เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 116

รถส่งของไปส่งถึงที่มายด์ฮาร์ท วิลล่าก่อนอาหารเย็นเหมือนปกติ

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอาศัยโอกาสในการออกกำลังการช่วงกลางคืน เอาจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วม้วนเป็นม้วนกระดาษเล็กๆ แล้วโยนไปในพุ่มไม้ หลังจากนั้นก็แสร้งทำเป็นชวนคุยกับพี่ชายคนที่มาส่งของ

และไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน คืนนี้พี่ชายที่มาส่งของดูจะเป็นกังวลอยู่บ้าง เอ่ยพูดขึ้นกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างขอโทษ : “เกรงว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฝากจดหมายของพวกคุณแล้วนะ ถึงแม้ว่าผมอยากจะช่วยพวกคุณมาก แต่ผมก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามก็ไม่กล้าที่จะล่วงเกินคุณเซียวหรอกครับ”

ความจริงแล้วคืนนี้ในใจของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่เช่นกัน รู้สึกว่าจะเกิดเรื่องขึ้น ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็มองเขาอย่างขอบคุณ “ขอบคุณมากนะคะ ต่อไปถ้าฉันหลุดพ้นจากที่นี่ไปได้ ฉันจะต้องขอบคุณคุณอีกอย่างแน่นอน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ภูมิใจที่ถือว่าเคยเป็นสายลับให้ตำรวจมาเหมือนกัน ลาก่อนครับ” พี่ชายขึ้นรถแล้วออกไปจากวิลล่าตระกูลเซียว และเพิ่งจะเลี้ยงโค้งไปนั้นก็ถูกลัมโบร์กีนีคันสีแดงบังคับให้หยุดรถลง

เอียนหยู่โรวยื่นศีรษะออกมา พลางเอ่ยพูดขึ้นกับเขาด้วยเสียงที่เยาะเย้ย “นายกล้านี่ กล้าสมคบคิดกับผู้หญิงของคุณเซียว!”

“คุณพูดอะไรน่ะ?” คนขับรถส่งของดูงุนงงอยู่บ้าง “ผู้หญิงของคุณเซียว? คุณหมายถึงคุณผู้หญิงคนนั้นเหรอครับ? เธอไม่ใช่ว่าเป็นน้องสาวของคุณเหรอ ทำไมถึงได้เป็น.....”

“น้องสาวยั่วยวนพี่เขยก็มีไม่น้อยนี่? ลงมา แล้วขึ้นมาบนรถฉัน ฉันจะชี้ทางที่จะรอดชีวิตให้นายเอง”

คนขับรถรู้สึกดูลุกลี้ลุกลนอยู่บ้าง หยิบโทรศัพท์มือถือจะโทรหาหลินเซวียน ใครจะรู้ว่าจะพบว่าตัวเองนั้นไม่มีเบอร์โทรของหลินเซวียน! และนี่ก็ไม่มีวิธีแล้ว ทำได้เพียงต้องขึ้นรถของเอียนหยู่โรวไป

หวงฟางแม่ลูกขับรถมาตรงที่เปลี่ยว ตลอดทางก็เล่าถึงความสัมพันธ์ที่ร้ายแรงกับคนขับรถ พลางพูดข่มขู่ขึ้นอีกครั้ง “นายคิดให้ดีนะ เซียวเซิ่งไม่ได้ยั่วได้ง่ายๆขนาดนั้น นี่มันเกี่ยวกับชีวิตของนายกับครอบครัวเลยนะ!”

คนขับรถบรรทุกส่งของได้ยินแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก รู้สึกได้ถึงว่าการที่ตัวเองช่วยส่งจดหมายนั้นเป็นความผิดที่มากเกินไปจริงๆ เขาไม่กล้าจะเสียเวลาอีก จึงทำตามคำชี้แนะของเอียนหยู่โรว ขับรถไปที่เอ็นซี ข้ามชาติ กรุ๊ป เตรียมตัวไปรายงานเซียวเซิ่งถึงความผิดของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกับสวี่เจียน

ออฟฟิศประธานเอ็นซี

จะถึงเวลาอาหารมื้อค่ำแล้ว เซียวเซิ่งนั่งอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานอันหรูหราด้วยท่าทางที่สง่างาม แขนข้างหนึ่งวางอยู่ตรงที่วางแขน ส่วนอีกมือหนึ่งนั้นก็กำลังเลื่อนโทรศัพท์มือถือดูรูปที่ลูกชายส่งมา มุมปากเย็นชานั้นยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆขึ้นมาเป็นบางครั้ง

กับลูกชายที่รับมากลางคันคนนี้ เขาก็รู้สึกรักมาก เอี๋ยนต้าฟาฉลาด และมีอีคิวสูง ได้รับความรักจากคุณครูและพวกเพื่อนๆ ทุกคนต่างก็ชื่นชมกันดีมาก ตรงจุดนี้เหมือนกับคุณปู่เซียวจวินเซิงเป็นอย่างมาก

ขณะที่กำลังคุยผ่านวิดีโอกับลูกชายอยู่นั้น จู่ๆฉู่หยู้ซีก็มา บอกว่ามาหาเขาไปสนามยิงปืน เซียวเซิ่งอารมณ์ดี จึงไม่ได้เคืองฉู่หยู้ซีด้วยเช่นกัน วางโทรศัพท์มือถือลง แล้วหยิบแก้วขึ้นมารินน้ำชาให้เขาด้วยตัวเอง

ฉู่หยู้ซีเหลือบมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเซียวเซิ่งอย่างไม่ทันระวัง ก็เห็นน้ำทะเลพุ่งเข้ามาในหน้าจอพอดี เขาคิดว่าเซียวเซิ่งกำลังดูหนังภัยพิบัติจึงไม่ได้สนใจเช่นกัน

เซียวเซิ่งยื่นน้ำส่งให้เขา ริมฝีปากยกขึ้นอย่างหยอกล้อ “จะไปยิงปืนอีกแล้ว ดูแล้วนี่เลิกกับแฟนมาอีกแล้วสิ?” ทุกครังที่ฉู่หยู้ซีเลิกกับแฟนก็จะมาหาเซียวเซิ่งไปยิงปืนที่สนามยิงปืน จนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว

“เลิกแล้ว” ฉู่หยู้ซีมองพิจารณาเซียวเซิ่ง เห็นว่าเขาไหล่กว้างเอว ดูองอาจไม่ธรรมดาแล้ว จึงเอ่ยขึ้นมาอย่างหยอกล้อ “รูปร่างหน้าตาดีอย่างนายแบบนี้ แม้แต่ฉันเห็นแล้วยังหน้าแดง ถอนตัวไม่ได้แล้วเลย ทำไมยังจัดการกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่ได้ซักที?”

“พูดเหลวไหลให้น้อยๆหน่อย” เซียวเซิ่งนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน เสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวห่อหุ้มร่างของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบมากจริงๆ “ไม่ใช่ว่าฉันบอกแล้วรึไง ว่าไม่ให้นายพูดถึงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจนะ”

ฉู่หยู้ซีนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้าม แล้วหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้แคร์นัก “อย่าขี้เหนียวขนาดนั้นสิ ถ้าหากว่านายจัดการไม่ได้ ฉันช่วยนายได้นะ”

“ไม่ต้อง เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนยังค่อนข้างเชื่อฟังอยู่” เมื่อพูดถึงถึงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแล้ว ในใจของเซียวเซิ่งก็รู้สึกหวานขึ้นมา ถึงแม้ว่าเด็กนั่นจะไม่ได้ดีกับเขานักก็ตาม

โอเล่ย์เข้ามาส่งอาหาร ได้ยินท่านประธานเอ่ยชมเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแล้ว ก็รู้สึกตกใจเสียจนแทบจะล้ม อย่างเธอนั่นเรียกว่าเชื่อฟังอย่างนั้นเหรอ?

“คุณชายฉู่มาแล้วเหรอครับ?”

“อืม” ฉู่หยู้ซีมองยังโอเล่ย์ แล้วหัวเราะแล้วหยอกล้อขึ้น “ดูเจ้านายของนายสิมีความสามารถขนาดไหน จีบใครก็สามารถจีบทั้งน้องสาว ลูกพี่ลูกน้องของเขามาได้ แต่ว่า โอกาสที่จะถูกสวมเขาก็มีมากเหมือนกันนะ”

เด็กหนุ่มไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา “คุณเซียวครับ ขอโทษด้วยนะครับ ต้องขอให้คุณเชิญให้คนอื่นๆออกไปก่อน ผมถึงจะสามารถพูดได้”

เห็นว่าท่านประธานพยักหน้าลงเล็กน้อยแล้ว โอเล่ย์จึงทำสัญลักษณ์มือให้กับฉู่หยู้ซี “คุณชายฉู่ เชิญทางนี้ครับ”

ฉู่หยู้ซีแสร้งทำเป็นไม่เห็น และไม่ได้ยิน ถือจานอาหารจานหนึ่งเอาไว้ แล้วมานั่งลงข้างๆเซียวเซิ่งอย่างไม่มีความละอาย ก้มหน้าลงจับอาหารเอาไว้ แสดงให้เห็นว่าจะไม่ไป

โอเล่ย์จนปัญญา เพียงส่งสัญญาณบอกกับเด็กหนุ่มว่าไม่เป็นไร เด็กหนุ่มยื่นกระดาษออกมาอย่างรู้สถานการณ์ “คุณเซียวครับ ผมเองก็ไม่ได้มีเรื่องอื่น นี่เป็นของคุณเอี๋ยน ขอให้คุณดูด้วย ผมขอตัวออกไปก่อนนะครับ”

พูดจบแล้วก็รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยท่าทางที่กลัวว่าจะเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยน

แขนทั้งสองข้างของเซียวเซิ่งกอดอกเอาไว้ มองดูกระดาษเล็กที่ถูกม้วนเป็นไม้จิ้มฟันด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ คนที่ฉลาดเป็นพิเศษอย่างเขา พอจะคาดเดาอะไรได้แล้ว : จดหมายฉบับนี้จะต้องเป็นของสวี่เจียนอย่างแน่นอน

โอเล่ย์เองก็เดาได้แล้วเช่นกัน กำมือเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น หวังเพียงแค่ว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนั้นอย่าเล่นกับไฟ อย่าได้มาสัมผัสกับขีดความอดทนที่มีอยู่จำกัดของท่านประธาน มิเช่นนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาจะไม่ใช่สิ่งที่เธอจะยอมรับได้

“เปิดออกดูสิ นายไม่ดู ฉันดูนะ” ฉู่หยู้ซีวางจานอาหารลง แล้วยื่นมือออกมา

เซียวเซิ่งเร็วกว่าเขาหยิบกระดาษนั้นมา เสียเวลาไปมากถึงจะสามารถแกะออกมาได้โดยไม่ให้เสีย และทันใดนั้นเอง จู่ๆเขาก็ไม่อยากจะดูแล้ว ไม่อ่านแล้ว.....

“แกะออกมาแล้วทำไมไม่อ่านล่ะ? มีอะไรที่เป็นลับลมคมนัย?” ฉู่หยู้ซีคอยยุยงอยู่ข้างๆ มือหนึ่งถือกระดาษแผ่นนั้นแล้วเริ่มอ่าน “พี่คะ ได้รับจดหมายแล้ว ฉัน - -” คิดถึงพี่

“อือ จดหมายรัก? เชรด~เมื่อกี้เพิ่งจะพูดถึงเรื่องสวมเขาไปเอง~” ฉู่หยู้ซียิ้มออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก “เด็กน้อยนี่ไม่เลวเลยนี่ ดึงดูดจากข้างนอกมาได้อีกคนแล้ว”

โอเล่ย์ส่ายหน้ากับเขาอย่างตกใจ แล้วมองไปยังใบหน้าซีดๆของท่านประธาน ส่งสัญญาณให้อย่ามากระตุ้นความโมโห เดี๋ยวฝ่ามือฟาดลงใบหน้าเขาแล้วจะยิ่งแย่.....

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น