เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 101

คฤหาสน์หลังเก่าตระกูลเซียว ใหญ่โตหรูหราโออ่า!

ภายในห้องอาหารสไตล์คลาสสิกโบราณ เวลานี้บนโต๊ะวางเรียงไปด้วยอาหารละลานตา บวกกับไวน์ชั้นเลิศราคาแพง และอาหารเลิศรสระดับภัตตาคาร!

เจ้านายของบ้านเซียวจวินเซิงนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ใบหน้าที่หล่อเหลาเยือกเย็นและสุขุม มีความน่ายำเกรงและเย่อหยิ่งมาแต่กำเนิด

ทางด้านซ้ายมือของเขาคือเซี่ยจิ่นผู้เป็นภรรยา ถัดจากเซี่ยจิ่นคือเซียวซา และที่นั่งข้างๆเซียวซายังมีสาวน้อยหน้าตาสะสวยอายุสิบแปดปีคนหนึ่ง ชื่อเนี่ยหยวน เป็นลูกบุญธรรมของพี่สาวเซียวจวินเซิง

ที่นั่งทางด้านขวามือของเซียวจวินเซิงนั้นว่างเปล่า เดิมทีเป็นที่ของเซียวเซิ่ง ถัดไปคือเอียนหยู่โรวที่นั่งตัวสั่นเทา บุคคลผู้ซึ่งไม่มีความสามารถอะไร ให้เธอนั่งอยู่ในตำแหน่งนั้น ผู้เป็นสามีก็ไม่ได้ให้การหนุนหลัง หนึ่งวันยาวนานเหมือนหนึ่งปี

“พี่ชายแกทำไมยังไม่มาอีก ?”เมื่อเซี่ยจิ่นเห็นสามีเริ่มที่จะหงุดหงิด ก็พูดกับลูกสาว“โทรถามสิ”

“ไม่ต้องถาม”น้ำเสียงของเซียวจวินเซิงแน่นิ่ง แต่กลับเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ“เรากินกันเลย”พูดจบก็หันไปที่หลานสาว“เนี่ยหยวน ที่นี่ก็เป็นบ้านของเรา อย่าทำตัวเป็นอื่นไกล”

“ค่ะ คุณน้า”น้ำเสียงของเด็กสาวนุ่มนวลและอ่อนหวาน ทำให้เซียวจวินเซิงรู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง ทุกคนต่างชอบอะไรที่สวยงาม แม้กระทั่งตัวเขาเอง ก็ไม่มีข้อยกเว้น

ทันทีที่มื้ออาหารค่ำนี้เริ่มต้น เสียงที่ไพเราะของกู่เจิงก็บรรเลงขึ้นอย่างช้าๆในห้องอาหาร ท่วงทำนองเพลงเพราะ ไพเราะเสนาะหู

เนี่ยหยวนรู้สึกสงสัยใคร่รู้ สายตาหันมองออกไป เห็นเพียงหลังม่านคริสทัล มีหญิงสาวสองคนที่กำลังเล่นกู่เจิงอยู่ สวมชุดสีขาวกับสีแดง ซึ่งสะดุดตามาก

เธออดไม่ได้ที่จะแอบประหลาดใจ แค่กินข้าวธรรมดา ในบ้านของคุณน้ายังสุนทรีย์ขนาดนี้ ดวงตาเสมองเล็กน้อย เธอหันไปยังคนเป็นน้า เพียงแวบเดียว หัวใจก็กระตุกวูบ

เธอไม่เคยเห็นผู้ชายที่มีหน้าตาและความสง่าสมบูรณ์แบบเช่นนี้มาก่อน!ใบหน้าคมคาย จมูกเป็นสันรับกับริมฝีปากที่เรียวบาง รูปลักษณ์ที่หล่อเหลายากจะหาใครเทียบนั้นไม่อาจจะละสายตามองได้ ท่าทีที่อาจหาญและน่าเกรงขาม ดูราวกับแน่นิ่งสุขุม แต่กลับมีพลังอำนาจที่น่าเกรงกลัว ทำเอารู้สึกเคารพนับถือ……

“หนูหยวน กินนี่สิ”เซียวซาเห็นเนี่ยหยวนประหม่า ก็คีบปลาปักเป้าให้เธอชิ้นหนึ่ง

“ขอบคุณค่ะพี่”

หญิงสาวสองคนมองสบตากันแล้วยิ้ม ผ่านไปสักพัก เนี่ยหยวนอดไม่ได้ที่จะมองไปยังเอียนหยู่โรวที่นั่งเยื้องกัน

พี่สะใภ้คนนี้มีใบหน้าที่ล้มเหลวจากการทำศัลยกรรม แทบอยากจะเอาเครื่องประดับทั้งหมดที่มีมาประโคมลงบนร่างของตัวเอง เครื่องเพชรที่ระยิบระยับแทบจะทิ่มตาคนให้บอด!ลักษณะท่าทางดูเชยๆและแสนจะธรรมดา ดูท่าพี่ชายคงรักเธอจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่แต่งงานกับเธอ ?

“ออกไปให้หมด เล่นเพลงอะไรฟังไม่ได้เลย”ทันใดนั้น เสียงที่เกียจคร้านและมีเสน่ห์ก็ดังขึ้น น่าฟังจนทำให้ผู้คนที่ได้ยินถึงกับต้องลุ่มหลงไปกับมัน

เสียงดนตรีหยุดลงอย่างฉับพลัน

เนี่ยหยวนช้อนตาขึ้น เห็นเพียงชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงโปร่งเดินเข้ามา หน้าตาหล่อเหลาจนแทบทำเอาหยุดหายใจ ออร่าที่มีถึงกับต้องมือไม้อ่อน ดวงตาที่ลุ่มลึกดำขลับมีพลังอำนาจซ่อนอยู่ แค่กวาดตามอง ก็สามารถจะฆ่าคนให้ตายได้ ความทรงพลังนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนเป็นน้าเลย

ต้องเป็นพี่เซียวเซิ่งแน่ๆ เนี่ยหยวนรีบลุกขึ้นยืน แล้วทักทายเซียวเซิ่ง แต่น้าเซี่ยจิ่นให้เธอนั่งลง“พี่ชายเราเขาเป็นพวกชอบหาเรื่อง เราอยู่ให้ห่างจะดีที่สุด”

“ค่ะ”เนี่ยหยวนเม้มริมฝีปากและยิ้ม ก่อเกิดความรู้สึกงดงามชวนหลงใหล

เซียวจวินเซิงบังเอิญเห็นพอดี รอจนเธอหยุดยิ้ม ก็จึงกวาดตาสีเหลืองอำพันไปยังผู้เล่นดนตรี สั่งเสียงเข้ม“เล่นต่อไป”

“ค่ะ”คนเล่นดนตรีพยักหน้า ท่วงทำนองอันไพเราะก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทำเอาผู้ได้ยินจิตใจเบิกบาน

คิ้วที่คมคายของเซียวเซิ่งเลิกขึ้น ยกยิ้มจางๆ ทำเอาผู้คนต่างตื่นตะลึง ความหล่อเหลานี้ราวกับจะสามารถกระชากจิตวิญญาณของคนทุกคนไปได้

แต่ทุกคนรู้ ว่ารอยยิ้มนี้ไม่ธรรมดา จู่ๆบรรยากาศภายในห้องก็ตึงเครียดขึ้นมาไม่น้อย ทุกคนต่างอกสั่นขวัญแขวน กลัวว่าพ่อลูกจะปะทะกันขึ้นมาอีก

เซี่ยจิ่นหันมองไปยังเอียนหยู่โรวอย่างเย็นเยือก ผู้หญิงไม่ได้เรื่อง แม้แต่สามีที่เพิ่งจะแต่งงานก็ควบคุมดูแลไม่อยู่

และจู่ๆเอียนหยู่โรวก็สบเข้ากับสายตาที่เฉียบคมและรังเกียจของแม่สามี ตกใจจนตัวสั่นงันงก ตะเกียบที่ถืออยู่ก็หลุดร่วงออกจากมือ รู้สึกที่บริเวณลำคอมีใบมีดที่แหลมคมวางอยู่ และพร้อมจะตัดฉับมันได้ทุกเมื่อ

“คุณเซียว คุณนายเซียว ต้องขอโทษจริงๆค่ะ”นักดนตรีสองคนหวาดกลัวจนเข่าแทบทรุด คนอื่นอาจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอสองคนรู้ดี เมื่อครู่ตอนที่คุณชายเซียวเดินไป มีดพับเล่มนั้นตัดเครื่องสายดนตรีของพวกเธอจนขาด แต่พวกเธอไม่กล้าพูดความจริง

“ช่างมัน พวกเธอออกไปก่อนแล้วกัน ไปรับค่าจ้างที่พ่อบ้านไป”ใบหน้าเซี่ยจิ่นยิ้มแย้ม ไม่ได้คิดจะตำหนิเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอรู้ดี ว่าคงต้องเป็นฝีมือของลูกชายตัวดีของตัวเองเป็นแน่ เธอจะทำอะไรได้ เธอเองก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน

การประจันหน้ากันของสองคนพ่อลูก กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ในรอบแรก เซียวเซิ่งชนะนำไปก่อน

โชคยังดีที่ชายทั้งสองคนนั้นต่างก็เป็นคนพูดน้อย กินของใครของมัน การขบเคี้ยวอาหารนั้นก็ยิ่งจะสง่างามแข่งกันไปอีก คนอื่นๆไม่มีใครกล้ากินมากเท่าไร เกรงว่าจะมีเรื่องน่ากลัวอะไรเกิดขึ้นอีก

มีบ้างที่เสียงวางแก้วไวน์ของเซียวเซิ่งจะดังขึ้นมาให้ได้ยิน สุภาพสตรีทั้งสี่คนก็ถึงกับเสียวสันหลังวาบ ต่างอยู่ในสภาวะวิตกกังวลอยู่ตลอด

จนในที่สุด อาหารมื้อนี้ก็ใกล้จะแล้วเสร็จ เซี่ยจิ่นอยากจะจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อย “นายเซิ่ง วันนี้เรากับเอียนหยู่โรวพักกันที่นี่แล้วกัน และรีบมีลูกกันเร็วๆได้แล้ว”

“แม่ เรื่องนี้แม่ยังต้องเข้ามายุ่งด้วยเหรอ ? หากยังพูดเรื่องนี้อีก ผมไม่กินแล้วนะ ”เซียวเซิ่งมองไปที่คนเป็นแม่อย่างนึกรังเกียจ แล้วกินอาหาร และเครื่องดื่มของตัวเองต่อ ราวกับไม่ได้สนใจอะไร

แน่นอนว่าเซี่ยจิ่นย่อมอยากจะให้ลูกชายนั้นกินเยอะๆ ก็จึงปิดปากเงียบในทันที

“ดูท่าแกคงไม่ยินยอม”แต่แล้วเซียวจวินเซิงก็เอ่ยพูดออกมา คำพูดนั้นพูดกับคนเป็นลูกชาย แต่ไม่ได้หันมองมาที่เขา“ได้ยินว่าพวกแกยังไม่ได้ร่วมหอลงโรงกันงั้นเหรอ ?”

เซียวซากับเนี่ยหยวนสองสาวที่ยังโสด เมื่อได้ยินหัวข้อสนทนานี้ ก็เขินอายขึ้นในทันที ก้มหน้าลงแล้วแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน

เซียวเซิ่งวางภาชนะลงบนโต๊ะและหยุดกินในทันที เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ พูดเสียงเรียบ“เอียนหยู่โรวยังเป็นสาวบริสุทธิ์”

พรืด!

เซี่ยจิ่นแทบกระอักเลือด เจ้าลูกคนนี้……จะให้หัวใจวายตายกันให้ได้เลยหรือยังไง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น