เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น นิยาย บท 236

ถังเหวยหยิบยาแก้อาเจียนกล่องหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก บดให้ละเอียดอย่างระมัดระวัง แล้วจึงใช้น้ำละลายให้เป็นของเหลว จากนั้นเทใส่ไปในตู้กดน้ำของฝ่ายกิจการทั่วไป ....

ยังไม่ถึงเวลาเข้างานช่วงบ่าย จึงไม่มีพนักงานอยู่เลยสักคน เพราะฉะนั้นหากจะทำสิ่งชั่วร้าย นี่เป็นช่วงเวลาที่สะดวกเป็นอย่างมาก

หลังจากจัดการเรียบร้อย ถังเหวยได้มาที่มุมรับรองของห้องโถงอีกครั้ง เห็นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนฟุบหลับอยู่ตรงนั้น จึงเดินไปเคาะที่โต๊ะ “ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทั่วไปให้เธอไปรายงาน อย่ามาแอบอู้อีก ถือว่าท่านประธานหลงใหลไม่กี่ที ก็คิดว่าตัวเองเป็นภรรยาแล้วหรือไง น่ารังเกียจนัก!”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับไม่ได้นอนหลับ เพื่อไม่ให้เธอเหน็บแนมเสียดสีอีก จึงลุกขึ้นยืนทันที เดินไปเพียงสองก้าว รู้สึกอบอ้าว เธอจึงกลับมา หยิบแก้วแบบใช้แล้วทิ้งขึ้นมา เพื่อจะไปเทน้ำมาดื่ม

“น้ำที่นี่ ใช่ให้คนฐานะอย่างเธอดื่มได้เหรอ?” ถังเหวยแย่งแก้วมา แล้วเขวี้ยงลงพื้นอย่างดุเดือด “วันหลังถ้าจะดื่มน้ำให้ไปดื่มที่ฝ่ายกิจการทั่วไป! อย่ามาทำให้น้ำที่นี่แปดเปื้อน!”

“ไม่ดื่มก็ไม่ดื่ม เธอจะดุอะไรนักหนา?” ความโกรธปะทุขึ้นทันที เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองไปทางถังเหวย ด้วยสายตาอันคมกริบและน่ากลัว “ฉันทนเธอมามากพอแล้วนะ วันหลังอย่ามาใกล้ฉันอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาผิดเธอก่อนที่เธอจะทำฉันเสียอีก หากไม่เชื่อก็ลองดู!”

ริมฝีปากบนของถังเหวยบิดเบี้ยวจนสั่นกระตุก นัยน์ตาสาดแสงแห่งความเกลียดชังออกมา คราวที่แล้วตนเกือบถูกไล่ออก ก็เพราะเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนคนนี้ เธอมั่นใจเป็นอย่างมากว่าเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสามารถทำได้ “ที่ฉันเข้าใกล้เธอก็เพราะงานหรอก ไม่เช่นนั้นคนอย่างเธอแค่ให้มองฉันยังไม่อยากเลย” เพื่อเป็นการกู้หน้าตน เธอกล่าวอย่างไม่มั่นใจ

“เธอข้ามขั้นแล้ว ฉันไม่ได้อยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของเธอเลย!” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนัยน์ตาส่องประกายของความโกรธ กำมือแน่นจนขาวซีด สั่นเทิ้มไปทั้งตัว

เห็นเธอโกรธถึงเพียงนี้ ถังเหวยในใจมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง “อารมณ์ช่างแกว่งเสียจริงนะนี่? เธอใจแคบแบบนี้จะทำการใหญ่อะไรได้? ทั้งชาติคงได้แต่กวาดพื้น! ลูกหลานรุ่นหลังของเธอทั้งหมดก็ต้องมากวาดถนน!”

สาปแช่งลูกหลานคนอื่น ช่างต่ำทรามที่สุด เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนทนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงหยิบที่เขี่ยบุหรี่แล้วทุบไปที่ถังเหวย ที่เขี่ยบุหรี่เฉาะไปโดนหัวของเธอก่อนที่จะตกลงบนพื้น ก่อให้เกิดเสียงอันชัดใส

“อา!” ถังเหวยร้องออกมา พร้อมกุมหน้าผาก มีเลือดไหลเป็นทางออกมาตามหว่างนิ้วของเธอ เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกใจเป็นอย่างมาก สีเลือดบนใบหน้าหายไปจนหมดสิ้น เธออ่อนยวบไปทั้งตัวจนใกล้จะล้มลง ไม่เข้าใจว่าวันนี้ตนเองทำไมถึงวู่วามเช่นนี้ คงเพราะอารมณ์ที่หลายวันมานี้เก็บกดเอาไว้ระเบิดออกมา.....

เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว พนักงานจำนวนมากจึงกรูกันเข้ามา หลายคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับถังเหวยต่างประณามเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนด้วยเสียงที่เบา “ทำไมเธอเป็นแบบนี้ละ! เหมือนกับยายแก่เสียสติเลย!” “ข้างบนมีคน พวกเธออย่าพูดถึงเขาไป ระวังจะโดนกัดเอา” “เธอทำร้ายคน แม้แต่คำขอโทษยังไม่พูดเลย นิสัยเหลือขอเกินไปแล้ว....”

มีคนวิ่งเอาพลาสเตอร์ปิดแผลมาให้ “ผู้อำนวยการถังคะ คุณจะไปที่ห้องพยาบาลทำแผลหน่อยไหมคะ” ถังเหวยถอนหายใจ เหมือนว่าเจ็บมาก แต่ยังพูดอย่างใจกว้างว่า “ฉันไม่เป็นไร ไม่ต้องไปห้องพยาบาลหรอก ถึงเวลาเข้างานแล้ว พวกเธอไปทำงานกันเถอะ” “ผู้อำนวยการถัง ช่างเป็นผู้ใหญ่ใจกว้างจริงๆ!”

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่อยากฟังคำพูดที่ไม่เข้าหูแม้สักนิด จึงหมุนตัวเดินไป เวลานี้โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นเซียวเซิ่งโทรมา ในหัวสมองก็บังเกิดภาพที่เซียวเซิ่งกับคุณกงใกล้ชิดสนิทสนมกัน ในใจของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพลันรู้สึกเหมือนมีมีดแทง จึงตัดสายทิ้งไป ไม่กี่วินาทีต่อมา เบอร์ของโอเล่ย์ก็โทรเข้ามา ครั้งนี้เธอรับสาย “ฮัลโหล?” “ทำไมไม่รับสายผม” เสียงที่ส่งมากลับเป็นเสียงของเซียวเซิ่ง

เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่อยากพูดอะไรทั้งสิ้น จึงเงียบไปชั่วครู่ เธอเช็ดหางตา แล้วพูดเสียงไม่ปกติว่า “ฉันใช้ที่เขี่ยบุหรี่ตีหัวของถังเหวยแตก คุณให้โอเล่ย์มาช่วยฉันจัดการหน่อยค่ะ” “นี่เขาทำอะไรคุณ?” เสียงของฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “คุยกับคุณแล้วได้อะไร คุณจะไปจัดการอะไรเขาได้หรือ? พลั่ก!” เสียงดังสนั่นหวั่นไหวส่งผ่านมาทางหูฟัง โทรศัพท์มือถือทางนั้นเหมือนถูกทุบไปแล้ว

“ขอโทษนะคะท่านรัชทายาท” ผู้ช่วยเย่เช็ดเลือดที่มุมปาก พูดอย่างไม่หยิ่งยโสหรือถ่อมตัวว่า “ตั้งแต่แรกเริ่มที่เอ็นซีก่อตั้ง ฉันก็เป็นผู้ช่วยฝ่ายควบคุมและตรวจสอบ หากคุณคิดจะไล่ฉันออก จะต้องผ่านความเห็นชอบจากหัวหน้าฝ่ายเสียก่อนค่ะ อา__” พลัก! ยังไม่ทันที่เธอพูดจบ เซียวเซิ่งก็ตระกองเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเดินก้าวย่างไป และเตะผู้ช่วยเย่ออกไปนอกประตู จนหล่นไปบนพื้น “ยายเฒ่าปีศาจที่สมควรตาย ถ้าไม่เห็นแก่ที่เธอเป็นคุณอาของเย่เฟิง วันนี้ผมจะให้คุณตายโดยที่ไม่รู้ว่าตายได้ยังไง!”

“ประธานคะ คุณอย่าทำกับเธอแบบนี้เลย เธอไม่ได้ทำอะ—“ มองไปทางหน้าอันซีดเซียวของเซียวเซิ่ง เห็นดวงตาอันแดงก่ำของเขา เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตกใจจนสั่นไปทั้งตัว คำพูดที่จะพูดออกมาก็ต้องกลืนกลับลงไป โน้มตัวไปประคองผู้ช่วยเย่

ผู้ช่วยเย่เป็นตัวแทนผู้มีอำนาจเต็มของเซี่ยจิ่น เซียวเซิ่งไปตีเขา ไม่ใช่เท่ากับไปเขย่าพื้นดินบนหัวไทเฮาหรอกหรือ? เซียวเซิ่งดึงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลับมา สายตาทั้งหม่นและเย็นชา “ที่ถังเหวยทำไปทั้งหมด ก็เพราะเขาคอยยุยง! ขันทีที่มีเจตนาชั่วร้ายถ้าไม่ใช่เพราะเขาปั่นหัว เซี่ยจิ่นจะไม่เลวขนาดนั้น!”

“ท่านรัชทายาทคะ ฉันไม่เคยยุยงอะไรคุณนายเลยนะคะ” ผู้ช่วยเย่บาดเจ็บไม่น้อย เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานมองว่าไม่ดี เธอจึงอดทนกับความเจ็บปวดพยุงตัวขึ้นมา

“สนับสนุนคนชั่ว โทษตายเหมือนกัน! ทางที่ดีคุณไปตายเองนะ อย่าบีบให้ผมลงมือ!” เซียวเซิ่งจ้องมองผู้ช่วยเย่อย่างมุ่งร้าย แล้วจึงดึงเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเข้าไปในห้องทำงานฝ่ายควบคุมและตรวจสอบ

เมื่อเข้าประตูไปแล้ว เขาก็ดึงเสื้อผ้าของเธอออก ตรวจตราร่างกายเธออย่างละเอียดว่ามีบาดแผลหรือไม่ “เขาตีคุณหรือเปล่า?” “ไม่ค่ะ” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนกลั้นน้ำตาไว้ ส่ายหัวอย่างหมดรูป เสียใจที่ตนเองระบายอารมณ์ลงที่เขา ตอนนี้จุดจบเป็นอย่างไรละ? ผู้ช่วยเย่ไม่มีทางที่จะยอมโดนเฆี่ยนเปล่าๆแน่!

จวบจนกระทั่งตรวจตราเรือนร่างขาวราวหิมะของเธอแล้ว แน่ใจว่าไม่มีบาดแผลใดๆ เซียวเซิ่งจึงดึงภรรยามากอดในอ้อมอกอย่างปวดใจ กระแสที่โหดร้ายบนร่างกายไม่มีลดลง ชาติกำเนิดอะไร ชื่อเสียงอะไร กิ่งทองใบหยกอะไร? เขาจะต้องพลิกทั้งโลกนี้....มอบให้เธอ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น