“หลินเซวียน บัตรของผมอยู่ในลิ้นชักขวาของโต๊ะ คุณรู้ว่าที่ไหน”
จะใช้คนก็อย่าระแวงหากระแวงก็อย่าใช้เขา สวี่เจียนไม่มีเรื่องที่ต้องปิดบังหลินเซวียน และไม่กังวลว่าเธอจะหักหลังตัวเอง“รหัสเป็นวันเกิดของเสี่ยวเนี่ยนกับเอี๋ยนต้าฟา ผมจะเขียนวันเกิดของเขาสองคนให้ คุณโอนเงินให้อูเจินจูไปก่อนแล้วกัน”
“อืม”หลินเซวียนตอบรับอย่างรู้สึกผิดไปคำหนึ่ง เธอเคยใช้ระบบของสำนักงานตรวจเช็กเส้นทางที่ไปของอูเจินจู แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรของคนทั้งสองเลย และไม่รู้จะรายงานกับผู้บัญชาสวี่ยังไง
อูเจินจูเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลโดยไม่ได้ใช้ชื่อของตัวเอง ส่วนเอี๋ยนต้าฟาได้เปลี่ยนชื่อเป็นเซียวอู๋เหินไปนานแล้ว หากตรวจหาอะไรเจอก็บ้าแล้ว เซียวเซิ่งเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว สวี่เจียนจะเอาอะไรไปสู้เขา แล้วนับประสาอะไรกับคนตัวเล็กๆอย่างหลินเซวียนนี้อีก?
หลังจากที่ออกมาจากสำนักงานตำรวจ หลินเซวียนขับรถตรงไปที่บ้านของอูเจินจู เคาะประตูอยู่หลายสิบครั้ง ก็ไม่มีใครตอบรับ
เธอถอนหายใจแล้วเดินลงบันไดไป สวนทางกับชายคนหนึ่ง ชายคนนี้เธอรู้สึกคลับคล้ายคลับคลา เพราะทุกครั้งที่เขามาก็มักจะมีของเล่นเด็กติดมือมาด้วย
เดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆชายคนนั้นก็หยุดลง และเอ่ยถามเธอ“นี่แม่หนู เรามาหาอูเจินจูเหรอ ?”
“ค่ะ”หลินเซวียนหันกลับไปมอง เห็นเพียงชายที่อายุราวๆห้าสิบปีได้ รูปร่างสูงใหญ่ บุคลิกดี เมื่อเทียบกับคนในวัยเดียวกันรูปลักษณ์ก็ถือว่าค่อนข้างจะโดดเด่น
“ฉันก็มาหาเธอเหมือนกัน”ใบหน้าของชายคนนี้เต็มไปด้วยความกังวล“อูเจินจูเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวฉัน ลูกสาวฉันกับหลานชายของฉันพักอาศัยอยู่ที่บ้านของเธอ แต่บ้านของเธอไม่มีใครเลย ไม่รู้ว่าลูกสาวของฉันไปอยู่ที่ไหน ฉันเป็นกังวลใจมาก”
หลินเซวียนเข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ชายคนนี้เป็นพ่อของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน จะบ้าตาย คุณพ่อคนนี้ช่างทึ่มจริงๆ ลูกสาวไปอยู่วิลล่าตระกูลเซียวได้เป็นเดือนแล้วยังไม่รู้เรื่องอีก
“คุณแน่ใจเหรอคะว่าอูเจินจูไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่?”
“ครึ่งเดือนมานี้ ฉันจะแวะมาดูที่นี่ทั้งเช้าและเย็นทุกวัน แต่ก็ไม่เจอใครเลย”เอี๋ยนจื้อโก๋วถอนหายใจ“ไม่รู้ว่าหายตัวไปไหนหรือเปล่า”
“สงสัยว่าหายตัวไป คุณไปแจ้งความได้นะคะ”หลินเซวียนพูดเตือน
“เฮ้อ ลูกสาวของฉันชอบคิดอะไรเอง มีอะไรก็ไม่คุยกับฉัน หากเธอไปเที่ยวเล่นที่ไหน ฉันไปแจ้งความจะไม่ทำเธอโกรธเอาเหรอ ? ”เอี๋ยนจื้อโก๋วพูดอย่างจนใจ
เมื่อสี่ปีก่อน ลูกสาวก็จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ บวกกับภรรยาที่อารมณ์ร้าย เขาทำได้แค่แอบมาดูลูกเท่านั้น ไม่กล้าให้เธอนอนพักค้างที่บ้าน
“มีพ่อแบบนี้ ลูกสาวจะดีได้ก็แปลกแล้ว”หลินเซวียนอดไม่ได้ที่จะบ่นอย่างหงุดหงิด แล้วเดินจากไปอย่างไว
เอี๋ยนจื้อโก๋วยังไม่คิดถอดใจ เดินไปที่หน้าห้องของอูเจินจู เคาะประตูอยู่หลายครั้ง ส่องไปที่ประตูตาแมวแล้วมองลอดเข้าไปยังด้านใน จู่ๆเขาก็คิดไปถึงคืนวันแต่งงานของลูกสาวคนโต——
เคยมีคนมาหาเสี่ยวเนี่ยนกลางดึก แล้วยังตีเขาจนหมดสติไป บวกกับโรคหลอดเลือดหัวใจกำเริบ ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลกว่าครึ่งเดือน หวงฟางก็ไม่ให้เขาเอ่ยพูดถึงเสี่ยวเนี่ยนอีก เรื่องนี้ก็จึงเงียบไป……
หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล สิ่งแรกที่เขาทำคือซื้อผลไม้กับของเล่นไปเยี่ยมลูกสาวคนเล็กกับหลานชาย และก็ถึงได้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาเองก็อยากจะออกตามหาเหมือนกัน แต่มืดแปดด้าน ไม่รู้จะไปตามหาจากที่ไหน?
หลังจากที่ออกจากบ้านของอูเจินจู หลินเซวียนมาหยุดอยู่ตรงที่ประตูธนาคารแห่งหนึ่ง ถือบัตรธนาคารของสวี่เจียนเอาไว้ ต้องรู้ก่อนไหมว่าในนี้มีเงินอยู่เท่าไร กลัวว่าถึงเวลาเงินมันขาดหายไป ตัวเองคงไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังไง
แต่เมื่อตรวจเช็กแล้ว ทำเอาเธออารมณ์เสียอยู่ไม่น้อย นี่ผู้บัญชาสวี่คิดจะเล่นอะไรกับเธอ ? บัตรที่มีเหล่านี้ยอดเงินที่มากที่สุดก็แค่125หยวนเท่านั้น เล่นอะไรของเขากัน ?
เมื่อมาขบคิดดูอีกที สวี่เจียนไม่ใช่คนที่ชอบพูดเล่นอะไรแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นจึงมีความเป็นไปได้เดียวนั่นก็คือ……
หลินเซวียนตรวจเช็กบันทึกการทำธุรกรรม พบว่าเงินในบัญชีเหล่านี้ถูกโอนออกไปในวันเดียวกัน อีกทั้งบัญชีทั้งหมดของสวี่เจียนก็อยู่ในสถานะถูกระงับการใช้งาน ทำอะไรไม่ได้
หากเดาไม่ผิด คงเป็นแม่ของเขาจงเสี่ยฮวาที่โอนเงินพวกนี้ออกไป ไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้ นี่มันจะบีบบังคับกันอย่างนี้เลยเหรอ คาดว่าสวี่เจียนคงต้องเดือดเป็นฟืนเป็นไฟอีกแล้ว
จู่ๆหลินเซวียนก็รู้สึกโล่งใจ ตอนนี้เธอไม่ต้องถอนเงินไปให้อูเจินจูแล้ว แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปก่อน รอสวี่เจียนมาจี้ก็ค่อยบอกแล้วกัน
บนถนนที่กว้างใหญ่ มีรถออฟโรดสุดหรูสีดำคันหนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล
เซียวเซิ่งมาถึงที่โรงพยาบาลก่อน หลังจากที่จอดรถเสร็จ รถของฉู่หยู้ซีก็มาถึงพอดี
เขาโผล่หัวออกมาจากตัวรถ อยากจะเยาะเย้ยเซียวเซิ่งสักหน่อย แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรออกไป เซียวเซิ่งก็ปรี่เข้ามา ลากดึงเขาลงมาจากรถ จากนั้นก็เอาตัวเอียนหยู่โรวออกมา แล้วยัดไปที่อ้อมแขนของเขา การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างลื่นไหล
“น้ำเชื่อม ถิ่นของนายนายไปจัดการให้ที นายพาเธอไปหาหมอ ฉันจะช่วยนายเอารถไปจอดเอง รบกวนแล้ว ไว้จะเลี้ยงข้าวนะ”พูดจบเซียวเซิ่งก็มุดเข้าไปในรถ แล้วขับออกไปเพื่อหาที่จอดรถในทันที
ฉู่หยู้ซีถูกสั่งฉอดๆ โกรธจนอยากจะสบถด่า“นี่มันเมียของนาย ยังคิดจะเลี้ยงข้าวฉันอีกเหรอ?ใครกันที่ติดป้ายไว้หน้าบ้านว่า‘ห้ามฉู่หยู้ซีกับสุนัขเข้าไปข้างใน’?”
พอจะใช้งานก็เรียกหาพอหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง ไอ้หมอนี่มันพ่อค้าหน้าเลือดชัดๆ~
“ซี้ด เจ็บ……”เอียนหยู่โรวกอดเอวของฉู่หยู้ซี ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ คอยแต่จะถูไถไปมาที่หน้าอกของเขา ราวกับทำแบบนี้แล้วมันจะเจ็บน้อยลง
“โธ่ พี่สะใภ้ ไม่ต้องร้องแล้ว”ฉู่หยู้ซีถูกถูๆไถๆไปมาจนรู้สึกอึดอัด ก้มมองเอียนหยู่โรว มุมปากมีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย“ผมแตกต่างกับเซียวเซิ่งผู้ชายไม่เอาไหนคนนั้น ผมเป็นพวกทะนุถนอมอ่อนโยนกับผู้หญิง พี่สะใภ้ผมจะอุ้มคุณ อย่าถูๆไถๆกันอีกเลย หากล้มหงายกันไปจะลำบากทั้งคู่”
พูดจบก็ยิ้มอย่างซุกซน อุ้มเอียนหยู่โรวขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วเดินไปที่ลิฟต์“ของของคุณมันแตกได้ยังไง ? บอกเล่าสาเหตุให้ฟังหน่อย ”
เอียนหยู่โรวอ้ำๆอึ้งๆอยู่นาน จะบอกว่าตัวเองไปล่วงเกินเซียวเซิ่ง แล้วถูกถีบคงไม่ได้ แบบนั้นมันขายหน้าเกินไป?
ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เธอยกมือขึ้นมา หยั่งเชิงแตะไปที่แก้มของฉู่หยู้ซี แล้วพูดอย่างออดอ้อน“ซี จูบฉันสิ แล้วฉันจะบอก”
ใบหน้าฉู่หยู้ซีแข็งค้าง ก้มมองเอียนหยู่โรว เห็นเพียงดวงตาที่สุกใสของเธอมองตรงมา นัยน์ตามีความกำหนัดอย่างเต็มเปี่ยม ยั่วยวนอย่างเต็มที่ อดไม่ได้ที่จะสบถในใจว่าให้ตายเถอะ นี่ขนาดเจ็บตัวแล้วยังไม่คิดจะหยุดอีก?
“ดูท่า เซียวเซิ่งคงไม่ได้ให้คุณกินอย่างเต็มอิ่ม”
“ซี นายนี่มันร้ายจริงๆ~”จู่ๆเอียนหยู่โรวก็โอบไปที่ลำคอของฉู่หยู้ซี มองไปยังริมฝีปากของเขาที่สวยกว่าของผู้หญิงอย่างใจจดจ่อ……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น