“ว่าไงคุณพีท เรียกพ่อก็ได้”
ผู้สูงวัยกล่าวอย่างใจดี ตามหน้าตา
“อยู่กับใครล่ะเห็นบีบอกว่าเป็นลูกครึ่งใช่ไหม”
“ใช่ครับแม่ผมเป็นคนสเปนครับเลิกกับพ่อไปแล้ว”
“อืมอืม ไม่เป็นไรให้คุณพ่อคุณมาก็ได้ เจ้าสัวอนันต์ใช่ไหม ได้ยินชื่อมานาน ดีใจที่จะได้ดองกัน”
“คือผม..”
เสียงเปิดประตูในห้องของคนไข้ออกมา บีบีกับคุณแม่ของนลินีเปิดออกมา
“คุณหมอตรวจน้องอยู่ค่ะ เลยออกมารอข้างนอก”
บีบีบอกท่านรองสุรนนท์ที่นั่งอยู่กับภัทรพล
“คุณนีอาทิตย์หน้าคุณพีทจะพาผู้ใหญ่มาคุยนะ พี่วิทย์รับทราบแล้ว”
“รับทราบค่ะเดี๋ยวนีจะเตรียมอาหารไว้รอคุณพีทค่อยบอกแม่อีกทีนะคะว่าแขกจะมากี่คน มีใครบ้างแม่จะได้เตรียมตัว”
“หลักๆ คงเป็นเจ้าสัวอนันต์คุณพ่อพีทเขา คุณแม่เขาเป็นคนสเปนเห็นว่าไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
“อ้อ ค่ะแม่ยินดีต้อนรับคุณพีทมาเป็นลูกชายอีกคนนะคะแม่มีแต่ลูกสาวได้คุณพีทมาเป็นลูกชาย แม่สมหวังแล้วอยากมีลูกชายมานานมาก”
“คุณแม่ขา จะรับมาเป็นลูกชายแล้วทำไมถึงเรียกคุณอยู่ล่ะคะ เรียกชื่อเฉยๆ ได้แล้วค่ะ”
บีบีเอ่ยเย้าแม่ของนลินี
“นั่นสิแม่ลืมไป แม่ยินดีรับพีทมาเป็นคนในครอบครัวนะลูก”
ภัทรพลไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจเท่านี้มาก่อนเลย อยากจะพูดอยากจะบอกออกไปก็เหมือนคนน้ำท่วมปากยิ่งประโยคที่ว่าคนในครอบครัว ยิ่งทำให้เขาคิดถึงศศินาขึ้นมา เขาเป็นครอบครัวของเธอ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีอีกครอบครัวที่อยากให้เขาเข้าไปเป็นคนในครอบครัวเพิ่มอีก
ฝั่งศศินาขณะที่กำลังทำสลัดอยู่ในครัว ได้ยินเสียงรายการทีวีช่วงข่าวบันเทิง รายงานข่าวเรื่องนางเอกสาวป่วยเป็นไข้เลือดออก ก็รีบเดิมออกมาจากในครัว หยิบรีโมทมาเร่งเสียง
“ที่มีข่าวว่านางเอกสาวดาวรุ่งน้ำหวาน นลินีป่วยเป็นไข้เลือดออกช็อกหมดสติไข้ขึ้นสูงจนต้องหามส่งโรงพยาบาลเมื่อกลางดึกของคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เหมือนจะเป็นเรื่องราวที่น่าตกใจ แต่ตอนนี้กลายเป็นเรื่องน่ายินดีไปแล้วค่ะคุณผู้ชม”
“น่ายินดียังไงคะคุณแจ๊ซซี่ ข่าวคนป่วยนะคะ”
“สวัสดีครับคุณนา ผมดีใจที่คุณนาโทรหาผม”
“พรุ่งนี้คุณติณห์ว่างไหมคะ นามีธุระอยากจะคุยกับคุณติณห์”
“ผมว่างเสมอสำหรับคุณนาครับ คุณนาสะดวกกี่โมงครับ ให้ผมไปพบที่ไหน”
ติณห์พูดด้วยน้ำเสียงดีใจ
“สักสิบโมงเช้าที่ร้านกาแฟใต้ตึกพิริยะ นาจะไปพบคุณติณห์ค่ะ”
“ได้เลยครับ ผมจะรอนะครับ”
พอวางสายจากศศินา ติณห์ก็ยิ้มอย่างยินดีเขาพบว่าหลังจากวันนั้นที่มีโอกาสไปส่งศศินาเขาก็เฝ้าแต่คิดถึงเธอ เขาเคยโทรหาศศินาหลังจากนั้นสองสามครั้งแต่ศศินาก็ไม่สะดวกคุย วันนี้เธอโทรหาเขาเอง เขารู้สึกยินดีมาก
เมื่อวางสายจากติณห์แล้ว ศศินาก็ค้นหาเอกสาร สำคัญต่างๆ ในตู้ ตรวจสอบเอกสารที่ต้องการ แล้วก็เก็บทุกอย่างใส่กระเป๋าเอกสาร ที่ต้องถือไปทำงานทุกวัน แล้วกดโทรศัพท์อีกครั้ง
“คุณพ่อคะ นามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาเดี๋ยวนาเข้าไปพบคุณพ่อนะคะ”
ศศินาเช็ดน้ำตาแล้วเดินกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหยิบกระเป๋าเอกสารแล้วเดินออกจากคอนโดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ
สงสารน้ำหวาน สงสารหนูนา ไอ้พีทคือผู้ชายเลวๆ ที่เห็นได้ทั่วไปเลยอะ...