เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย นิยาย บท 84

กรุงมอสโกยามค่ำคืนดูอ้างว้างเหลือเกินเมื่อเขาต้องมายืนมองดวงดาวบนท้องฟ้าเพียงลำพัง ไร้เงาของผู้หญิงที่ตัวเองรักหมดใจข้างกาย คอร์เนลถอนใจออกมาหนักหน่วง ทั้งๆ ที่พยายามตัดใจจากยาหยีแค่ไหน แต่สุดท้ายระยะเวลานานถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ เขาก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จอยู่ดี วันๆ หนึ่งเขาต้องพยายามห้ามตัวเองไม่ให้บินไปกรุงเทพฯ หลายต่อหลายครั้ง เพราะความคิดถึงกำลังถล่มยับอยู่ในอก พานให้เขาแทบเป็นบ้า

เซอร์เกยืนมองนายน้อยของตัวเองด้วยความกังวลใจ หนึ่งเดือนมาแล้วที่คอร์เนลดูเย็นชา และไม่มีใครเข้าถึงความรู้สึกที่แท้จริงของชายหนุ่มได้เลย

“นายน้อยครับ”

“หุบปากซะถ้าจะพูดเรื่องเดิม”

คอร์เนลเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน เพราะตลอดสามสิบวันที่ผ่านมาเซอร์เกที่เคยบอกเขาว่ายาหยีไม่คู่ควรกับเขากลับพยายามอ้อนวอนให้เขาไปง้องอนเจ้าหล่อนซะนี่

“แต่เรื่องที่นายน้อยไม่อยากฟัง มันเป็นเรื่องเดียวที่ผมต้องพูดนะครับ”

“เซอร์เก ไปนอนซะ”

“ผมไม่อยากเห็นนายน้อยมีชีวิตแค่หายใจทิ้งไปวันๆ นายน้อยควรจะมีความสุข”

เซอร์เกยังดื้อแพ่ง คอร์เนลขบกรามแน่นขณะหันมาจ้องหน้าคนสนิทด้วยสายตาสีเขียวเรืองรอง ความไม่พอใจฉาบชัดบนใบหน้าหล่อเหลามหาศาล

“แค่ฉันไม่เห็นหน้าแม่นั่น ไม่ได้ยินชื่อแม่นั่น ฉันก็สุขจนแทบจะไหม้แล้วล่ะ ไปซะเถอะเซอร์เก นายกล่อมฉันมาสามสิบวันเต็มแล้วไม่ใช่หรือ ก็เห็นนี่ว่ามันไม่ได้ผล ฉันไม่ยอมใจอ่อนแน่”

“แต่การพยายามไม่รักมันเจ็บปวดนะครับนายน้อย ผมอยากให้นายน้อยกลับมาเป็นผู้ชายยิ้มง่ายเหมือนเมื่อตอนที่ยังมีคุณยาหยีอยู่ข้างกาย”

คอร์เนลแค่นหัวเราะออกมาทั้งๆ ที่บรรยากาศรอบตัวไม่มีอะไรน่าขันเลยแม้แต่นิดเดียว

“แต่การอยู่โดยไร้รักมันก็ทำให้เรามองเห็นความจริงมากขึ้นไม่ใช่หรือ หุบปากเถอะ แล้วไสหัวออกไปซะ”

ชายหนุ่มตวาดลั่น แต่ก็หยุดคนสนิทไม่ได้ เซอร์เกยอมถูกฆ่าหากคำพูดของตัวเองจะทำให้นายน้อยของเขาเลิกใจแข็ง ปากแข็งสักที

“แต่ผมอยากให้นายน้อยให้โอกาสคุณยาหยีอีกสักครั้ง”

“ให้โอกาสคนที่ทรยศฉันถึงสองครั้งสองครานี่นะ”

เซอร์เกสูดลมหายเข้าใจปอดเฮือกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา

“ผมมีบางอย่างที่ปิดบังนายน้อยเอาไว้ครับ”

คอร์เนลเลิกคิ้วเข้มขึ้นสูง จ้องหน้าคนสนิทเขม็ง

“นายกำลังจะบอกอะไรกับฉันอย่างนั้นหรือ”

“ที่เมืองไทยผมเป็นคนวางแผนปล่อยนายยอดชายเองครับ”

“เซอร์เก นี่นาย...”

หนุ่มหล่อเบิกตากว้าง คำรามออกมาราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เซอร์เกแม้จะหวาดเกรงต่ออาญาอารมณ์ของคอร์เนลมากแค่ไหน แต่เขาก็จำต้องพูดต่อให้จบ

และทุกการสนทนาก็จบลงอย่างสิ้นเชิง เซอร์เกยืนมองแผ่นหลังของนายน้อยตนเองด้วยความอ่อนอกอ่อนใจอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ

เมื่ออยู่คนเดียวอีกครั้ง ดวงจันทร์ตรงหน้าก็กลายเป็นภาพใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงที่ยังติดตราตรึงอยู่ในทุกลมหายใจเข้าออก

“ผมไม่มีวันให้อภัยในสิ่งที่คุณได้กระทำลงไปหรอกยาหยี แม้ว่าคุณจะแสดงฉากจบในโกดังได้อย่างเหมือนจริงแค่ไหนก็ตาม”

ภาพร่างของยาหยีโชกเลือดวกกลับเข้ามาในสมองอีกครั้ง แต่คอร์เนลก็ยักไหล่และใส่ความหล่อนอย่างเจ็บแสบทีเดียว

‘มันคงเป็นแค่การแสดงที่ผิดคิวเท่านั้นเอง หล่อนถึงได้เจ็บปางตายแบบนั้น’

คอร์เนลกัดฟันแน่น สลัดศีรษะแรงๆ ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวกลับเข้าไปในตึกด้วยท่าทางเดือดดาลเต็มขั้น เชอรี่ที่กำลังตรวจตราความเรียบร้อยอยู่ภายในห้องโถงติดกับบันไดบ้านมองตามร่างใหญ่โตของเจ้านายหนุ่มที่พึ่งเดินผ่านสายตาไปด้วยความกังวลใจ

“เมื่อไรจะใจอ่อนสักทีนะนายน้อย”

“นั่นสิคะ นายน้อยดุกว่าเมื่อก่อนมากเหลือเกิน ทำอะไรๆ ก็ไม่เคยถูกใจสักอย่าง เมื่อวานหนูก็ถูกไล่ให้ไปชงกาแฟใหม่เกือบสิบรอบทั้งๆ ที่หนูก็ชงสูตรเดิมที่นายน้อยเคยกินทุกวันนั่นแหละ”

มารีนที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นมาบ้าง รู้ดีว่าทุกอย่างในบ้านจะกลับมาเข้าสู่สภาพเดิมได้ก็ต่อเมื่อยาหยีกลับมาอยู่ที่นี่ อยู่ข้างกายคอร์เนล

“ไม่ต้องบ่นหรอก ตอนนี้โลกของนายน้อยกำลังเป็นสีดำ อะไรๆ มันก็ขัดใจไปหมดนั่นแหละ เดี๋ยวพออะไรเข้าที่เข้าทาง นายน้อยก็จะกลับมาเป็นเทพบุตรของเราเหมือนเดิมนั่นแหละ” เชอรี่พูดอย่างคนปลงตก ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป

“คุณเชอรี่พูดอะไรน่ะ ทำไมเข้าใจยากจัง” มารีนยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ ด้วยความมึนงง พยายามคิดแต่ก็คิดไม่ออก จึงทำได้แค่เพียงวิ่งตามไปหาคำอธิบายจากแม่บ้านร่างท้วมที่เดินนำหน้าไปไกลแล้วด้วยความข้องใจสุดขีดเท่านั้นเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเก็บมาเฟีย ชุด เทพบุตรมาเฟีย