เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 207

ช่างน่าอายเหลือเกิน!

ตอนที่แยกจากกันมาเธอสาบานว่าเธอจะไม่สอบได้ 0 คะแนนแน่ แต่ตอนนี้เธอกลับสอบได้ 0 คะแนน จะให้เธอเอาหน้าที่ในกลับไปหาสามี?

ดูเหมือนว่าต่อจากนี้เธอไม่ควรรับประกันใครอย่างลวก ๆ ในสิ่งที่อาจไม่เกิดขึ้นจริง

“ไร้ประโยชน์จริง” เสียงเย้ยหยันดังขึ้นข้างหู เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นพบกับถังเหวยที่ก้าวผ่านมาตรงเธอ บนหัวทำผมทรงมวยแบบผู้หญิงที่ดูแข็งแกร่ง แต่ร่างของเธอดูเหมือนกับแม่ไก่ที่เอาแต่ขัน ไม่มีความน่าเกรงขามเลย

เชอะ เย่อหยิ่งอะไรกัน?

เมื่อเห็นสภาพของเธอเป็นเช่นนี้ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจอีก เธอกอดอกเอนหลังที่เก้าอี้ มองไปยังเคาน์เตอร์ข้างหน้า คอยฟังว่าถังเหวยจะสบถอะไรออกมาอีก

“เอาล่ะค่ะ การสอบในตอนเช้าจบลงด้วยดี” ถังเหวยหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดแล้วมองไปรอบห้องด้วยรอยยิ้ม “ฉันดูคะแนนแล้ว โดยมากสอบได้ร้อยคะแนนเต็ม นั่นหมายความว่าทักษะพื้นฐานของทุกคนค่อนข้างที่จะดี ยินดีกับทุกคนด้วยนะคะ สำหรับคนที่สอบได้ 0 คะแนน ฉันรู้สึกผิดหวังจริงเชียว”

“อะไรนะ 0 คะแนน?” ทุกคนฮือฮาขึ้นมาแล้วมองไปรอบ ๆ เพื่อหาผู้ต้องสงสัยคนนั้น

“ใช่ 0 คะแนน ส่วนเป็นใครนั้นฉันไม่ขอเอ่ยชื่อ” ถังเหวยมองไปทางเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน สายตาของทุกคนมองไปตามแววตาของเธอนี่มันแย่ยิ่งกว่าเรียกชื่อออกมาเสียอีก

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนถูกมองเสียจนหงุดหงิด เธอกัดฟันอยู่ในใจ แต่ใบหน้ายังคงสงบนิ่งไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย สามีของฉันเป็นซีอีโอ ฉันจะไปกลัวอะไรล่ะ?

“หน้าหนายิ่งกว่าหนังหมูเสียอีก!” ถังเหวยมองเห็นเธอทำท่าทางสงบเช่นนั้นก็โมโหเสียจนสบถออกมา

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนได้ยินแต่ไม่ได้ด่ากลับ ไม่ใช่ว่าเธอมีคุณภาพจิตใจที่สูงส่ง แต่เป็นเพราะสามีของเธอคือคนที่มีเหตุผลและเงียบสงบเสมอ ลึกล้ำยากจะหยั่งถึง ทำให้ผู้คนไม่อาจคาดเดาความคิดของเขาได้ เธอจึงได้ดูดซับพลังงานจิตของเขามาเล็กน้อย

“...... บางทีรอยหยักของสมองหล่อนอาจจะไม่มี” ถังเหวยระบายอารมณ์ออกมาเป็นการหยอกล้อ “ทุกคนลองคิดดูสิคะ ข้อสอบของเราแม้แต่เด็กประถมก็ยังตอบได้ ไม่น่าจะมีใครสอบได้ 0 คะแนนละมั้ง อีกอย่างเธอยังโกงข้อสอบด้วย”

“อะไรนะ โกงข้อสอบ ตอนที่เข้ามาสอบไม่มีใครเอาโทรศัพท์เข้ามาได้เลยแล้วจะโกงยังไง?” เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นทั่วทิศ ทุกคนพากันมองมาที่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน

ข้อมือของเธอเผยออกมาบางส่วน ผิวขาวราวกับหิมะมีรอยขีดเขียนอยู่ข้างบน ก่อนหน้านี้แม้เซียวเซิ่งจะช่วยเธอลบออกไปแล้ว แต่ต่อมาเขากับโอเล่ย์สนทนากันเรื่องวิธีการโกงจึงไม่ได้ลบมันจนหมด

นี่ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาอธิบาย เนียนไปก่อนไม่ต้องพูดอะไรมาก

เดิมทีถังเหวยต้องการทำให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอับอายจนถึงที่สุด เธออยากจะเห็นท่าทางอันตื่นตระหนกของหล่อน แต่เมื่อเห็นท่าทางอันสงบนิ่งของหล่อนดังนั้น เธอก็รู้สึกเบื่อหน่ายแล้วพูดว่า “หวังว่าเธอคนนั้นจะออกจากเอ็นซีกรุ๊ปด้วยตนเอง ไม่ฉะนั้น ก็คงไม่พ้นชะตากรรมที่ต้องถูกไล่ออก”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่พูดอะไร เธอจะไม่ไปไหนทั้งชีวิต จะทำอะไรเธอได้?

“เอาล่ะ คนที่สอบได้ 0 คะแนนอยู่ต่อก่อน ส่วนเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ จะไปทำงานตามแผนกของตนเองได้ทุกคนตั้งใจทำงานเข้าล่ะ ฉันจะฝึกฝนทุกคนเอง” ถังเหวยกล่าวขึ้นพร้อมแรงผลักดัน

“ขอบคุณ ผู้จัดการถัง”

ผู้คนที่เดินทางเข้ามาสอบค่อย ๆ ทยอยออกไปทีละกลุ่ม บางคนก็เผยอปากยิ้มกระซิบกระซาบว่า “หน้าตาก็ดี แต่ปกติแล้วคนสวยมักจะไร้สมอง พระเจ้าไม่ยุติธรรมหรอก ถ้าให้อีกอย่างหนึ่งกับเธอก็จะไม่ได้อีกอย่างหนึ่ง”

“เธอสวยเหรอ? ทำไมฉันมองไม่ออก”

“ตาบอดหรือไงสวยขนาดนั้น ไม่อย่างงั้นมีเหตุผลอะไรกันที่เข้ามาในบริษัทของเราได้แม้กระทั่งสอบ 0 คะแนน......”

“จะว่าไปก็ใช่อยู่ ที่แท้เข้ามาขจัดปัญหาทางร่างกายและจิตใจให้พวกผู้นำนี่เอง ผู้จัดการถังเก่งกาจจริง ๆ กล้าไปยุ่งกับคนแบบนี้”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอดไม่ไหวแล้วลุกขึ้นยืน เธอใช้มือข้างหนึ่งยกหน้าจอคอมแล้วถอดปลั๊กด้านหลังออก

“นี่เธอจะทำอะไร?” ถังเหวยเข้าไปหยิบหน้าจอนั้นไว้ด้วยความโมโห “จะขโมยทรัพย์สินของบริษัทหรือไง!”

“กรุณาระวังคำพูดของคุณด้วย” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปที่เธอด้วยความใจเย็นแล้วพูดว่า “ฉันสงสัยว่าหน้าจอแสดงผลจะมีปัญหา ต้องการจะนำไปตรวจสอบสักหน่อย ฉันเอาไปตรวจสอบไม่ได้ขโมย”

เพื่อให้ภารกิจของคุณนายสำเร็จ เธออยากจะทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง ทำให้ทุกคนในโลกนี้กลายเป็นศัตรูของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน ส่วนผลลัพธ์ที่ตามมาน่ะเหรอ เธอไม่สนใจหรอก และถังเหวยคนคนนี้ก็เป็นหมากตัวหนึ่งที่ต้องถูกสังเวย

“ตืดๆ” เธอเดินไปได้เพียงแค่สองก้าวโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นข้อความข้อความหนึ่ง

[ผู้หญิงของผมต้องอับอาย คุณตาย]

เป็นหมายเลขของคุณชาย

เย่ลั่วรู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง เธอรู้ว่าเซียวเซิ่งเลือดเย็นเพียงใด เธอเคยเห็นมาก่อนและไม่กล้าที่จะยั่วยุเขา เขากล้าแม้จะมีปัญหากับคุณนาย แล้วนับภาษาอะไรกับเธอ

เย่ลั่วถอนหายใจ แล้วเข้าไปรั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอาไว้ “พวกคุณกลับไปเถอะ แค่กดผิด”

“ครับผม” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี พวกเขาหันหลังวิ่งกลับไปพร้อมเพรียงกัน

ผู้ช่วยเย่มองผ่านช่องตรงประตู เธอเห็นว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกำลังได้เปรียบ จึงรีบเดินตรงเข้าไปทันที “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนี่มันอะไรกัน ทำไมถึงใช้ความรุนแรงแบบนี้ นี่มันเป็นการกระทำของคนร้ายกาจ”

“ร้ายกาจงั้นหรือ?” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกเสียดแทงใจดำ เธอยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาแล้วกระแทกจอแอลอีดีนั้นใส่ลงไปในมือของถังเหวยพูดว่า “ฉันจะทำให้คุณดูนะว่านี่ต่างหากคือคนร้ายกาจ”

เธอไม่ได้ต้องการทำอะไรกับถังเหวย แต่เมื่อเธอถูกเรียกว่าเป็นคนร้ายกาจ จึงจำเป็นต้องทำให้เหมือนกับชื่อที่ได้รับ

“กรี๊ด!” ถังเหวยร้องขึ้นอย่างน่าสมเพช “ผู้ช่วยเย่คะ เธอทำร้ายฉันจนบาดเจ็บขนาดนี้ คุณต้องช่วยฉันนะคะ เราต้องไล่เธอออกให้ได้ไม่อย่างนั้นฉันจะไปฟ้องศาล!”

“ฉันจะรายงานไปคุณนาย ส่วนจะไล่ออกหรือไม่นั้นต้องดูตามขั้นตอนของบริษัท” เมื่อเห็นถังเหวยร้องไห้ร้องห่ม ผู้ช่วยเย่ก็รู้สึกสะอิดสะเอียน แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรังแกคนอื่น

แม้เธอจะพูดให้น่าฟัง แต่ในใจลึก ๆ นั้นต้องการไล่เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น