ยิ้มหวานพร้อมๆ กับสะกิดหัวนมเล็กๆ ของคอร์เนลที่ซ่อนอยู่ในขนปุกปุยแผ่วเบา แต่แค่นั้นก็พอจะทำให้คนตัวโตสั่นสะเทือนไปทั้งร่าง
“ทูนหัว...ถ้ายังอยากฟังผมพูดอยู่ก็เอานิ้วไปลูบที่อื่น ตรงนี้ไม่ได้”
“ทำไมล่ะคะ” แกล้งทำเป็นหน้าตายถามออกไป คนตัวโตเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ผมก็รู้สึกเหมือนกับเวลาที่คุณถูกนิ้วผมขยี้นั่นแหละ อยากฟังหรืออยากให้ผมรักล่ะทูนหัว”
คอร์เนลถามเสียงสั่นพร่า ความโหยหาอยากครอบครองภรรยาคนงามกำลังเล่นงานเขาอย่างสาหัสสากรรจ์เลยทีเดียว
“ตามใจคุณสิคะ”
“งั้นผมบอกตอนที่อยู่ในตัวคุณดีกว่านะทูนหัว”
เมื่อถูกท้าทายแบบนี้มีหรือที่คอร์เนลจะไม่เลือกในสิ่งที่ตัวเองกำลังต้องการใจจะขาด เขากระชากทีเดียวชุดสวยๆ ของยาหยีก็ขาดวิ่นติดมือใหญ่ไป ร่างงามเปลือยเปล่าท้าทายสายตาหิวกระหายของคนตัวโตอย่างอาจหาญ
“นี่เป็นชุดสุดท้ายแล้วนะคะ”
“ผมซื้อให้คุณเมื่อวันก่อนตั้งเกือบสิบชุดนะ มันตกรุ่นแล้วเหรอ”
คอร์เนลที่กำลังดูดดึงปลายถันสีกุหลาบแรงๆ เอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
ยาหยีข่มความเสียวสยิวที่เกิดจากปาก มือ และลิ้นชาญชำนาญของคนตัวโต แล้วตอบออกมาด้วยเสียงสะอื้นแหบพร่า
“ก็คุณฉีกชุดฉันทุกครั้งที่นอนด้วยกันนี่คะ แล้ววันหนึ่งน่ะคุณนอนกับฉันไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แล้วจะเอาอะไรมาเหลือล่ะ”
พ้อเสียงขัดเขินขณะแอ่นร่างอวบอิ่มของตัวเองขึ้นหาคนตัวโต คอร์เนลหัวเราะร่วนไม่ยอมหยุดสำรวจกายสาวงดงามแม้แต่ขณะจิตด้วย
“เอาเป็นว่าผมจะให้คนไปซื้อชุดให้คุณอาทิตย์ละห้าสิบชุดก็แล้วกัน เริ่มจากวันนี้เลย”
“โห...ทำไมเยอะแยะจังล่ะคะ แค่สิบชุดก็พอแล้วค่ะ ฉันใส่ซ้ำได้”
ศีรษะดกดำเงยขึ้นจากอกสาว เคลื่อนขึ้นมาหากลีบปากอิ่ม
“ก็เพราะผมตั้งเป้าหมายไว้สูงกว่าเดิมมากน่ะสิ ห้าสิบครั้งต่อสัปดาห์ไหวไหมจ๊ะทูนหัว”
คนฟังแก้มแดงก่ำ ความขวยเขินอัดแน่นอยู่ในอกจนล้นปรี่แทบทะลักออกมาจากปาก
“คนบ้า อย่างนี้ฉันก็ช้ำตายกันพอดีสิคะ”
“ไม่หรอกลูกหยีจ๋า คุณจะสนุกจนขาดผมไม่ได้เลยต่างหาก”
คนตัวโตจ้องมองมาด้วยความหิวกระหาย มือใหญ่กอบกุมเต้างามเอาไว้แน่น ขณะเริ่มบีบเคล้นเคล้าคลึงตามอารมณ์ปรารถนาที่คอร์เนลกำลังเผชิญหน้ากับมันอยู่
“และผมก็ต้องการให้คุณขาดผมไม่ได้ไปตลอดชีวิต”
ยาหยียิ้มหวาน กระชากศีรษะของคอร์เนลลงมาหาและเผยอปากจูบด้วยความร้อนแรง ชายหนุ่มครางลั่น ความเสียวกระสันทิ่มแทงอยู่ที่ช่องท้องอย่างรุนแรงเมื่อภรรยาคนสวยเริ่มต้นเกมเสน่หาด้วยริมฝีปากนุ่มและหวานฉ่ำของเจ้าหล่อนเอง
“ลูกหยี...คุณหวานเหลือเกิน”
เพลงปรารถนาที่เกิดขึ้นท่ามกลางความร้อนแรงของอารมณ์คลั่งของสองหนุ่มสาวเดินหน้าต่อไปอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ยาหยีตอบสนองความต้องการของสามีด้วยความเร่าร้อนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน หล่อนพลิกกายกำยำให้นอนหงาย และสำรวจเรือนร่างทรงพลังแสนมหัศจรรย์นั้นด้วยปากและมือของตัวเอง ลิ้นเล็กตวัดไปตามผิวกายเรียบตึงด้วยความหลงใหล ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความรักและการขอโทษขอโพยต่อสิ่งที่ตัวเองกำลังจะกระทำมันลงไป คอร์เนลจะเกลียดหล่อนราวกับกิ้งกือไส้เดือน แต่หล่อนไม่มีทางเลือก ไม่มีทางเลือกอื่นเลยจริงๆ
“คอร์เนล...ฉันขอโทษ...”
พึมพำกับสามีที่หมดแรงหลับไปในยกสุดท้ายของเพลงสวาท น้ำตาไหลพรากออกมาขณะเดินไปหยิบเสื้อคลุมตัวหนาออกมาสวมใส่ หญิงสาวหันกลับมามองคอร์เนลที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงอีกครั้งด้วยความอาลัย ก่อนจะก้าวเดินออกไปจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบที่สุด แต่กระนั้นก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาที่เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงของคอร์เนลที่ลืมขึ้นทันทีที่สาวน้อยก้าวพ้นไปจากห้องเลยแม้แต่นิดเดียว
ชายหนุ่มก้าวลงจากเตียงและคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู ก่อนจะเอ่ยสั่งออกไปเมื่อปลายทางรับสาย
“เซอร์เก ฉันต้องการเพชรสีทองปลอมอีกหนึ่งเม็ด เอามาให้ฉันด่วนที่สุด”
เมื่อคนสนิทรับคำสั่ง คอร์เนลจึงตัดสาย เดินไปเกาะที่ขอบหน้าต่างมองออกไปด้านนอกด้วยความรู้สึกสับสนอลหม่าน
ยาหยีสารภาพว่ารักเขา แต่ท่าทางของหล่อนเมื่อครู่นี้มันเหมือนกับว่าหล่อนกำลังซ่อนบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ในใจ แล้วยังจะคำขอโทษที่หล่อนกระซิบบอกตอนที่เข้าใจว่าเขานอนหลับอยู่อีก มันหมายความว่ายังไงกันนะ
คอร์เนลลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานของตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ขณะเดินออกมาเผชิญหน้ากับคนสนิท
“เรามาเดิมพันกันดีกว่าไหม ถ้ายาหยีรักฉันจริงๆ นายจะต้องเลิกตั้งแง่กับเธอ”
“แล้วหากคุณยาหยีหลอกลวงนายน้อยล่ะครับ นายน้อยจะทำยังไงกับเธอ” เซอร์เกถามกลับ
คอร์เนลระบายยิ้มบางๆ ความไม่สบายใจยังไม่จางไปจากนัยน์ตาสีเขียวดุจมรกตเนื้อดีแม้แต่นิดเดียว หากให้พูดตามตรงเขาเองก็ไม่ได้มั่นใจนักหรอก แต่แค่ต้องการให้โอกาสยาหยีเท่านั้นเอง โอกาสครั้งเดียวในชีวิตที่จะมีให้ได้
‘ถ้าหล่อนรักเขาด้วยหัวใจจริงๆ เขาก็คงจะดีใจมากและเป็นสุขที่สุด’
“ฉันก็จะไม่พบหน้าหล่อนอีกตลอดชีวิต”
“นายน้อยทำได้หรือครับ ในเมื่อนายน้อยรักคุณยาหยีมาก”
เมื่อถูกคำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงแทงใจดำทำให้คอร์เนลต้องเดินหนีไปเกาะที่ขอบหน้าต่างห้อง เซอร์เกขยับตามไปหยุดอยู่ข้างหลัง
“ผมอยู่กับนายน้อยมานาน แค่มองตาก็รู้แล้วว่านายน้อยกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมก็พลาดเองที่ไม่ป้องกันตั้งแต่แรก ความจริงผมควรจะขัดขวางการพบกันระหว่างนายน้อยกับคุณยาหยีตั้งแต่วันนั้น และถ้าหากผมทำสำเร็จ วันนี้นายน้อยก็คงไม่ต้องมาทุกข์ใจเพราะความรักแบบนี้”
“หากฉันสามารถย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็จะเลือกไม่เดินทางไปประเทศไทย” น้ำเสียงของคอร์เนลเต็มไปด้วยความอ่อนล้า หัวใจกระด้างที่อยู่ภายในอกกว้างดวงนั้นคงจะกำลังเหน็ดเหนื่อยอย่างมากเลยทีเดียว
เซอร์เกยืนมองแผ่นหลังกว้างของเจ้านายหนุ่มด้วยความห่วงใย และก็เลือกถอยหลังออกจากห้องทำงานของคอร์เนลไปอย่างเงียบเชียบเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มกำลังต้องการความเป็นส่วนตัว
เสียงปิดประตูที่ถึงแม้ว่าคนปิดจะพยายามทำให้มันเบาแค่ไหน แต่คอร์เนลก็ได้ยินมันอยู่ดี ชายหนุ่มหมุนตัวกลับมามองที่บานประตูนิ่ง รู้สึกขอบคุณเซอร์เกนักที่ยอมปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพัง คิดทบทวนเรื่องราวทุกอย่าง
ชายหนุ่มเดินตรงยังตู้เซฟตัวใหม่ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยขั้นดีเยี่ยม มือใหญ่กดรหัสตัวเลขสี่ตัวสามครั้ง วางนิ้วชี้ขวาและซ้ายลงไป จากนั้นก็ก้มหน้าแนบดวงตากับช่องรับสัญญาณ เมื่อทุกอย่างถูกต้อง ประตูตู้เซฟก็ถูกเปิดออกในทันที คอร์เนลหยิบเพชรสีทองในกล่องกำมะหยี่สีแดงซึ่งเป็นเพชรของจริงออกมาใส่ในกระเป๋าเสื้อ จากนั้นก็นำเพชรสีทองของปลอมที่เซอร์เกพึ่งนำมาให้วางไว้แทนที่ ก่อนจะปิดประตูตู้เซฟแล้วลดระบบการรักษาความปลอดภัยเหลือแค่การใส่รหัสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ผมหวังว่าความคิดของผมจะเป็นสิ่งที่ผิดพลาดนะยาหยี”
คอร์เนลถอนใจออกมาแรงๆ ก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกจากห้องทำงานไปในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย