หลังจากขึ้นไปข้างบน นภาลัยก็ใช้โทรศัพท์สืบค้นคำว่าไวศิษฎ์ ไม่คิดเลยว่าจะไม่พบอะไร
คนที่เกี่ยวข้องกับภีมพล ข้อมูลจะสะอาดหมดจดแบบนี้ได้ยังไง?
เห็นได้ชัดว่าถูกทำอะไรบางอย่าง
แต่ปวิธก็ไม่รู้ว่าไวศิษฎ์เป็นใครเหมือนกัน นี่มันแปลกมากเลยไม่ใช่เหรอ?
คนที่แม้แต่ญาณีก็รู้จัก ปวิธจะไม่รู้จักเหรอ?
แสดงว่า……พ่อบ้านปวิธโกหก?
เสียงเคาะประตูดังขึ้น นภาลัยเก็บความรู้สึกเอาไว้ เห็นพ่อบ้านปวิธเดินมาหาเธอ “คุณนาย นี่เวชระเบียนของท่านแม่ คุณภีมฝากผมเอามาให้คุณ”
“ค่ะ” เธอยื่นมือไปรับ “พ่อบ้านปวิธ คุณแน่ใจนะว่าไม่รู้จักไวศิษฎ์?”
“ไม่รู้จักครับ” ปวิธตอบอย่างใจเย็น “ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับคนคนนี้”
มีคนรับใช้ชงชามาเสิร์ฟ และขนมกับจานผลไม้ด้วย
หลังจากปวิธไปแล้ว นภาลัยก็เปิดดูเวชระเบียน และเตรียมสมุดมาจดบันทึกประเด็นสำคัญ
ลัมโบร์กีนีรุ่นลิมิเต็ดจอดใต้ตึกทีเอ็ม กรุ๊ป คนขับรถเปิดประตูรถ ภีมพลเพิ่งก้าวเท้าออกมาข้างหนึ่ง ก็ยกสายตาขึ้นเห็นไวศิษฎ์พิงเสาหินอยู่ไม่ไกล
ท่าทางกอดอกของเขา ทำให้รู้สึกเหมือนนักเลง
ภีมพลใบหน้าสงบนิ่ง เดินไปหาเขา
“นายคิดว่านายทำแบบนี้ ก็คือไม่โกรธงั้นเหรอ?” ไวศิษฎ์หัวเราะเยาะเขา “ทั้งๆ ที่โกรธ ทำไมต้องข่มไว้ล่ะ? เหนื่อยไหม?”
คิ้วหล่อดูดีของภีมพลระงับเอาไว้อย่างเข้มงวด มีความเย่อหยิ่งและสูงศักดิ์อย่างเป็นธรรมชาติ เขายืนนิ่งอยู่หน้าไวศิษฎ์
“ฉันบอกนายแล้ว ว่าฉันสนใจเธอมาก!” ไวศิษฎ์ยิ้มติดตลก จงใจยั่วยุ “นายไม่รู้ล่ะสิ? เมื่อคืนฉันพักที่บ้านเธอ!” อยากจะยั่วโมโหเขา
ใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชาของภีมพลตึงเครียดทีละนิด
ไวศิษฎ์ยิ่งยิ้มกำเริบเสิบสาน เพราะอยากยั่วโมโหเขา!
ญาณีที่อยู่ไม่ไกลออกมาจากห้องโถงใหญ่พอดี เมื่อเธอเห็นฉากนี้ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างตกใจ
รีบเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว พบว่าบรรยากาศมันผิดปกติ
“ภีมพล” ไวศิษฎ์ยิ้มอย่างทะเยอทะยาน “นายก็ชอบเธอใช่ไหม? ไม่งั้นจะไปหาเธอที่หมู่บ้านในเวลาทำงานได้ไง? เธอเป็นผู้หญิงน่ารักจริงๆ นั่นแหละ บังเอิญจังนะ ฉันก็ชอบเหมือนกัน!”
ภีมพลพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาน่ากลัว “ฉันเตือนนายไว้นะ อยู่ให้ห่างๆ เธอหน่อย” สิ้นคำพูด เขาก็เหยียดเท้าเตะออกไป ความเร็วทำให้พูดไม่ออก!
ไวศิษฎ์ถูกเตะจนสะดุดล้มเท้าชี้ฟ้า วินาทีต่อมา เขาก็ยืนขึ้นมาเหมือนปลาคาร์พตัวตรง! เหวี่ยงหมัดออกไปหาภีมพลอย่างแรง!
ภีมพลยื่นมือไปรับหมัด!
ญาณีร้องซี้ดด้วยความเจ็บ แล้วสูดอากาศเย็นเข้าไป เมื่อยืนนิ่งได้ก็กลั้นความเจ็บปวดหันดวงตาไป “ศิษฎ์ ฉันไม่เป็นไร แต่พวกนายไม่……”
“ไล่มันออกไป!” ภีมพลสั่งด้วยใบหน้าเกลียดชัง
“ไม่ต้องให้นายไล่หรอก! ฉันจะไปเอง!” ไวศิษฎ์สะบัดมือบอดี้การ์ดออก เดินไปหยุดฝีเท้าข้างๆ ญาณี “ขอโทษนะ พี่ญาณี”
“ศิษฎ์!” ญาณีอยากหยุดเขาไว้ “ศิษฎ์!” แต่หาเหตุผลที่จะให้เขาอยู่ต่อไม่ได้
เขายั่วโมโหภีมพล เขายั่วยุภีมพลไปแล้ว
สีหน้าภีมพลย่ำแย่มาก ในดวงตาปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งหนึ่งชั้น
สายตามองร่างญาณี เมื่อกี้หมัดนั้นไม่เบาเลย เธอต้องได้รับบาดเจ็บแน่นอน
“ห้องทำงานฉันมียา ไปทาสักหน่อยสิ” พูดจบ เขาก็ยกเท้าเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่
ญาณีได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ ไม่ได้รับบาดเจ็บที่เท้า จึงยังเดินได้อยู่
เธอมองทางที่ไวศิษฎ์เดินจากไป แล้วหันหลังก้าวเท้าตามภีมพลไป
ทั้งสองเข้ามาในลิฟต์ตัวเดียวกัน
ญาณีอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดไวศิษฎ์ ที่ภีมพลขาดประชุมในตอนเช้า ก็เพราะไปหานภาลัยที่หมู่บ้านซันไลต์นี่เอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก