เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 153

ฉู่หยู้ซีโมโหเสียจนโยนกางเกงในนั้นทิ้งลงไปบนพื้น เขาเงยหน้ามองดูข้างบน “แปะ!” เสื้อชั้นในตัวหนึ่งตกลงมาบนหน้าเขา

ครั้งนี้เขามองเห็นได้ชัดเจนว่ามันถูกโยนลงมาจากหน้าต่างห้องของเซียวเซิ่ง “ดี ดีมาก!”

ฉู่หยู้ซีหัวเราะเยาะ แม้ว่าเขาจะเป็นเพื่อนสนิทของเซียวเซิ่ง แต่เรื่องของผู้หญิงอันเป็นที่รักนั้นเขาจะไม่เกรงใจแน่ ในวันนี้เขาจะเปิดโปงธาตุแท้ของเซียวเซิ่งว่าเป็นคนแบบไหน ทำให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหนีห่างจากเขาไป

“ติ้ง!” ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก ฉู่หยู้ซีก้าวเข้ามา......

“นังผู้หญิงไร้ประโยชน์!”

ส่วนในห้องทำงานของประธาน ถังเหวยกัดฟันกรอด จากนั้นผลักแขนของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนให้ออกไปข้างนอกห้อง “ออกไป ไปเก็บเสื้อผ้ามาให้ฉัน!”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถูกผลักไปที่หลังประตู ขาของเธอสะดุดจนแทบจะลงลง

“เหอะๆ ไร้ความสามารถสิ้นดี......” น้ำเสียงของถังเหวยหัวเราะขึ้น “ดูท่าทางอันบอบบางของเธอนี่สิ ระวังนะจะถูกเลขาโอทรมานจนตายคาเตียง......โอ้ย!”

ยังไม่ทันไรเธอก็ถูกใครคนหนึ่งกระชากผมไปด้านหลัง จากนั้นก็โดนเตะจนกระเด็นออกไปตรงประตู

ฉู่หยู้ซีวิ่งตรงออกมาจากลิฟต์ เมื่อเดินมาถึงปากประตูห้องทำงานประธานก็ได้ยินเสียงดัง “ปึง!” จากนั้นก็พบร่างสีขาวผ่องพุ่งกายออกมา เขารีบหลบอย่างชาญฉลาด ทำให้ถังเหวยล้มลงสู่พื้นด้วยท่าทางอันน่าสมเพช หน้าอกของเธอถูกกิ่งไม้จากกระถางดอกไม้แทงจนเลือดออก

ฉู่หยู้ซีชะงักลง ด้วยวิสัยทัศน์ของหมอเขามองไปวัดขนาดของเธอ “อืม ดูเหมือนไม่ใหญ่เท่ากับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน”

“อีตาบ้า โอ้ย......โอ๊ย!” เธอเจ็บปวดเสียจนยกมือขึ้นกุมหน้าอกแล้วนำกิ่งไม้ที่ปักคาดึงออก เธอพบว่าเสื้อชั้นในที่อยู่ในมือของฉู่หยู้ซีดูคุ้นตา จึงได้รีบแย่งมันไปแล้วหนีอย่างรวดเร็ว

“เซียวเซิ่ง ฉันมาเเล้ว!” ฉู่หยู้ซีผลักประตูแล้วตรงเข้าไปในห้องทำงานด้วยท่าทางอันดุดัน แต่กลับพบว่าคนที่อยู่ในห้องไม่ใช่เซียวเซิ่ง เขาชะงักลงก่อนจะตกตะลึง “อ้าว......เสี่ยวเนี่ยนของเรานี่เอง”

“ค่ะ”

เอ่อ เรื่องนี้เริ่มจริงจังขึ้นมาแล้วสิ ฉู่หยู้ซีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดูเหมือนอกหักว่า “เธอกับเเม่สาวน้อยคนนั้น ตีฉิ่งกันเหรอ?”

“ไม่ใช่นะคะ!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจ้องไปที่เขาด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอ “ฉันไม่มองคนประเภทนั้นหรอก อีกอย่าง ความชอบของฉันปกติดี”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” ฉู่หยู้ซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะมองซ้ายมองขวา “ว่าแต่เธอมาที่นี่ได้ยังไง แล้วเซียวเซิ่งล่ะ?”

“ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนั่งลงบนโต๊ะทำงานด้วยความโมโห “ฉันทำงานที่นี่ คอยทำความสะอาดห้องทำงานให้กับท่านประธาน”

“บัดซบ ไอ้เซียวเซิ่งกล้าให้เธอทำงานหนักแบบนี้ได้ยังไงกัน ไปกับผมเถอะครับ!” ฉู่หยู้ซีจูงมือเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนแล้วเดินตรงออกไป “นี่ก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว ผมพาเธอไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปคิดบัญชีกับเซียวเซิ่ง”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกำลังโมโหจึงไม่ได้ ต่อต้านอะไรเขา เธอตรงขึ้นไปบนรถของฉู่หยู้ซีด้วยความว่าง่าย

“เสี่ยวเนี่ยน เรากินอาหารตะวันตกหรืออาหารจีนกันดี” ตอนนี้เมื่อมีสาวงามอยู่ข้างกาย ฉู่หยู้ซีจึงรู้สึกดีใจและอารมณ์ดี ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“อะไรก็ได้ค่ะ” รถนั้นขับเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปที่ทิวทัศน์ด้านนอกหน้าต่างแล้วตอบรับออกมาอย่างใจลอย

“วันแห่งความรัก ฝนตกพรำ ภาพเธอเลือนรางดั่งความฝัน......”

ฉู่หยู้ซีกำลังจะแนะนำสถานที่ดี ๆ ให้กับเธอ ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ดังขึ้น เพลงที่ดังนั้นทำให้อารมณ์ของเธอจงดิ่งลงอีกครั้ง

ความเศร้าโศกปรากฏขึ้นในดวงตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ทำให้เธอแทบจะลืมรับสาย

เสียงเพลงดังขึ้นอีกครั้ง ฉู่หยู้ซีจอดรถที่ข้างทางแล้วเปิดกระเป๋าของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาวางแนบไปที่หูของเขา เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนหลับตาลงเธอไร้เรี่ยวแรงที่จะพูด

“เสี่ยวเนี่ยนน้อย”

แสงไฟนีออนจากนอกหน้าต่างรถกะพริบ แสงสลัวมองไปเป็นฉากพลุกพล่าน ฉู่หยู้ซีเพลิดเพลินกับคนในบรรยากาศ ณ ตอนนั้น แล้วหันไปมองดูเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน จิตใจของเขาอบอุ่นขึ้นทันใด

ตอนนี้เธอติดอยู่ในเงามืด ใบหน้าของเธอมองไปไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ใบหน้าภายนอกนั้นช่างงดงามเป็นพิเศษ แต่ไหนแต่ไรมาฉู่หยู้ซีไม่ชอบผู้หญิงผมสั้นเลย แต่เมื่อมาเจอกับเสี่ยวเนี่ยน ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว

ผู้หญิงผมสั้นก็สวยไม่น้อย!

เกรงว่าเธอนอนหลับแบบนี้จะไม่สบาย ฉู่หยู้ซีจึงได้เปิดประตูแล้วอุ้มเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้าไปในร้านอาหาร จองห้องวีไอพีส่วนตัวไว้ห้องหนึ่ง

เพื่อนสนิทของเขาเสิ่นฉือและมู่หยวนก็กินอาหารอยู่ที่นี่ด้วย เมื่อพบว่าฉู่หยู้ซีอุ้มผู้หญิงเดินตรงเข้ามา มู่หยวนก็เอ่ยขึ้นทักทาย

เสิ่นฉือเช็ดไม้เช็ดมือเดินตรงเข้าไป เมื่อพบว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดของฉู่หยู้ซีนั้นเป็นผู้ชาย เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขาค้นพบข่าวใหญ่เข้าแล้ว

เขาไม่ได้โง่ที่คิดว่าคนผมสั้นจะต้องเป็นผู้ชาย แต่กลับรู้สึกสนุกสนานจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปสองสามไปส่งไปให้เซียวเซิ่ง ทั้งยังเขียนอีกว่า “เซิ่ง ดูสิ ฉู่หยู้ซีมันบ้าไปแล้ว ฉันกลัวจังเลย เขาจะทำอะไรฉันหรือเปล่าเนี่ย?”

เดิมทีฉู่หยู้ซีตั้งใจจะออกเดทกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเป็นการส่วนตัว แต่ผ่านไปครึ่งทางอูเจินจูก็เดินแทรกเข้ามา เขาจึงไม่สนใจถ้าจะมีคนเพิ่มอีกสองคน จึงได้เชิญชวน เสิ่นฉือกับมู่หยวนเข้ามาข้างในด้วย

ผ่านไปประมาณสิบนาที อูเจินจูก็เดินตรงเข้ามาถึง เมื่อเห็นชายหนุ่มสามคน เธอก็ดูแตกตื่นราวกับเจอฉากในละครเรื่องไซอิ๋วตอนหนุ่มหล่อ แววตาของเธอเกือบจะบอด จนลืมมองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่

“เมื่อครู่ใครเป็นคนรับโทรศัพท์ฉัน?” เธอยกมือขึ้นไปบีบคางของฉู่หยู้ซี นิ้วโป้งของเธอเลื่อนผ่านริมฝีปากของเขา “สุดหล่อ ใช่นายหรือเปล่า?”

“ไม่ใช่” ฉู่หยู้ซีรีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที แล้วหันหน้าไปทางเสิ่นฉือ เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “เขาต่างหาก”

อูเจินจูมองไปทางเสิ่นฉืออย่างใจเย็นแล้วรู้สึกว่าเขาไม่หล่อเท่าฉู่หยู้ซี จึงละสายตากลับมา “แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นตัวสำรองของเสี่ยวเนี่ยนของเราแล้ว ฉันไม่อาจลงมือได้หรอก สุดหล่อ คืนนี้อยู่เป็นเพื่อนฉันนะ ไม่อย่างนั้นฉันจะให้พ่อพาคนมาจัดการ”

ฉู่หยู้ซี “......” ความซวยมาเยือนแล้วไง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น