เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย นิยาย บท 68

ยาหยีช้อนตาขึ้นมองแล้วก็อึ้งไปนานทีเดียวเมื่อเห็นผู้ชายที่หล่อระเบิดยืนระบายยิ้มให้ตรงหน้า ผู้ชายคนนี้ผมสีเดียวกับคอร์เนล แต่ดวงตาคนละสีกัน หรืออาจจะเป็นเพราะแสงไฟที่ส่องมาทำให้หล่อนเห็นว่าดวงตาของผู้ชายตรงหน้าเป็นสีน้ำเงินกันนะ

“ขอบคุณค่ะ...ฉัน...”

“รับเถอะครับ น้ำใจจากผม...เอ่อ...ผมคงลืมแนะนำตัวไป ผมจัสติน เคอร์ซาคอฟ เพื่อนของผู้ชายที่ทำให้คุณร้องไห้ครับ”

ในเมื่อไม่มีทางเลือกยาหยีจึงต้องรับผ้าเช็ดหน้าจากผู้ชายที่แนะนำตัวเองว่าชื่อจัสติน เคอร์ซาคอฟ และเป็นเพื่อนของคอร์เนลขึ้นมาซับน้ำตา แต่ความอับอายทำให้หล่อนพยายามที่จะปฏิเสธสิ่งที่ผู้ชายตรงหน้ากำลังเข้าใจออกมา

“ฉันไม่ได้ร้องไห้หรอกค่ะ แค่ผงเข้าตา”

“ถ้าการที่ผมแกล้งทำเป็นเชื่อว่าผงเข้าตาคุณจริงๆ แล้วคุณจะรู้สึกดีขึ้น ผมก็ยินดีจะทำครับ”

“ขอบคุณค่ะ” เช็ดแล้วส่งคืน แต่จัสตินไม่ยอมรับคืนไป

“ผมให้ครับ ไม่ต้องคืนหรอก ว่าแต่ทำไมคอร์เนลถึงปล่อยให้ผู้หญิงที่สวยราวนางฟ้าอย่างคุณต้องอยู่ตามลำพังล่ะครับ” จัสตินเดินตามไปทรุดกายนั่งข้างๆ ร่างของยาหยีบนศาลากลางสวนที่ถูกเนรมิตขึ้นจากสถาปนิกฝีมือดี

“ใครว่าฉันปล่อยให้เมียอยู่คนเดียวกันล่ะ”

“คอร์เนล...”

ยาหยีอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ตัวเองกำลังน้อยใจปรากฏอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางถมึงทึง

“ไม่ยักจะรู้ว่านายมีเมียแล้วนะคอร์น”

จัสตินเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี ขณะก้าวลงจากศาลาเดินตรงเข้าไปเผชิญหน้ากับคอร์เนล ร่างของผู้ชายทั้งคู่สูงเท่าเทียมกัน และความสง่างามก็กินกันไม่ขาดเลยทีเดียว

“นึกว่าแค่ผู้หญิงในสังกัดซะอีก”

“มันเรื่องส่วนตัวของฉัน เพื่อนทรยศอย่างนายไม่ต้องมาเสือก!”

คอร์เนลใช้คำพูดหยาบคายจนยาหยีที่นั่งนิ่งอยู่บนศาลถึงกับหน้าซีดเผือด ตกใจจนแทบช็อก กระแสความอำมหิตเหี้ยมโหดทอรัศมีออกมาจากกายของชายหนุ่มทั้งคู่จนหล่อนแสบตา

จัสตินระบายยิ้มหยันออกมา จ้องมองผู้ชายตรงหน้าเขม็งไม่ยอมหลบตา

“นี่แสดงว่ายังจำเรื่องเมื่อสามปีก่อนได้ดีใช่ไหม”

คราวนี้ยาหยีรู้สึกว่าน้ำเสียงของผู้ชายที่แนะนำตัวว่าชื่อจัสตินแข็งกร้าวและอัดแน่นไปด้วยแรงแค้นมากมายเหลือเกิน

“ฉันไม่มีทางลืมเรื่องระยำ! แบบนั้นได้หรอกน่า ไปให้พ้นหน้าฉันซะ ก่อนที่ฉันจะทนเก็บหมัดเอาไว้ไม่ไหว” คอร์เนลเค้นเสียงคำรามออกมา จัสตินระบายยิ้มกระด้าง

“ระวังหัวใจของตัวเองไว้ให้ดีล่ะ เพราะฉันจ้องจะเชือดมันตลอดเวลา”

จัสตินพูดจบก็เดินหายกลับเข้าไปในงานเลี้ยง ขณะที่คอร์เนลยังยืนนิ่งงันอยู่กับที่ เพราะรู้ดีอยู่เต็มอกว่าจัสตินหมายความถึงอะไร

“หวังไปเถอะว่าคนอย่างฉันจะพลาด”

คำรามออกมาด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม ก่อนจะตวัดตามองไปยังร่างของยาหยีที่นั่งนิ่งอยู่บนศาลาด้วยความสายตาเพชฌฆาต

“ลงมา ถ้าไม่อยากใช้ศาลาต่างเตียง”

ยาหยีไม่มีทางเลือกจึงต้องทำตามคำสั่งของคอร์เนล

“คุณไม่ควรจะมาวุ่นวายกับฉัน...ในเมื่อ...”

“หุบปากไปเลย ถ้าผมไม่มา คุณก็คงจะพลอดรักกับไอ้จัสตินในศาลานี้ตามลำพังใช่ไหม ร่านซะไม่มี แค่ผัวอยู่ห่างไม่กี่นาทีก็คันจนทนไม่ไหวแล้วหรือไง!”

เผียะ!

“คนหยาบคาย อย่าเที่ยวเหมาว่าคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนคุณกันทุกคนสิ”

คอร์เนลกัดฟันแน่นเพื่อข่มโทสะเอาไว้ ขณะขยุ้มมือแข็งแกร่งลงบนหัวไหล่เปลือยแรงๆ จนแม่สาวน้อยตรงหน้าเบ้หน้าด้วยความเจ็บ แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อย

‘ดีสิ เจ็บให้ตายไปเลยสิดี พอเขาไม่อยู่ก็ระริกระรี้ดีนัก’

คอร์เนลคิดด้วยความเจ็บแค้น หึงหวงจนแทบอยากจะหักคอยาหยีให้ตายคามือ โดยลืมไปว่าตั้งแต่เกิดมาตัวเองไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อนเลย

“แล้วไอ้ที่ยิ้มหวานจนแทบจะเชิญมันให้เข้าไปในตัวน่ะ มันเรียกว่าอะไรไม่ทราบ!”

“นึกว่าอยากจะเปลี่ยนสถานที่ซะอีก”

ชายหนุ่มเอ่ยแซวขณะเคลื่อนรถสปอร์ตราคาหลายล้านเหรียญของตัวเองไปข้างหน้า

“แค่คุณเนรมิตอ่างน้ำต่างเตียงได้ ฉันก็มหัศจรรย์ใจเหลือเกินแล้วล่ะค่ะ”

พูดเสียงขึ้นจมูก บังคับสายตาให้ละจากใบหน้าหล่อเหลาของเขาเพื่อให้มันไปจับจ้องวิวข้างทางแทน แต่มันทำได้ยากเย็นชะมัดเลยให้ตายสิ

‘ก็พ่อเจ้าประคุณเล่นหล่อทุกอิริยาบถ หล่อกระชากลมหายใจแบบไม่เลือกสถานที่ซะเลยนี่’

“อีกหน่อยคุณก็จะคุ้นเคยและชื่นชอบมันไปเองนั่นแหละน่า เอ...”

คนตัวโตครางในลำคอพร้อมกับหักพวงมาลัยรถเข้าไปจอดในสวนสาธารณะเงียบเชียบ และหันมาจ้องหน้าหล่อนด้วยสายตาที่หล่อนเห็นแล้ววูบวาบร้อนผ่าวไปทั้งกาย

“ในรถก็ดีเหมือนกันนะ สนุกไปอีกแบบ”

“คุณจะบ้าหรือไง ขับรถต่อเถอะ.”

คอร์เนลส่ายหน้า ขณะปลดเข็มขัดนิรภัยทั้งของตัวเองและของยาหยีออกจากตัว จากนั้นก็ยกร่างอรชรสลักเสลาขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก มือใหญ่เลื่อนเบาะให้เอนลงเพื่อไม่ให้แผ่นหลังของยาหยีถูไถกับพวงมาลัยรถ

“ผมทนมาถึงตอนนี้ได้ก็ขั้นเทพแล้วล่ะทูนหัว”

“คงเคยทำแบบนี้อยู่บ่อยๆ ใช่ไหมคะ”

แม้สมองจะคัดค้าน แต่ร่างกายไม่รักดีดันทรยศซะนี่ ดูสิ มันส่ายระทดระทวยอยู่บนร่างแข็งแรงทรงพลังของคอร์เนลราวกับอีตัวมืออาชีพไม่ผิด

“ไม่เคย...กับคุณคนแรก”

อ้าปากจะเถียงออกไปว่าไม่เชื่อ แต่ก็ถูกพ่อคนตัวโตก้มลงมาประกบแนบแน่นเสียก่อน เขาจูบอย่างเร่าร้อนดุดันเร่งเร้าให้ตอบสนองด้วยอารมณ์รุนแรงเช่นเดียวกัน หญิงสาวร้องครวญคราง จากที่เคยคิดจะต่อต้าน ตอนนี้เปลี่ยนเป็นให้ความร่วมไม้ร่วมมือเป็นอย่างดี แถมในบางช่วงบางตอนยาหยียังเป็นฝ่ายริเริ่มอีกต่างหาก

“เก่งมากทูนหัว ไม่คิดว่าครั้งแรกในรถจะสนุกสุดเหวี่ยงแบบนี้”

นี่คือคำพูดสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างรอบตัวจะเงียบกริบ มีแค่เสียงการเคลื่อนไหวดังผสมกลมกลืนมากับเสียงครางจากยาหยีเป็นระยะเพียงเท่านั้น และกว่าที่ทั้งคู่จะจบกิจกรรมรักบนรถก็กินเวลานานเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย