หญิงม่ายสามีตายวัย 65 มองนาฬิกาพลางมุ่นคิ้ว เสียงรถของลูกชายมาดึกดื่นขนาดนี้ ต้องมีปัญหาอะไรอีกแล้วแน่ๆ ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงตึงเครียดได้ไม่นาน เมื่อตัวการเดินมาถึง ท่านจำต้องยิ้มกว้างส่งไปให้ อ้าแขนออกรับร่างลูกชายเข้ามากอดไว้อย่างทุกที
“มาทำไมดึกดื่น หนีเมียมาอีกแล้วเหรอ”
“พอดีทำธุระเสร็จแล้วเกิดคิดถึงคุณแม่พอดีครับ”
เขาไม่กล้าบอกท่านว่าตั้งใจมาหา กลัวว่าถ้าพูดสิ่งที่เกิดกับตัวตอนนี้ จะถูกด่ามากกว่าเห็นใจ
“ก็เลยปล่อยหนูไอซ์อยู่บ้านคนเดียว”
“เดี๋ยวผมก็กลับแล้วครับ วันนี้ไม่ได้ค้าง”
“เป็นอะไรไหมลูก หน้าตาดูเครียดๆกับหนูไอซ์ไปได้ไม่ดีเหรอ”
ท่านถามด้วยความเป็นห่วง ลูกสะใภ้คนนี้ท่านเป็นคนแนะนำให้ลูกชายไปเจอ ไม่คิดว่าลูกจะถูกใจถึงขั้นยอมแต่งงาน แต่แต่งได้ไม่นานก็มีข่าวแว่วเข้าหูมาตลอด ว่าลูกชายทำตัวไม่น่ารักกับภรรยา แต่ทำตัวน่ารักกับหญิงอื่น
“ไปได้สวยเลยครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อพูดถึงภรรยาให้แม่ฟัง เขากับเธอกำลังได้สวยจริงๆ ถ้าไม่มีสิ่งที่เขาทำในอดีตเข้ามาทำลายซะก่อน
“เมื่อไหร่จะมีหลาน น้องๆเขาก็มีหมดแล้ว แม่อยากเห็นหลานคนโต”
ลูกชายท่านก็สามสิบกว่าแล้ว น้องๆอีกสองคนที่อายุน้อยกว่า แซงหน้าไปไกลโข ลูกโตจนจะเข้าโรงเรียนหมดแล้ว แต่ท่านยังไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลานคนโตสักที
“อีกไม่นานหรอกครับ”
คำพูดแบ่งรับแบ่งสู้ ด้วยไม่รู้จะตอบยังไงดี ในสถานการณ์อย่างตอนนี้ จะบอกว่ามีแล้ว ก็ไม่ใช่ลูกที่เกิดอย่างถูกต้อง ถ้าจะบอกว่ายังไม่มี ก็กลัวจะดับความหวังของแม่ซะมากกว่า
“วันมะรืนนี้พาหนูไอซ์มากินข้าวที่บ้านเราสิ น้องๆก็จะมาเหมือนกัน”
“ครับ ถ้าไอซ์ว่างนะ ผมกลับเลยนะครับ เดี๋ยวไอซ์เป็นห่วง”
“มีอะไรก็ค่อยๆคิดค่อยๆแก้นะลูก ทุกอย่างๆมันมีทางออกของมัน”
“ครับ ดึกแล้วแม่ก็รีบเข้านอนได้แล้วครับ”
“คนแก่ก็แบบนี้แหละ กลับบ้านดีๆนะลูก แม่รักลูกนะ”
“ผมก็รักแม่ครับ”
ขุนเขาหอมแก้มแม่สองที ก็เดินกลับไปขึ้นรถที่เลขาจอดรออยู่ วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะใช้งานเลขาจนดึกดื่นป่านนี้ แต่มันเลี่ยงไม่ได้ สงสัยพรุ่งนี้คงต้องให้เขาพักสักหน่อยแล้วล่ะ
“ส่งผมที่บ้านแล้วคุณกลับเลยนะ พรุ่งนี้ไม่ต้องมารับ ผมให้คุณหยุด”
“เสี่ยจะไม่ไปทำงานเหรอครับ” ปณิธานเข้าใจแบบนั้น ถ้าวันไหนเสี่ยให้หยุด คือเสี่ยไม่ได้ไปทำงาน แต่พรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุดของเสี่ยไง!
“เสี่ย! เร็วสิคะ หนัก”
“ฉันไม่ได้เมา” เหล้าแค่นั้นทำอะไรเขาไม่ได้หรอก แต่บอกไปเธอคงไม่เชื่อ นอกจากจะไม่เชื่อยังไม่ยอมหยุดสิ่งที่ทำ ดึงรั้งเขาขึ้นจากเก้าอี้ ทั้งๆที่แรงก็มีอยู่แค่นั้น
“เสี่ยเมาแล้วค่ะ” เมาไม่เมาก็ต้องเอาเขาขึ้นไปก่อน ปล่อยไว้ที่นี่มีหวังได้เปิดเหล้าขวดใหม่เทใสปากแบบไม่ยั้งอีกแน่ ถึงตอนนั้นเธอจะแย่เอา เธอแบกเขาตอนหมดสติขึ้นบ้านไม่ได้แน่นอน
“ปล่อยก่อน ฉันเดินเอง” อัครราชแอบขำท่าทางของเธอ ที่ทำให้เขานึกเห็นภาพมดตัวจิ๋วแบกของกินขนาดมหึมาไว้บนตัว ตัวก็แค่นั้น แต่คิดการใหญ่จะแบกเขาขึ้นบ้าน ตลกดีเหมือนกันนะเมียเขานี่
“แน่ใจนะคะ?”
ใบหน้าสวยหันไปถามเป็นจังหวะเดียวกับที่ใบหน้าคมครามก้มลงมาใกล้ ริมฝีปากอุ่นร้อนกดลงที่แก้มใสทันที เขาว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“ไม่แบกต่อเหรอ?” อัครราชถามคนที่รีบปล่อยแขนเขาไปยืนอยู่ห่างๆ แค่หอมเองไม่เห็นต้องอายเลย จูบก็เคยมาแล้ว ทำไมไม่ทำตัวให้คุ้นชินสักที
“ก็เสี่ยบอกจะเดินเอง” อารยาเดินไปเปิดไฟอย่างคนคุ้นชิน เธอรู้ทุกซอกทุกมุมของบ้านเป็นอย่างดีทั้งที่เพิ่งมาอยู่ เพราะเป็นอินทีเรียและชอบบ้านหลังนี้มาก จึงสำรวจบ้านทุกครั้งที่มีโอกาศ รู้จักบ้านดี ต่อให้เดินหลับตายังเดินได้สบายๆเลย
ร่างสูงเดินตามภรรยาที่เดินนำไปเปิดไฟ เดินผ่านห้องรับแขกไปยังห้องโถงที่มีบันไดตั้งอยู่กลางบ้าน เดินตามขึ้นไปช้าๆ พร้อมกับสำรวจร่างกายของภรรยาที่เดินนำหน้าไปด้วย เมื่อถึงบริเวณห้องนอนที่อยู่ข้างกัน เท้าทั้งสองคู่ก็หยุดลงหน้าห้อง ไม่มีใครพูดอะไร เหมือนต่างคนต่างคิดไม่ได้ว่าจะเอายังไงต่อ
“ไอซ์ไม่กล้าถามเลยค่ะ ว่าเธอคนนั้นพูดว่ายังไงบ้าง เพราะดูท่าทางของเสี่ยตอนนี้ก็พอรู้ ถ้าเกิดว่าไอซ์ต้องเป็นฝ่ายไป ไอซ์ขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ ช่วยสนับสนุนการศึกษาของน้องชายไอซ์หน่อยได้ไหม” ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยน้ำตา ขณะหันกลับมามองสามีที่ยืนอยู่หน้าห้องนอนของเขา
เธอคิดทบทวนซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบตอนที่นั่งรอให้เสี่ยกลับมา ถ้าเขาเลือกเธอ เธอต้องทำตัวยังไง หรือถ้าเขาเลือกผู้หญิงคนอื่น เธอต้องทำอะไรบ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเสี่ย