เล่ห์รักพันธนาการหัวใจ นิยาย บท 3

นางเหมือนดอกชบาที่เพิ่งบานสะพรั่งใหม่ ๆ ดอกหนึ่ง อีกทั้งยังมีเสน่ห์สวยงามต้องใจโดยไม่ต้องแต่งแต้มใด ๆ มีหยดน้ำหยดไหลผ่านหน้าผากของนาง ต่อมาก็ลงมาที่ดวงตาคู่งามของนาง และไหลลงมาที่จมูกเป็นสันได้รูปของนาง สุดท้ายก็หยดผ่านริมฝีปากที่เหมือนดอกท้อนั่นของนาง ช่างสวยงามไร้ที่ติ ทุกส่วน ไม่มีส่วนไหนในร่างกายที่ไม่เย้ายวนใจ

น้ำในสระทำให้เสื้อผ้าของหญิงงามเปียกโชกไปทั้งตัว ชุดแบบฉบับคนในวังสีชมพูบาง ๆ ที่นางใส่แนบเข้ากับตัวนาง จนเผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าอันเย้ายวนที่น่าหลงใหล

ตรงกับคำพูดที่กล่าวไว้ว่า แม้ว่าจะเกิดในตม แต่ก็มิได้ต้องเปื้อนโคลน ต่อให้ผ่านการชำระล้างไปกี่ครั้งก็ไม่ได้ดูฉูดฉาด

ถ้าหากหวังเต๋อเฉวียนไม่รู้จักเจียงซินเย่ว์มาก่อนก็คงคิดว่าแม่นางคนนี้เป็นเซียนดอกบัวที่ลงมาจุติเสียแล้ว

เสียงหอบหายใจอย่างรุนแรงของหญิงงามท่ามกลางสายฝน ให้ทัศนียภาพที่แตกต่างไปอีกแบบ ทำให้แม่นางน้อยดูงดงามและมีเสน่ห์เย้าย้วนที่ทำให้ว้าวุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรจนแววตานิ่งขรึม และเอื้อมมือไปหาเจียงซินเย่ว์ที่อยู่ในน้ำที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองงดงามเพียงใด “สนมรักเจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือ? เหตุใดยังไม่รีบขึ้นมาอีก? หากต้องลมหนาวจะไม่งดงามเอานะ”

เจียงซินเย่ว์เหมือนกระต่ายน้อยที่ถูกทำให้ตกใจ ใบหน้าของนางแดงก่ำและยื่นมือไปจับพระหัตถ์ของฮ่องเต้อย่างระมัดระวัง

“ว้าย!”

สุนัขฮ่องเต้ยังมีแรงของบุรุษมากเสียด้วย แค่ใช้แรงเพียงนิดเดียวก็สามารถดึงตัวนางเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนได้ ทำให้เจียงซินเย่ว์เขินอายจนต้องร้องอุทานขึ้นมา “ฝ่าบาท!”

หวังเต๋อเฉวียนมองมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้เหมือนจะจำหญิงงามที่อยู่ในอ้อมแขนของตัวเองไม่ได้ว่าคือใคร จึงรีบก้าวไปข้างหน้า “กราบทูลฝ่าบาท ท่านกับเจียงกุ้ยเหรินล้วนเปียกโชกกันทั้งคู่ ตำหนักซีเหอก็อยู่ข้างหน้านี้ ถ้าอย่างไรไปอาบน้ำฉลองพระองค์ก่อนดีกว่าไหมพ่ะย่ะค่ะ ฉู่เจี๋ยอวี๋ก็อยู่ที่นั่น บ่าวจะไปแจ้งให้ทราบเองพ่ะย่ะค่ะ”

“อืม! ไปเถอะ!”

เจียงกุ้ยเหริน?

แม่หญิงคนนี้ทำไมถึงได้แตกต่างจากแม่หญิงที่ตัวเองเพิ่งโปรดเมื่อวันก่อนได้มากขนาดนี้? เขาเกือบจะจำไม่ได้ขึ้นมาชั่วขณะ

โดยส่วนตัวนางเป็นคน...ร่าเริงมีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉงเช่นนี้เลยหรือ?

เจียงซินเย่ว์ไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับนาง วันนี้นางจะพยายามทุ่มเทสุดกำลังเพื่อฉกคนมาที่ตำหนักซีเหอให้จงได้ ถ้าหากไม่มีเหตุการณ์ที่เกินจะบรรยายเกิดขึ้น นางก็จะไม่ยอมปล่อยคนไปไหนทั้งนั้น

แม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน แต่วันนี้ก็มีฝนตก และอุณหภูมิก็ไม่ได้สูงมากเท่าไรนัก ตอนที่ออกมาจากสระบัวมา เจียงซินเย่ว์ก็รู้สึกหนาวจนตัวสั่น

สี่เชวี่ยกับซวงเจี้ยงรีบวิ่งกลับไปที่ตำหนัก เพื่อให้นางกำนัลรีบไปเตรียมเอาน้ำร้อนมาให้ฝ่าบาทและนายหญิงได้อาบน้ำ

“ฝ่าบาท ขอประทานอภัยเพคะ เป็นหม่อมฉัน...หม่อมฉันทำให้ฝ่าบาทต้องลำบากเสียแล้ว ท่าน...ฮัดชิ้ว~”

หญิงงามที่อยู่ในอ้อมแขนของฝ่าบาทป้องปากตัวเอง ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า ดวงตาเรียวยาวได้รูปที่แฝงไปด้วยความกลัวและเขินอายจ้องมองมาทางเขาอย่างไม่วางตา

ช่างไร้เดียงสาและน่ารักมากเลย

ฝ่าบาทวางนางลงบนพื้นและอดใจไม่ไหวที่จะบีบเนื้อนุ่ม ๆ บนแก้มของนางเล็กน้อย “ดูสิว่าครั้งต่อไปเจ้าจะไปทำเรื่องที่อันตรายเช่นนี้อีกหรือไม่?”

เจียงซินเย่ว์แอบซุกตัวหลบด้วยความเขินอาย และปล่อยให้สี่เชวี่ยถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกตามแต่ใจต้องการ จากนั้นก็รีบวิ่งลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว เผยออกมาให้เห็นแค่ดวงตากลมโตคู่นั้นที่โผล่พ้นออกมาจากขอบถังน้ำ “ไม่อันตรายเพคะ หม่อมฉันว่ายน้ำเป็นเพคะ”

ดวงตาคู่นั้นกะพริบตาปริบ ๆ ราวกับกำลังส่งคำเชิญชวนเงียบ ๆ

เมื่อฮ่องเต้พอพระทัยแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเสวยอาหารกลางวันแล้ว

เจียงซินเย่ว์เหนื่อยมาก เดิมทีเมื่อคืนก็คัดลอกกฎในวังหลวงทั้งคืนไม่ได้นอน ตอนนี้มาถูกกระทำไม่หยุดไม่หย่อนจนไม่อยากแม้แต่จะขยับนิ้วสักนิ้ว

ฮ่องเต้ทรงเรียกให้คนมาเปลี่ยนน้ำใหม่ จากนั้นก็อุ้มเจียงซินเย่ว์ที่ตัวอ่อนเหมือนไม่มีกระดูกลงไปในน้ำเพื่อชำระร่างกาย

ผิวพรรณของหญิงสาวขาวผ่องและเนียนละเอียดราวกับหิมะ เมื่อถูไปมาก็จุดไฟอันร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง

ฮ่องเต้วางพระหัตถ์ทั้งสองข้างของตัวเองไว้ที่ข้างเอวของเจียงซินเย่ว์ ในขณะที่กำลังจะเข้าไปใกล้ ๆ แต่กลับถูกนางดันหน้าอกไว้ ก่อนจะเอ่ยดุอย่างอ่อนโยนและดูงอแง “ฝ่าบาท ไม่เอาแล้ว หม่อมฉันไม่ไหวแล้ว...”

จะมีคำพูดใดที่ปลุกความเป็นชายให้ฮึกเหิมมากไปกว่าประโยคนี้อีกเล่า?

เจียงกุ้ยเหรินยังไม่เข้าใจผู้ชายอย่างถ่องแท้มากนัก

แต่ก็เป็นเพราะความไม่รู้ความของนางเช่นนี้นี่แหละที่น่าเย้ายวนที่สุด ยั่วยวนเสียจนฮ่องเต้ต้องนัวเนียพัวพันกับนางอีกสองครั้ง

จนกระทั่งเจียงซินเย่ว์ใกล้จะสลบแล้ว ฮ่องเต้จึงเช็ดตัวนางให้สะอาด และสวมเสื้อผ้าให้ก่อนจะอุ้มพากลับไปพักผ่อนที่เตียง

เสียงหายใจเบา ๆ ที่เป็นจังหวะคงที่ของหญิงสาวสามารถทำให้รู้ได้ว่านางได้นอนหลับสนิทมากแล้ว หวังเต๋อเฉวียนได้ยินฮ่องเต้เรียกถึงจะกล้าเข้ามา และดวงตาก็ไม่กล้ามองอะไรมั่วซั่ว

“เรื่องที่เกิดในวันนี้ไม่ต้องให้ห้องจิ้งซื่อจดบันทึก คืนนี้รอให้ข้าพลิกป้ายของเจียงกุ้ยเหรินค่อยจดบันทึก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักพันธนาการหัวใจ