เซียวเซิ่งรู้สึกวุ่นวายใจมาทันใด แต่ว่าก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา พูดกับเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไปตามน้ำ “ใช่ ต้องขอบคุณอูเจินจูที่หาโรงเรียนที่ดีให้ลูกของคุณ”
“เพื่อนของฉันอูเจินจูน่าเชื่อถือที่สุด ดีกับฉันที่สุด ทั้งชีวิตนี้เธอสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสงบสุขเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน” เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนพูดอย่างหนักแน่น แล้วเปิดวิดีโอดูอีกรอบ
“นอนเถอะ นอนเถอะ”ภายในใจของเซียวเซิ่งยิ่งวุ่นวายมากกว่าเดิม เก็บโทรศัพท์ไปแล้ว
“ให้ฉันดูอีกรอบนะ~”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนจับแขนเสื้อของเขาเขย่าไปมา อ้อนวอนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “วิดีโอที่พวกคุณบันทึกครั้งที่แล้ว ยังให้ฉันดูตั้งหลายสิบรอบ ครั้งนี้――”
“ผมบอกว่านอน”เซียวเซิ่งไม่สนใจ จ้องมองไปที่เธอแวบหนึ่ง ครั้งที่แล้วเอาโทรศัพท์ให้เธอดูวิดีโอ ผลปรากฏว่าเป็นอย่างไร? เธอแอบส่งข้อความให้สวี่เจียน จึงไม่ให้เธอจับอีกแล้ว!เหมือนกับว่าสวี่เจียนจะสามารถรับข้อความได้ยังไงอย่างงั้น
ปิดไฟบนหัวเตียง เซียวเซิ่งโอบกอดเสี่ยวเนี่ยน หลับตาลง มือของเขาวางไว้บนศีรษะของเธออย่างเป็นธรรมชาติป้องเอาไว้เบาๆ
นี่เป็นท่าทางของการปกป้อง
ภายในใจของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมีกระแสความร้อนผ่านเข้ามาอย่างกะทันหัน ไม่ว่าอย่างไรวงแขนที่แข็งแรงและปลอดภัยนี้มีอยู่จริง สามารถพักพิงได้สักพักก็พักพิงสักพักเถอะ
เพียงแค่เขาไม่ร้องขออะไรที่เกินไปแบบนั้น คืนนี้ก็ให้เขาอยู่ที่นี่อย่างหลับสบาย พรุ่งนี้ค่อยตัดขาดความสัมพันธ์ก็ยังไม่สาย ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรอีก จึงกอดกันนอนหลับไปแบบนี้แล้ว
เวลาเที่ยงคืน เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนตื่นขึ้นมาหนึ่งครั้ง ลืมตามองไปบนฝ้าเพดาน ถึงแม้จะมืดมาก เธอยังคงมองเห็นลวดลายของฝ้าเพดานอย่างละเอียด
เซียวเซิ่งยื่นมือมาอย่างกะทันหัน ช่วยเธอปิดเปลือกตาลง เหมือนกับคนที่ตายตาไม่หลับด้วยท่าทางเดียวกัน
“รู้ได้ยังไงว่าฉันตื่นแล้ว?”
“เพราะว่าคุณอยู่ในใจของผม”น้ำเสียงของเซียวเซิ่งแหบพร่าน่าฟัง แฝงไปด้วยความงัวเงีย “เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน คุณไม่รู้หรอกว่าผมรักคุณมาก?”
พูดไป ริมฝีปากที่เย็นเล็กน้อยก็จูบเข้ามาที่ริมฝีปากของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยน
เขากำลังละเมออยู่เหรอ? เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนนึกว่าตัวเองฟังผิดไป กัดอย่างแรงหนึ่งทีผลักเขาออกไป พลิกตัวกลับมาหันหลังให้เขา เซียวเซิ่งเหลือเพียงการถูกเพิกเฉยจนถึงขีดสุด ใบหน้าบูดบึ้งขุ่นมัว หมดหนทางแล้ว
รุ่งเช้า เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเปิดเปลือกตาขึ้นมาในขณะที่นกกำลังส่งเสียงร้องตอนเช้า แสงแดดที่อบอุ่่นและส่องสว่างสาดส่องเข้ามา ส่องลงไปที่พรมที่มีขนปุกปุย อบอุ่นเป็นอย่างมาก
หันหน้ามามองด้านข้าง ว่างเปล่าไม่มีคน เซียวเซิ่งออกไปแล้ว ผ้าห่มถูกห่อเอาไว้บนร่างกายของเธอคนเดียว นุ่มนิ่มแสนสบาย
เซียวเซิ่งน่าจะพาเอียนหยู่โรวกลับไปที่คฤหาสน์หลังเก่า?
ทันใดนั้นเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนรู้สึกโศกเศร้าเสียใจขึ้นมา แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองจะโศกเศร้าเสียใจไปทำไม คืนนี้ถ้าเอียนหยู่โรวตั้งท้องได้สำเร็จ เป็นไปได้ว่าเซียวเซิ่งจะปล่อยเธอไปแล้ว ควรจะดีใจ
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนฮัมเพลงให้ตัวเองสดชื่นขึ้นมา เขย่งเท้าเดินไปที่ข้างหน้าต่าง ลากผ้าม่านลายลูกไม้สีชมพูให้เปิดออก ยกแขนขึ้นมายืดเส้นยืดสาย มองดูสวนดอกไม้ที่สวยสดงดงาม
สวยมาก!
มองดูวิวทิวทัศน์ที่งดงามสักพัก เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ นั่งลงบนชักโครกที่สะอาด ปลดปล่อยปัสสาวะที่สะสมมาตลอดทั้งคืน หลังจากนั้นก็เดินไปที่อ่างล้างหน้าแปรงฟัน วินาทีที่เงยหน้าขึ้นมามองกระจก เธอตกใจจนสั่นไปทั้งร่าง แก้วน้ำแปรงฟันร่วงลงมา ดวงตาใสเบิกกว้างแล้ว
อ่างอาบน้ำแบบนวดสปาสุดหรูด้านหลังเต็มไปด้วยฟองสีขาว ผู้ชายหล่อเหลาคนหนึ่งนอนแช่อยู่ในฟองสบู่ นอนแช่อย่างสบายใจ มือหนึ่งถือแก้วเหล้าลูกแพร์สีเหลืองครึ่งแก้ว มองมาอย่างสง่า
เวียนหัวตาย เซียวเซิ่งยังไม่ไป แช่น้ำอยู่!
คนรวยนี่บ้ากันจริงๆ !กลับดื่มเหล้าตอนอาบน้ำ ถึงแม้ว่าระหว่างอ่างอาบน้ำกับชักโครงจะมีกระจกกั้นอยู่ แต่ว่าก็ยังรู้สึกแปลกๆ
“แค่กแค่ก......”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนสำลักฟองยาสีฟันแล้ว
เซียวเซิ่งนำเอาสีหน้าของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนที่แสดงออกมาอย่างหลากหลายในเมื่อสักครู่จดจำเอาไว้ แกว่งแก้วอย่างสงบ เปิดริมฝีปากจิบเหล้า ลำคอยาวขาวสะอาด ลูกกระเดือกที่แสนเซ็กซี่เพราะว่ากำลังกลืนจึงขยับ ปล่อยความน่าดึงดูดออกมาอย่างรุนแรง
“เธอเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้น่ะ” เอียนหยู่โรวบีบวาซาบิออกมาหนึ่งหลอด อีกสักพักเธอต้องออกไปข้างนอกกับเซียวเซิ่ง อยากจะให้เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนได้เห็นอย่างมาก
หลังจากนั้นสิบนาที ในที่สุดเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนก็ปรากฏตัวในห้องอาหาร เพื่อจะปกปิดกลิ่นของวาซาบิ เทน้ำส้มสายชูออกมาจากครัวหนึ่งถ้วยเล็ก ทานอะไรต่างก็จิ้มน้ำส้มสายชูก่อน
ดวงตาดำคลับของเซียวเซิ่งจ้องมองมาที่ริมฝีปากอิ่มของเธอ อดที่จะพูดเสียดสีไม่ได้ “คุณจะไม่สลัดออกสักหน่อยเหรอ? น้ำส้มสายชูกับวาซาบิต่างกันตรงไหน?”
อันหนึ่งเปรี้ยว อันหนึ่งเผ็ด ใครก็อย่าได้ว่าใคร
“พ่อบ้านเซี่ย น้ำส้มสายชูของที่บ้านคุณหอมมาก”เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนไม่สนใจเขา คีบซาลาเปาลูกเล็กมาหนึ่งลูกแล้วจิ้มน้ำส้มสายชู เอาเข้าไปในปากทั้งอัน แก้มป่องออกมา กะพริบตาอย่างเป็นธรรมชาติ นั่นน่ารักจนเซียวเซิ่งใจอ่อนยวบแล้ว
ดังนั้นถูกเธอมองข้ามก็ไม่โกรธ กลับกันอยากจะลองจิ้มน้ำส้มสายชูดู เซียวเซิ่งคีบซาลาเปาลูกเล็กขึ้นมายื่นไปยังถ้วยน้ำส้มสายชูของเสี่ยวเนี่ยน ทันใดถ้วยก็ถูกดึงออกไปแล้ว
เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนเชิดคางขึ้นมา เอาน้ำส้มทั้งถ้วยเทลงในปากแล้ว สดชื่นกว่าดื่มเหล้าอีก ดื่มหมดยังหลับตาลง มึนเมานิดหน่อย เหงาใจนิดหน่อย
ซาลาเปาของเซียวเซิ่งยังค้างอยู่กลางอากาศ มองไปยังเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนอย่างเหลือเชื่อ พ่อบ้านเซี่ยรีบเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ ถือน้ำส้มสายชูมาให้คุณชายจิ้มหนึ่งถ้วย
มองเห็นน้ำสายชูแล้ว สายตาของเอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนมองมา แย่งถ้วยน้ำส้มสายชูไปอีกครั้ง ดื่มลงไป
“คุณเอี๋ยน คุณดื่มแบบนี้ไม่ได้นะ ไม่ดีต่อร่างกาย”แม้แต่พ่อบ้านเซี่ยที่เห็นโลกมามากมายยังอดที่จะตกใจอย่างมากไม่ได้ รีบห้ามปราม
เธอทานน้ำส้มสายชู?(ในอีกความหมายหนึ่งของจีนก็คือกำลังหึงหวง) เซียวเซิ่งเหมือนจะเข้าใจแล้ว รีบออกคำสั่ง “รีบ รีบไป......เอาน้ำส้มสายชูซ่อนเอาไว้ให้หมด!”
เจ้าเด็กคนนี้ดื่มน้ำส้มสายชูแบบนี้ได้อย่างไรกัน? ดื่มจนปวดท้องจะทำยังไง สุดท้ายแล้วคนที่ทรมานก็คือเขา
“ครับ”พ่อบ้านเซี่ยแย่งน้ำส้มสายชูออกไปเหมือนกับไปช่วยไฟไหม้ เขาก็เข้าใจแล้ว เอี๋ยนเสี่ยวเนี่ยนใช้วิธีการดื่มน้ำส้มสายชูมาแสดงออกถึงสิ่งที่ตัวเองไม่พอใจ เธอไม่อยากให้คุณชายไปคฤหาสน์หลังเก่ากับเอียนหยู่โรว
ถ้าไม่อยาก ทำไมถึงไม่พูดกับคุณชายล่ะ? เพียงแค่พูด คุณชายจะรับปากเธออย่างแน่นอน......
------------
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น