ตอนที่84 ผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด
เมื่อจารวีเข้ามาในสำนักงาน จึงรีบเข้าไปนั่งประจำที่อย่างรีบร้อน ยังไม่ทันได้นั่งลงดี ร่างของญภาก็ปรากฏแก่สายตาของเธอ
“คุณญภาสวัสดีค่ะ!”
ญภาไม่มองหน้าเธอแม้แต่น้อย “รีบไปหาผู้ช่วยทัศนีย์ เธอมีธุระจะคุยด้วย”
“อ่อ โอเคค่ะ!” พลันจารวีก็รู้สึกกังวลใจ
เธอไม่กลับบ้านถึงสองวันสองคืน ไม่รู้ว่าน้าอามจะเป็นห่วงขนาดไหน หรือว่ายศพลจะรู้เรื่องแล้วกันนะ!
จารวีเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของทัศนีย์ ทัศนีย์กำลังคุยโทรศัพท์ เมื่อเธอเห็นจารวีก็รีบร้อนทำมือเป็นเชิงบอกให้จารวีรอสักครู่
ทัศนีย์ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับปลายสาย จารวีฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง เธอจับใจความได้เพียงไม่กี่คำ “เพิกถอนใบสั่งจอง” “ปัญหาคุณภาพสินค้า” “ความเสี่ยง” สีหน้าท่าทางของทัศนีย์ค่อนข้างตึงเครียด เธอพยายามอธิบายกับลูกค้าอย่างสุดความสามารถ จารวียืนอยู่ที่ด้านนอก ทันใดนั้นทัศนีย์ก็หยิบโทรศัพท์อีกเครื่องบนโต๊ะมาส่งให้จารวี แล้วก็กลับไปคุยโทรศัพท์ต่อ
จารวีรับโทรศัพท์มา เธอเพิ่งสังเกตเห็นว่านี่คือโทรศัพท์ของตัวเอง ที่วันนั้นลืมเอากลับไปด้วย
เธอรีบกดเปิดเครื่อง พลันโทรศัพท์ก็สั่นอย่างรุนแรง
เสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย
ดวงใจของจารวีสั่นระริก เธอรีบกดเปิดข้อความขึ้นอ่าน มีข้อความสิบกว่าอันจนกล่องข้อความเธอแทบจะเต็ม
“จารวี เธอไปตายที่ไหน!”
“จารวี เธอไม่รับโทรศัพท์ฉันงั้นหรอ!!”
“จารวี เธอกล้าปิดเครื่องใส่ฉัน เธอรู้ไว้ซะ คราวนี้เธอตายแน่ รอฉันกลับไป ฉันจัดการเธอแน่!!”
..........
จารวีตะลึงงันสักพัก เธอรีบกดโทรศัพท์ต่อสายหาน้าอาม
“น้าอาม จารวีนะคะ ยศพลได้โทรไปหาน้าอามหรือเปล่าคะ!”
“ตายจริงคุณจารวี!คุณหายไปไหนมาคะ ตายแล้ว!เมื่อคืนคุณชายโทรหาคุณจารวีหลายรอบมาก ฉันอยากจะช่วยคุณวีเก็บเป็นความลับแต่ก็เก็บไม่อยู่แล้วค่ะ!คุณจารวีระวังตัวหน่อยนะคะ”
เธอยังคุยโทรศัพท์กับน้าอามไม่ทันเสร็จ ทัศนีย์ติดต่อกับลูกค้าเสร็จเรียบร้อยพลางก้าวออกมาเรียกจารวีที่หน้าประตู “คุณจารวี โทรศัพท์จากท่านประธานค่ะ!”
จารวีกดวางสายของน้าอาม พลางรีบวิ่งไปหาทัศนีย์
จารวีกระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก แววตาของทัศนีย์บ่งบอกถึงความห่วงใย เธอยื่นโทรศัพท์มาให้จารวีพลางเอ่ย “ระวังหน่อยนะคะ ท่านประธานอารมณ์ไม่ค่อยดี”
จารวียิ้มให้เธออย่างซาบซึ้งใจ พลางพยักหน้า “ยะ....”
“จารวี!เธอไปตายที่ไหนมา!!” น้ำเสียงยศพลปะทุออกมาราวกับเสียงฟ้าผ่า ดังก้องกังวานอยู่ในหูของจารวี
จารวีลูบคลำใบหูอย่างทรมาน “ฉะ...ฉันไปบ้านเก่าของคุณลุงมาน่ะ”
“เธออยากตายหรือไง!ครั้งที่แล้วยังไม่เข็ดใช่ไหม ยังไปรนหาที่ตายอีก!!”
ยศพลโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาเพิ่งจะออกจากบ้านมาไม่กี่วัน เธอก็บ้านช่องไม่กลับข้ามวันข้ามคืนซะแล้ว ทำให้เขาเป็นห่วงจนแทบจะบ้าตาย
ถ้าไม่ใช่เพราะนิรันไปกับเขา เขาจะให้นิรันคอยตามไปเฝ้าเธอไม่ให้ห่างเลย
กลางคืนจะไม่กลับก็ไม่บอกสักคำ โทรศัพท์ก็ไม่พกไปอีก ยัยผู้หญิงคนนี้นี่ไม่มีสมองหรือไง ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น!ไม่รู้หรือไงว่ามีคนเขาเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน!
จารวีกุมโทรศัพท์ เธอฟังยศพลกร่นด่าเธออยู่นานถึงครึ่งชั่วโมงโดยไม่เอ่ยอะไรออกมา
“ทำไมไม่พูด!” เมื่อยศพลระบายความโมโหเสร็จ น้ำเสียงของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย
“อื้ม ฉันผิดไปแล้ว!”
“เหอะ รู้ว่าตัวเองผิดก็ดี เธอรีบพกโทรศัพท์ติดตัวไว้เลยนะ แล้วอย่าไปเถลไถลที่ไหนอีก เดี๋ยวคืนนี้ฉันกลับไป!”
“ไม่ใช่ว่าอีกสองสามวันคุณถึงจะกลับมาหรอ”
“จารวี เธออยากโดนดีใช่ไหม!เธอภาวนาให้ฉันไม่ต้องกลับไปอยู่ล่ะสิ!” ยศพลกำลังอารมณ์เสีย น้ำเสียงของเขาประชดประชัน
“เปล่าซะหน่อย งั้นคุณก็กลับมาเถอะ!”
ในที่สุดยศพลก็ยอมกดวางสาย พลันจารวีก็รู้สึกราวกับตัวเองรอดตายจากภัยพิบัติ
เธอส่งโทรศัพท์คืนให้กับทัศนีย์ ทัศนีย์จ้องมองเธอด้วยสีหน้าที่บูดบึ้งอย่างนั้นเนิ่นนาน
จารวีค่อยๆก้าวเท้าเดินออกไปนอกห้อง พลันเสียงทัศนีย์พูดคุยโทรศัพท์กับยศพลก็ดังมาจากด้านหลัง
“ท่านประธานคะ ลูกค้าออสเตรเลียกลุ่มนั้นเกิดเปลี่ยนใจกะทันหันค่ะ พวกเขาต้องการที่จะยกเลิกใบสั่งซื้อสินค้า แล้วจะให้ทางเราคืนเงินมัดจำไป แต่เงินเหล่านั้นดิฉันเอาไปลงทุนในการกว้านซื้อบริษัทซัวกรุ๊ปจำกัดหมดแล้ว เราควรทำอย่างไรดีคะ!”
จารวีตะลึงงัน เธอรีบลดจังหวะการก้าวเดินให้ช้าลง
“อะไรนะคะ!ไม่ได้นะคะท่านประธาน ทำไมจะต้องใช้วิธีนี้ไปโจมตีบริษัทซัวกรุ๊ปให้พังพินาศด้วยล่ะคะ ตอนนี้หุ้นของบริษัทซัวกรุ๊ปก็ตกฮวบฮาบ ถ้าขืนเรายังยื้อต่อไป มันก็จะกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถชดเชยส่วนที่ขาดได้นะคะ.... ค่ะ โอเคค่ะ!” จารวีฟังถึงตรงนี้ก็รีบจ้ำอ้าวเดินจากไป
แต่ทว่า เธอกลับไม่รู้สึกดีใจ
ถึงแม้พี่มนต์จะชนะ แต่ยศพลจะปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ
ในเวลาพักกลางวัน โรงอาหารของบริษัทเผยแพร่ข่าวใหม่ที่น่าปีติยินดี ซึ่งก็คือราคาหุ้นของบริษัทซัวกรุ๊ปจำกัดฟื้นตัว อีกทั้งบิดาของประธานมนต์ตรีก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ในจอโทรทัศน์ สุรีย์วัลย์เกาะแขนมนต์ตรีอย่างสนิทสนม แสดงความรักใคร่กันอย่างเป็นธรรมชาติต่อหน้าสื่อมวลชน
“เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีผู้ไม่หวังดี มาทำการเก็งกำไรให้ราคาหุ้นตกลงในครั้งนี้ ท่านประธานมนต์ตรีมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ”
“สำหรับเรื่องนี้ที่ทำให้ทุกคนต้องเป็นกังวล กระผมต้องขออภัยด้วยนะครับ ไม่ว่าจะยังไง ขอให้ทุกท่านเชื่อใจในบริษัทซัวกรุ๊ปจำกัดต่อไป ทางเราจะใช้ความซื่อสัตย์และมีสัจจะมาปฏิบัติต่อลูกค้าทุกท่าน”
“คุณสุรีย์วัลย์มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้คะ” นักข่าวสัมภาษณ์สุรีย์วัลย์
สุรีย์วัลย์ฉีกยิ้มสว่างไสวอย่างเป็นสุข “ฉันเชื่อว่าคู่หมั้นของฉันจะสามารถกอบกู้สถานการณ์ที่เลวร้ายนี้กลับคืนมาได้ค่ะ ฉันจะคอยเคียงข้างและสนับสนุนเขาตลอดไป” พลันดวงใจของจารวีก็รู้สึกปลื้มปีติยินดีไปกับพวกเขา
ถูกต้องแล้ว คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือสุรีย์วัลย์ ไม่ใช่คนที่ไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเช่นเธอ...
กว่ายศพลจะกลับมาก็เป็นเวลาหลังเที่ยงคืนแล้ว
จารวีงุนงงไปประมาณหนึ่งนาที จึงรีบก้าวลงจากเตียงแล้วยืนขึ้น พลางเอื้อมมือไปผูกเนคไทให้เขา ระยะของดวงตาทั้งสองคู่ห่างเพียงไม่ถึงคืบ
เมื่อดวงตาคู่สวยสบเข้ากับนัยน์ตาคมเข้มของเขา เขาสังเกตเห็นความรู้สึกที่ผิดปรกติ อีกทั้งยังมองเธอออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
ราวกับว่าเขามีเวทมนตร์อ่านใจคน สามารถมองเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจของเธอได้
จารวีหลุบตาลง ไม่กล้ามองตาเขาตรงๆ
จารวีผูกเนคไทให้เขาอย่างชำนาญ เธอยิ้มบางๆ “เสร็จแล้วค่ะ”
ทันใดนั้นยศพลก็วาดวงแขนกำยำดึงเธอเข้าไปสู่อ้อมกอดของเขา เขากอดเธอแน่น เป็นอ้อมกอดที่บริสุทธิ์ ไม่มีตัณหาใดเจือปน
จารวีตะลึงงัน หลังจากกลับจากไปดูงานที่ต่างประเทศ เขาก็แทบจะเปลี่ยนกลายเป็นคนละคน
“จารวี ฉันจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด!”
หลังจากยศพลเอ่ยประโยคนี้จบ เขาก็เดินก้าวยาวๆออกไป
จารวียืนอยู่ที่เดิมอย่างงุนงง ‘จารวี ฉันจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด’ ประโยคนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหู พลันดวงใจของเธอก็หลอมละลายลงอย่างช้าๆ...
เมื่อถึงเวลากลางวัน นิรันก็พาช่างแต่งหน้าสองสามคนเข้ามา ทั้งยังมีชุดเดรสที่ยศพลซื้อมาจากยุโรปอีกสองสามชุด
“คุณจารวีคะ พวกเราคือช่างแต่งหน้าที่จะมาแต่งตัวให้คุณวันนี้ค่ะ”
ก่อนหน้านี้จารวีได้ยินยศพลพูดว่าต้องไปงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง เธอเดาว่าน่าจะเป็นงานเลี้ยงของบุคคลในแวดวงไฮโซของเขา ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยออกงานอะไรแบบนี้ เธอเอ่ยถามนิรัน “ฉันไม่ไปได้ไหมคะ”
“คุณชายกำชับว่าต้องไปครับ”
นิรันเอ่ยด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเห็นคุณชายปฏิบัติต่อผู้หญิงคนไหนดีเช่นเธอ
คุณชายละทิ้งสำนักงานใหญ่ที่ยุโรปกลับมาก็เพื่อเธอ ทั้งยังขอร้องคุณท่านว่าจะอุปถัมป์เธอ เมื่อคืนหลังจากเสร็จงานก็ดึงดันจะกลับมาทันที นิรันได้แต่หวังว่าพวกเขาจะมีความสุขด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ช่างแต่งตัวกลุ่มนั้นหยิบชุดเดรสที่งดงามอลังการมาสวมใส่ให้จารวี ตรงหน้าอกของชุดฝังเปี่ยมไปด้วยเพชรหลายกะรัตที่เปล่งประกายแวววาวสะดุดตา
ผมยาวสลวยของเธอถูกเกล้าขึ้นเป็นมวยใหญ่ที่ดูหรูหรางดงาม ใบหูของเธอประดับไปด้วยต่างหูคริสตัล ถึงแม้ไม่แต่งหน้า แต่เธอก็งดงามจนผู้พบเห็นต้องตกตะลึง
ในตอนที่ช่างแต่งตัวเตรียมที่จะแต่งหน้าให้เธอ ร่างสูงโปร่งของยศพลก็ก้าวเข้ามาจากหน้าประตู
“ไม่ต้องแต่งหน้า แค่นี้ก็พอแล้ว!”
ยศพลบอกห้ามช่างแต่งหน้าเอาไว้ ผู้หญิงของเขาไม่จำเป็นต้องแต่งหน้า หน้าสดแบบนี้ก็ทำให้คนมองประทับใจได้แล้ว
ผิวขาวผุดผ่อง ที่สวยแบบธรรมชาติ แต่งเติมเครื่องสำอางเข้าไปคงจะกลายเป็นไร้รสนิยมมากกว่าเดิมสะอีก
ผู้หญิงที่ใสบริสุทธิ์ตรงหน้า พอสวมใส่ชุดราตรีเข้าไปแล้ว มันทำให้เธอยิ่งดูสง่างามราวกับดอกไม้ผลิบาน
เขาหักห้ามใจตัวเองไม่ไหว จนต้องก้มหน้าลงไปลิ้มลองริมฝีปากที่หอมหวานของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย