“สมองของคุณนี่ใหญ่มากจริง ๆ” วริศเองก็ล้อเล่นเป็น เขาพูดขึ้นว่า “ไม่ไปเขียนนิยายนี่น่าเสียดายมากจริง ๆ”
เบญญาหัวเราะเล็กน้อย แล้วเชื่อมต่อบลูทูธขึ้นมา “เดี๋ยวเปิดเพลงสักเพลงให้คุณฟังนะ” เขาจะได้ไม่ขับรถไปอย่างน่าเบื่อ และรู้สึกว่าเธอเป็นภาระ
ผ่านไปไม่นาน เสียงเพลงของทอม อิศราก็ล่องลอยอยู่กลางอากาศ……
“ฉันไปที่ถนนเส้นที่เดินทางมา ยังคงมีพระจันทร์ที่ลอยอยู่ตรงเส้นปลายถนน ในทีวีกำลังถ่ายทอดเดอะบีเทิลล์อยู่……”
เบญญาพิงอยู่กับพนักเก้าอี้ หลับตาลงแล้วก็ร้องตามไปด้วย “แต่เธอคนที่เคยหลับอยู่ข้างกายฉันหายไปไหนแล้ว? โธ่ คนที่ฉันคิดถึง ในโลกมนุษย์มักจะพูดกันว่าเวลาจะทำให้ความรักจืดจาง ทำให้เลือนราง ทำให้แตกสลายไป”
เสียงของเธอไพเราะมาก และร้องได้มีอารมณ์มาก
วริศตั้งใจขับรถไป ฝนยิ่งตกก็ยิ่งหนัก ถนนทางข้างหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แล้วฟังเธอและทอม อิศราร้องเพลงไป
“ผมนึกว่าคุณจะชอบDJ” พอฟังวนจบไปรอบหนึ่ง วริศก็พูดขึ้นมา
“ห๋า?” สายตาของเธอหันไป “ทำไมล่ะ?”
“ดูจากนิสัยมั้ง” วริศพูดขึ้นมา “แล้วก็สามารถดูได้จากการแต่งตัวด้วย คุณชอบสตรีทแดนซ์ด้วยไม่ใช่เหรอ?”
“ชอบใส่เสื้อผ้าอินเทรนด์ ไม่ได้แปลว่าจะต้องชอบDJนะ” เบญญามีความสุขที่จะแบ่งปันให้เขา “พวกคุณสัมผัสได้แต่เปลือกนอกของฉันเท่านั้น ไม่ได้เข้าใจฉันจริง ๆ คุณรู้หรือเปล่าว่าฉันมีนิสัยยังไง?”
“มันก็ใช่อยู่ เพราะเพิ่งจะได้เจอหน้ากันไม่กี่ครั้งเอง” วริศเหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ” เด็กสายหันไปมองเขา “ต่อไปก็จะได้เจอหน้ากันมากขึ้นเอง แถมอาจจะยังได้เจอกันทุกวันด้วย!”
เรื่องที่เธอพูดคือเรื่องไปทำงาน?
มุมปากของวริศคลี่ยิ้มขึ้น “ไปทำงานที่ทีเอ็ม กรุ๊ป จะมาทำตัวสบาย ๆ แบบนี้ทุกวันไม่ได้หรอกนะ”
“ฉันทำตัวสบาย ๆ เหรอคะ?” เธอขมวดคิ้วขึ้นมา จากนั้นก็เหล่มองตัวเองเล็กน้อย “ก็ยังดีนะ? ฉันทำตัวสบาย ๆ ตรงไหนกัน?”
“อย่างน้อยก็ห้ามอมอมยิ้มตลอด และก็ต้องแต่งตัวให้เป็นทางการหน่อย” วริศตักเตือนเธอ “แล้วก็ทรงผม ห้ามเอาแต่ทำผมเดทร็อค และมีสีรุ้งเต็มหัวไปหมดแบบนี้”
“คุณนี่ช่างไม่รู้จักชื่นชมเลย” เบญญาอดไม่ได้ที่จะประชดเขาขึ้นมา “ภีมพลอายุเกือบจะสี่สิบแล้ว เขายังสามารถยอมรับวัฒนธรรมแบบนี้ได้เลย คุณนี่ความคิดหัวโบราณเกินไปแล้วมั้ง?”
วริศไม่พูดอะไร เขาตั้งใจขับรถไป ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่
“ยังไงก็แล้วแต่ ฉันจะฟังคำสั่งของหัวหน้าฉันค่ะ” เด็กสาวบิดฝาขวดนมรสกล้วยหอมออก แล้วยกดื่มเข้าไปในลำคอ “นี่บ้านอยู่ใกล้ทะเลใช่ไหมคะ? ดูจะยุ่งเกินขอบเขตไปแล้วนะ!”
สแกนนิ้วปลดล็อกแล้วเข้าห้องไป เธอก็พบว่าญาณีไม่อยู่บ้าน
ในห้องดูวุ่นวายเล็กน้อย พอวางขนมปังและเครื่องดื่มที่ซื้อมาให้เธอลงแล้ว นุชวราก็ไปช่วยเก็บกวาดขึ้นมา
เอาของที่ควรล้างไปล้าง ของที่ควรทิ้งก็ทิ้งไป แล้วของที่ควรเก็บก็เก็บให้เรียบร้อย
จากนั้นก็เปิดตู้เย็นออก แล้วจดวัตถุดิบที่ขาดไว้ในสมุดบันทึกเล็ก ๆ กะว่าเดี๋ยวรอฝนหยุดตกแล้วค่อยไปซื้อมาเสริมให้เธอ
ยุ่งวุ่นวายไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นมา
นุชวราไม่ได้คิดอะไรมาก เธอนึกว่าญาณีกลับมาแล้ว ก็เลยเปิดประตูออกไปเลย “พี่ญาณี!” แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อไป
ด้านนอกประตูมีชายแปลกหน้ายืนอยู่ห้าคน
นุชวรากำลังจะปิดประตูลง ก็ไม่ทันการเสียแล้ว
ชายสองคนในนั้นขวางประตูไว้ แล้วก็ผลักไปหน้าอย่างแรง
นุชวราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา เธอถูกบีบให้ชิดไปข้าง ๆ ได้แต่จ้องมองพวกเขาเดินเข้ามาต่อหน้าต่อตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก