เล่ห์รักเมียตัวน้อย นิยาย บท 78

ตอนที่77 ไปสัมภาษณ์งานที่บริษัท

ยศพลอุ้มร่างเล็กของจารวีกลับไปยังคฤหาสน์ของเขา ทั้งร่างของเธออ่อนปวกเปียก สองขาไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรงจะก้าวเดิน อีกทั้งเสื้อผ้าบนตัวเธอยังถูกยศพลฉีกออกจนไม่เหลือชิ้นดี ดังนั้น ยศพลก็เลยต้องนำเสื้อสูทของตัวเองมาห่อหุ้มร่างบางไว้ พร้อมกับอุ้มเธอกลับเข้าไปในบ้าน

คนรับใช้ที่เดินผ่านมาเห็น ต่างก็พากันยิ้มขวยเขินก่อนจะวิ่งจากไป

จารวีอับอายขายหน้าจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี

การที่อยู่กับยศพล เธอต้องเรียนรู้ที่จะเป็นคนหน้าด้านหน้าทน

แต่ทว่า ไม่ว่าอย่างไรจารวีก็ยังคงทำไม่ได้อยู่ดี...

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ยศพลอุ้มจารวีไปวางลงบนเตียง พลางห่มผ้าให้เธอ

“พักผ่อนให้เต็มที่ล่ะ เธออยู่ที่นี่แค่ครึ่งเดือน เพราะฉะนั้นก็ทำตัวอยู่ให้ในกรอบ แล้วก็เชื่อฟังฉันหน่อย”

นัยน์ตาดำขลับของยศพลจ้องมองมายังจารวี พลางเอ่ยอย่างเย็นชา

จารวีไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เธอเพียงแค่กระชับผ้าห่มให้แน่นขึ้น รู้สึกว่าตัวเองก็เหนื่อยมากแล้วจริงๆ เพราะตอนที่อยู่บนรถ ยศพลแทะโลมเธอถึงสามชั่วโมงกว่า

จนเธอแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว แต่เขากลับดูไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

ผู้ชายคนนี้นี่แท้จริงแล้วสภาพร่างกายเขาเป็นยังไงกันแน่นะ พละกำลังอึดถึกจนเกินคน...

จารวีนอนคิดได้เพียงครู่เดียวก็รู้สึกง่วง เมื่อหัวสัมผัสหมอนเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราในทันที

ไม่รู้เมื่อไรที่จารรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ คิดไม่ถึงว่าจะเห็นยศพลคร่อมอยู่บนตัวเธออีกครา

การเผชิญหน้ากันอย่างฉับพลันโดยที่ร่างกายของเธอยังคงเปลือยเปล่า ทำให้จารวีรู้สึกกระดากอาย

เธอหยิบผ้าห่มมาคลุมสรีระที่อรชรอ้อนแอ้นของตนอย่างเร่งรีบ

ยศพลมองเธอพลางฉีกยิ้มอย่างเย้ยหยัน “ยังจะปิดอะไรอีก ทั้งตัวเธอมีตรงไหนที่ฉันยังไม่เห็นหรือไง”

“นี่! คุณไม่ถือโอกาสทำเรื่องลามกแบบนี้ตอนฉันหลับไม่ได้หรือยังไง” เธอเอ่ยด้วยความเขินอาย ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงระเรื่อ

ยศพลมองเธออย่างขำขันอยู่ในที เห็นอยู่ชัดๆว่าเธอเป็นคนร้องละเมอด้วยน้ำเสียงแปลกๆก่อน เขาก็เลยรีบวิ่งจากห้องหนังสือออกมาดู นึกว่าเธอกำลังส่งสัญญาณอะไรให้ช่วย

ไม่คิดว่าพอเขาก้มลงคร่อมเธอเพื่อจะฟังให้ชัดๆ เธอกลับลืมตาตื่นขึ้นมาซะนี่

ทั้งยังกล่าวหาว่าเขาจะถือโอกาสลักหลับเธออีก ยัยผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปรักศักดิ์ศรีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ยศพลยกมือขึ้นลูบคลำพวงแก้มของเธอ พลางเอ่ยเสียงต่ำ “แล้วที่เธอไปอยู่กับไอ้ดนวัตบนเรือนั่นตั้งหลายวัน เธอไม่คิดว่ามันจะพิศวาสในตัวเธอสักหน่อยหรอ”

จารวีรูปร่างหน้าตาอ่อนหวานงดงาม ไม่ว่าผู้ชายคนไหนที่ได้เจอเธอก็สามารถเก็บไปเพ้อฝันได้

เหมือนกับตอนที่ยศพลไปบ้านพูลสวัสดิ์เพียงครั้งแรก เขาก็ลุ่มหลงในตัวของหญิงสาวคนนี้ซะแล้ว

ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาก็คงหาเหตุผลที่จะทำให้เธอมาอยู่กับเขาไม่ได้

ยศพลคิดมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกพอใจในการตัดสินใจของตนในคราวนั้น ไม่เช่นนั้น ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้คงไม่มีทางตกเป็นของเขา

จารวีจ้องมองเขา พลางยกสองมือเล็กขึ้นปัดป้อง ต่อต้านการกระทำนั้น

“ยศพล คุณอย่าเอาความคิดสกปรกๆของตัวเองมาตัดสินคนอื่นนะ”

ยศพลหยุดการกระทำลง เขาจ้องมองจารวีอย่างไม่พอใจ

“ฉันสกปรกงั้นหรอ! งั้นไอ้ดนวัตมันไม่สกปรกหรือไง! มันฆ่าคนตั้งยี่สิบกว่าคน เป็นผู้ร้ายข้ามชาติที่ทำความผิดร้ายแรง ที่เธอปกป้องมันขนาดนี้ เพราะหลงรักมันแล้วล่ะสิ”

จารวีเงื้อมือขึ้นมา ด้วยหวังจะตบเข้าไปที่ใบหน้าของเขา

แต่ยศพลเร็วกว่า เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ พลางเอ่ยอย่างเหยียดหยาม “ฉันพูดถูกล่ะสิ”

“ยศพล ไอ้เลว! ตอนนั้นดนวัตเขาบาดเจ็บจนแทบจะตาย เขาไม่เหลือเรี่ยวแรงอะไรแล้ว แต่ก็ยังมีแก่ใจจะช่วยฉัน”

“ว่าไงนะ บาดเจ็บงั้นหรอ”

“ก็ใช่น่ะสิ ข้อมือของเขาโดนระเบิดจนแทบจะขาดออกจากกัน ส่วนหลังก็มีแต่รอยมีด ทั้งตัวของเขามีแต่บาดแผล เขาสลบไป...” “แล้วเธอช่วยมันงั้นหรอ” ยศพลโพล่งขึ้นมา

“ใช่ ฉันเป็นคนช่วยเขา แล้วมันยังไงล่ะ!!”

“เธอรู้ไหมว่าการมีน้ำใจที่เอ่อล้นของเธอมันจะไปทำร้ายใครอีกบ้าง มันเป็นนักโทษที่นานาชาติประกาศจับเลยนะ ไม่คิดเลยว่าเธอ...”

จารวีใจลอยสักพัก “ฉันจะไปรู้ได้ไง ฉันไม่รู้จักเขา ฉันเห็นเพียงแค่ว่าเขากำลังจะตายก็เลยอยากช่วย มันก็แค่นี้เอง! ชวิตฉันเขาก็เป็นคนช่วย ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะทำเรื่องไม่ดีอะไรมา เขาช่วยฉันฉันก็ต้องตอบแทนสิ!”

ยศพลโกรธจนหน้าแดงก่ำ เขาบีบแก้มพลางยอกย้อนเธอ “แล้วฉันล่ะ! ฉันช่วยเธอไว้ตั้งหลายครั้ง ทำไมไม่คิดจะตอบแทนฉันบ้าง!!”

ใช่แล้ว เขาช่วยเธอไว้ตั้งหลายครั้ง แต่เธอไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยถึงเรื่องทดแทนบุญคุณพรรค์นั้น

ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ เธอทำดีกับทุกคนยกเว้นเขา

ยศพลคิดมาถึงตรงนี้ก็บันดาลโทสะ เขาจับขาเรียวเล็กของจารวีแยกออกจากกัน พลางบดเบียดแท่งกำยำของตัวเองเข้าใส่กลีบดอกไม้นุ่มหยุ่นของเธออย่างรุนแรง

จารวีเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เธอขมวดคิ้วพลางตะโกนออกมา “เจ็บ!!”

ในใจของยศพลเต็มไปด้วยโทสะ จึงทำการกระทำที่ป่าเถื่อนใส่เธอ จารวีหดตัวเข้าหากัน น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย

ครึ่งเดือน..เวลาเพียงครึ่งเดือน แต่เธอกลับรู้สึกว่าแต่ละนาทีที่แสนทรมานนี้ ผ่านไปช้าราวกับศตวรรษ

เมื่อยศพลเห็นว่าน้ำตาเธอไหลออกมา เขาก็หยุดชะงักการกระทำลง

เขาถอยออกไปจากตัวเธอ พลางก้าวลงจากเตียงแล้วเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที

จารวีเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง นี่เขายอมปล่อยเธองั้นหรอ..

น้ำที่เย็นเฉียบไหลไปตามร่างกายกำยำของยศพล ทำให้ไฟแห่งความปรารถนาของเขาดับมอด

เขาไม่ชอบเห็นสภาพที่น่าเวทนาแบบนั้นของเธอ เธอทุกข์ทรมานขนาดนั้นเลยหรอ เธอไม่ชอบที่จะได้รับความรักจากเขาขนาดนั้นเลยหรือไง..

ยัยผู้หยิงบ้าคนนี้ ต้องให้เขาทำยังไงหรอ เธอถึงจะรักเขา..

ยศพลพันผ้าเช็ดตัวพลางก้าวออกมาจากห้องน้ำ ผมของเขายุ่งเหยิง นัยน์ตายังคงมีประกายความเย็นชา ดูเหมือนยังคงโกรธอยู่

จารวีรู้ว่าเธอยั่วโมโหเขาอีกแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากทำเรื่องพรรค์นั้นกับเขาจริงๆ

เธอรีบลงจากเตียง เดินไปใส่เสื้อผ้าให้เรีบยร้อย แล้วพูดปดแก่เขา

“ฉันรู้สึกไม่สบาย ถ้างั้นคืนนี้ค่อย...”

เธอลังเลอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจเดินเข้าไปยังห้องโถงโอ่อ่าหรูหราของบริษัท เธอยิ้มน้อยๆพลางเดินไปยังเคาท์เตอร์

ที่หน้าเคาท์เตอร์มีพนักนักงานต้อนรับหญิงสาวที่สวยมากๆคนหนึ่ง รูปร่างของเธอผอมเพรียว รอยยิ้มงดงามดูโอบอ้อมอารี เธอกำลังพูดคุยอยู่กับคนต่างชาติ

อย่างที่ยศพลพูดไว้ไม่ผิดเลย จารวีนั้นเทียบอะไรกับคนในบริษัทSTกรุ๊ปไม่ได้เลยสักนิด แม้แต่พนักงานต้อนรับที่เคาท์เตอร์ก็ยังดูโดดเด่นกว่าเธอเสียอีก

จารวีรอพนักงานสาวสวยเจรจากับลูกค้าให้เสร็จอย่างเงียบเชียบ ความมั่นใจของเธอค่อยๆมลายหายไปจนเหลือแต่ฝุ่นผง

“คุณผู้หญิงคะ มีอะไรให้ดิฉันช่วยไหมคะ” พนักงานต้อนรับสาวสวยเดินเข้ามาหาพลางยิ้มให้

จารวีลุกขึ้นยืนอย่างรีบร้อน“เอ่อ ฉันมาหาคุณทัศนีย์น่ะค่ะ ไม่ทราบว่าเธออยู่ไหมคะ”

“อ่อ คุณต้องการเข้าพบคุณผู้ช่วยทัศนีย์ใช่ไหมคะ เดี๋ยวดิฉันสอบถามให้นะคะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ”

“ฉันชื่อจารวีค่ะ!”

“โอเคค่ะ รอสักครู่นะคะ”

หลังจากพนักงานต้อนรับสาวสวยกดโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว ก็หันกลับมาหาพลางเอ่ยกับจารวีด้วยรอยยิ้ม “คุณผู้ช่วยทัศนีย์กำลังประชุมอยู่ค่ะ คุณต้องรอประมาณสามสิบนาทีถึงจะเข้าพบเธอได้ค่ะ”

“อ่อ โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ”

“กรุณารอที่ห้องรับรองทางด้านโน้นสักครู่นะคะ”

พนักงานต้อนรับสาวนำจารวีไปยังห้องรับแขกอย่างสุภาพ

จารวีผ่อนลมหายใจยาวๆออกมา เธอรู้สึกเป็นกังวัลยิ่งนัก ตำแหน่งของคุณทัศนีย์คือผู้ช่วย คงจะเป็นผู้ช่วยผู้บริหารเป็นแน่

จารวีเคยเจอคุณทัศนีย์หลายครั้ง เธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาด มากล้นไปด้วยความสามารถ การที่เธอสามารถทำงานอยู่ข้างกายยศพลได้นั้น ความสามารถของเธอคงจะไม่ธรรมดา

ไหนยังจะต้องรับนิสัยเฉพาะตัวที่ขี้โมโหร้ายของยศพลให้ได้อีก คงจะไม่ง่ายเลยจริงๆ

จารวีนั่งรอที่ห้องรับแขกถึงครึ่งชั่วโมง แต่ยังไม่มีวี่แววที่ทัศนีย์จะออกมาพบเธอ พนักงานต้อนรับสาวสวยคนนั้นก็กำลังรับแขกอย่างต่อเนื่อง เธอไม่กล้าที่จะเข้าไปรบกวน สุดท้ายก็เลยต้องนั่งรอต่อไป

เธอกัดฟันอดทนรออีกครึ่งชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เงาของทัศนีย์

จารวีตัดสินใจลุกขึ้นยืน เตรียมตัวเดินไปถามพนักงานสาวสวยคนนั้น

เมื่อเธอเดินออกมาถึงห้องโถงใหญ่ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนจำนวนหนึ่งดังมาจากที่ไกลๆ

จารวีหมุนตัวกลับไปมอง

ก็พบเงาดำของกลุ่มคนจำนวนมาก กำลังเดินออกมาจากลิฟท์ทางด้านซ้าย คนกลุ่มนั้นเดินล้อมรอบหนึ่งร่างสูงใหญ่ที่สง่าผ่าเผย พลางเดินตรงมาทางที่เธอยืน

เขาคนนั้นก็คือยศพล.. ชุทสูทเนียบสีดำสนิท เผยให้เห็นความดื้อรั้นหัวแข็งของผู้สวมใส่อย่างชัดเจน ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ดวงตาสีดำสนิททอประกาย สองมือล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขากวาดสายตามายังจารวีเพียงแวบเดียว แล้วจึงเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คุณตีรณพยายามพูดอะไรบางอย่างอยู่ข้างๆเขาไม่หยุด ยศพลหมุนตัวกลับมาอย่างฉับพลัน เขายื่นมือไปหยิบเอกสารในมือผู้จัดการส่วนตัวฟาดไปตรงหน้าของตีรณ พลางเอ่ยเสียงต่ำ “ฟังฉันให้ดีนะ ถ้าแผนกออกแบบยังหาทางออกไม่ได้ล่ะก็ ตำแหน่งผู้ตรวจการของนายก็ไม่ต้องทำมันแล้ว!”

เอกสารร่วงลงที่ปลายเท้าของจารวี ห้องโถงทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ

หัวใจของจารวีเต้นโครมคราม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย