารเลวคนนั้นยังทำร้ายบ้านบูลสวัสดิ์ของพวกเธอน้อยไปหรือไง?”
จารวีเงียบไป “ความจริงนั่นเป็นเรื่องของคนรุ่นก่อน ฉันเพียงแค่เป็นห่วงพี่มนต์ตรี นายโกรธหรอ?”
“อื้อ!” ยศพลฮึ่มเสียงต่ำ แล้วสายตาก็มองไปที่อื่น
“เฮ้ นายอย่าขี้น้อยใจแบบนี้สิ ฉันแค่โทรศัพท์ทีเดียวเอง!”
ยศพลหรี่ตามองจารวี “ไม่ได้ ทีหลังไม่อนุญาตให้เธอโทรศัพท์หาเขาแล้ว ฉันหึง”
“อุ๊บ!” จารวีหัวเราะ เธอคลานบนโซฟาไปหาอ้อมอกของยศพล ชิงมอบหนึ่งจูบ
“โอเค อย่าโกรธเลยนะ ต่อไปฉันไม่โทรแล้วดีไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย