เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 1106

ตอนที่ 1106: ร้อยเผ่าพันธุ์หวาดกลัวและถอยกลับ

ดาบทำลายคลื่นเปล่งแสงแสบตา ในขณะที่คลื่นที่หนาแน่นของปราณดาบก็ห้อมล้อมกุยไฮ่ ยี่เต่า เขาถูกพลังยุทธภัณฑ์จักรพรรดิปกป้องเอาไว้

กุยไฮ่ ยี่เต่าเริ่มเคลื่อนไหว เขาเหวี่ยงอาวุธในมือช้า ๆ การเคลื่อนไหวของมันประกอบไปด้วยความลึกลับของมิติและความจริงของธรรมชาติ มันดูอ่อนแอ แต่ว่ามันมีความยิ่งใหญ่ที่เหนือจินตนาการ มันโจมตีออกไปยังวัตถุต้องห้ามทั้งสี่ในเวลาพร้อม ๆ กัน

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น แค่เพียงการโจมตีเดียวของกุยไฮ่ ยี่เต่าก็ป้องกันวัตถุต้องห้ามทั้งสี่ที่โจมตีมาในเวลาพร้อม ๆ กันได้แล้ว วัตถุต้องห้ามแต่ละอันไม่ได้อ่อนแอไปกว่ายุทธภัณฑ์จักรพรรดิเลย ดังนั้น การโจมตีของกุยไฮ่ ยี่เต่าจึงเรียกได้ว่าสามารถป้องกันสิ่งที่เทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิ 4 คนได้

กุยไฮ่ ยี่เต่าไม่ได้ใช้พลังของเขาเอง แต่เป็นพลังในยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ดาบทำลายคลื่นเป็นอาวุธของเขาเอง ดังนั้น ถึงแม้ว่าหลังจากที่อาวุธได้หลอมรวมเข้ายุทธภัณฑ์มากกว่าร้อยอัน แต่มันก็ยังเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเขา อีกทั้งเขายังสามารถใช้พลังที่ซ่อนอยู่ด้านในได้และไม่ได้รับผลกระทบอะไร

วัตถุต้องห้ามทั้งสี่ถูกส่งกระเด็นลอยไป เซียนราชาของร้อยเผ่าพันธุ์ใช้กำลังอย่างมากก่อนที่จะตั้งหลักได้อีกครั้ง ในขณะยุทธภัณฑ์จักรพรรดิยังอยู่ในมือของกุยไฮ่ ยี่เต่า

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมากกว่าร้อยอันถูกหลอมรวมอยู่ในยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของตระกูลผู้พิทักษ์ ดังนั้น มันจึงเทียบไม่ได้กับวัตถุต้องห้าม แค่ในด้านของพลัง ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของตระกูลผู้พิทักษ์ก็ทรงมากกว่าเซียนจักรพรรดิไปมากแล้ว

“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดินั้นทรงพลังเกินไป พวกเรามาหลอมรวมวัตถุต้องห้ามและใช้รอยเลือดเพื่อที่จะทำลายมันกัน” ผู้อาวุโสประจำโถงแนะนำ

หลังจากนั้น ผู้ควบคุมวัตถุต้องห้ามอื่นทั้งสามคนก็ไม่ลังเล วัตถุต้องห้ามทั้งหมดหลอมรวมกันทันทีก่อนที่ผู้ควบคุมทั้งหมดจะบ้วนเลือดบริสุทธิ์ออกมา ซึ่งทำให้อาวุธของพวกเขามีพลังพุ่งพรวดขึ้น

พวกเขาอ่อนแอลงหลังจากที่บ้วนเลือดออกมา ไม่เพียงแต่มันจะเลือดบริสุทธิ์เท่านั้นแต่มันยังมีพลังชีวิตของพวกเขาด้วย มันเป็นการวิธีกลืนกินตัวเองเพื่อเพิ่มพลังให้มากขึ้น

พลังงานที่น่ากลัวกระเพื่อมออกมาจากวัตถุต้องห้ามทั้งสี่เหมือนมังกรที่ทะยานไปบนท้องฟ้า จากนั้นอาวุธทั้งสี่ก็พุ่งไปยังกุยไฮ่ ยี่เต่าอย่างทำลายล้าง มิติที่วัตถุต้องห้ามผ่านไปแตกกระจายเหมือนกระจก แม้แต่โถงทั้งสิบแปดที่กำลังทำให้มิติคงตัวอยู่ก็ไม่สามารถทนการโจมตีที่เพียงพอที่จะทำลายพื้นที่ทั้งหมดได้

กุยไฮ่ ยี่เต่ายังคงทำท่าปกติและพูดอย่างไม่สนใจ “ร้อยเผ่าพันธุ์ เมื่อข้า กุยไฮ่ ยี่เต่าอยู่ที่นี่ เจ้าจะไม่สามารถสั่นคลอนรากฐานของสำนักดาบทรราชได้หรอก พวกเจ้าควรไปซะ” ในขณะที่เขาพูดแบบนั้น กุยไฮ่ ยี่เต่าโยนดาบทำลายคลื่นขึ้นไปบนอากาศทันที ทันทีที่มันออกจากมือของเขา มันก็ขยายยาวร้อยเมตรทันที และพุ่งไปทางอาวุธทั้งสี่อย่างน่ากลัว

มันไม่มีเสียงดังอะไรเกิดขึ้นเลยในตอนที่ดาบทำลายคลื่นปะทะกับวัตถุต้องห้ามทั้งสี่ อย่างไรก็ตาม อาวุธทั้งสองค้างอยู่กลางอากาศ ปลายของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิหยุดอยู่ห่างจากวัตถุต้องห้ามอยู่ 1 เมตร พลังที่สุดยอดทั้งสองกำลังผลักดันกันอยู่

มิติระหว่างอาวุธทั้งห้าได้กลายเป็นสีดำไปแล้ว มันไม่เป็นเหมือนเดิมหลังจากที่ผ่านไปนานแล้ว ในขณะที่มิติรอบ ๆ ของพวกมันหลายร้อยเมตรก็ปั่นป่วนอย่างรุนแรง มันกลายเป็นภาพพร่ามัวทั้งหมด

“ผู้คนของร้อยเผ่าพันธุ์ พวกเจ้ายังต้องการที่จะสู้ต่ออีกเช่นงั้นหรือ ? ” กุยไฮ่ ยี่เต่าลอยอยู่กลางอากาศอย่างสงบ และยังท่าทางใจเย็นอยู่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นจะไม่ได้อยู่ในสายตาของเซียนราชาที่มาบุกรุกเลย แต่เขาก็สามารถควบคุมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเขาเลย และเขาก็หยุดพวกร้อยเผ่าพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง

ผู้บุกรุกทั้งหมดเงียบไป พวกเขาตกใจในความแข็งแกร่งของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่ได้ตกอยู่ในมือของกุยไฮ ยี่เต่าในการต่อสู้ครั้งนี้แต่เป็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

คนที่ไม่ได้ควบคุมวัตถุต้องห้ามมองหน้ากันและกันในตอนที่พวกเขาเห็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและวัตถุต้องห้ามหยุดนิ่งอยู่เฉยเฉย พวกเขาทั้งหมดพุ่งไปที่กุยไฮ่ ยี่เต่าพร้อมกันเหมือนว่าพวกเขากำลังคิดเหมือนกัน

“ปกป้องบรรพชนผู้ก่อตั้งของพวกเราเอาไว้ ! ” ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดก็เคลื่อนไหวเช่นกัน พวกเขากลับไปควบคุมที่ศูนย์ควบคุมของโถงศักดิ์สิทธิ์และบังคับมันลงไปเพื่อที่จะปะทะกับผู้บุกรุก

กุยไฮ่ ยี่เต่าถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ดูเหมือนพวกเจ้าจะดื้อด้านมากนะ” เขายื่นนิ้วออกมาอย่างนุ่มนวล แล้วใบมีดแสงหลายอันก็พุ่งออกมาจากดาบทำลายคลื่น พวกมันฟันไปที่เซียนราชาที่กำลังพุ่งเข้ามาเป็นแสงสีขาวด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ

ใบมีดแสงมีความยิ่งใหญ่ของเซียนจักรพรรดิอยู่ และพวกมันแหลมคมมากพอที่จะตัดผ่านมิติได้ พวกมันทรงพลังอย่างเหนือจินตนาการ ซึ่งเซียนราชาไม่สามารถป้องกันหรือหลบมันได้

พรวด!!

จอมยุทธคนอื่นของร้อยเผ่าพันธุ์ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ พวกเขาทั้งหมดมองไปที่อาวุธของกุยไฮ่ ยี่เต่าด้วยความกลัวก่อนที่ทั้งหมดจะจากไป พวกเขารู้ว่าคู่ต่อสู้ยังปราณีพวกเขา ไม่ยั้งนั้นพวกเขาคงถูกฆ่าไปอย่างง่ายดาย

ผู้บุกรุกถอยไปอย่างรวดเร็ว และหายไปหมดในพริบตา ทั้งหมดที่เหลืออยู่มีเพียงความเละเทะที่เกิดจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

“บรรพชนผู้ก่อตั้ง ร้อยเผ่าพันธุ์ได้พยายามที่จะบุกรุกตระกูลผู้พิทักษ์ของพวกเราจริง ๆ พวกเขาหนีไปไกลแล้ว ทำไมถึงปล่อยพวกเขาไปล่ะ ? “

“บรรพชนผู้ก่อตั้ง ทำไมไม่ฆ่าพวกเขาล่ะ ? ถ้าพวกเขาทั้งหมดตาย มันก็จะเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อร้อยเผ่าพันธุ์”

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดมาถึงด้านข้างของกุยไฮ่ ยี่เต่าและถามเขาอย่างเคารพหลังจากที่ผู้บุกรุกถอยไป พวกเขาทั้งหมดสับสน และในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ พวกเขาจินตนาการไม่ถึงว่าบรรพชนผู้ก่อตั้งของเขาจะน่ากลัวขนาดนี้ก่อนที่เขาจะฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขาได้สมบูรณ์เสียอีก

กุยไฮ่ ยี่เต่าส่ายหน้าแล้วพูดออกมา “ร้อยเผ่าพันธุ์ไม่ง่ายเหมือนที่พวกเจ้าคิดว่าพวกเขาเป็นหรอก คนที่สนับสนุนพวกเขานั้นทรงพลังมาก พวกเราไม่ควรจะไปยั่วยุพวกเขา จำไว้ ระวังเอาไว้ในอานาคตว่าพยายามหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกับร้อยเผ่าพันธุ์”

ผู้อาวุโสสูงสุดยิ่งสงสัยมากขึ้นคำอธิบายนั้น หนึ่งในนั้นพูดออกมา “บรรพชนผู้ก่อตั้ง ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบรวมกับเมืองทหารรับจ้างเป็นองค์กรที่ทรงพลังที่สุดบนทวีปเทียนหยวน ทวีปสัตว์เทวะมีเซียนจักรพรรดิ 3 คนและมีหอคอยสัตว์เทวะ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า พวกเราจะสามารถเทียบเคียงกับพวกเขาได้ เผ่าพันธุ์ทะเลเพียงแต่ป้องกันตัวเองและไม่เคยสู้กับพวกเรา ข้าแค่ไม่เข้าใจว่าผู้สนับสนุนของร้อยเผ่าพันธุ์ประเภทไหนกันที่พวกเราจำเป็นต้องกลัว”

“มันจะดีกว่าถ้าเจ้าไม่รู้บางอย่าง ถ้าพวกเจ้าต้องการจะรู้ ข้าจะบอกเจ้าถ้าพวกเจ้าเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิและไปถึงขอบเขตดั้งเดิมได้” หลังจากนั้น กุยไฮ่ ยี่เต่าก็กลับไปที่เขตหวงห้ามพร้อมกับดาบทำลายคลื่น และทิ้งให้ผู้อาวุโสสูงสุดยืนงงอยู่

นิกายหยางจิและสำนักดาบทรราชไม่ใช่ตระกูลผู้พิทักษ์เพียง 2 ตระกูลที่ถูกร้อยเผ่าพันธุ์โจมตีเท่านั้น ยังมีนิกายเฉินเซียว นิกายโพเทียน สำนักธูปสวรรค์ และตระกูลโม่หยวน อย่างไรก็ตาม ร้อยเผ่าพันธุ์เข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์กลางได้ทั้งหมดยกเว้นของสำนักดาบทรราชที่ขับไล่พวกเขาไปได้ ขนสัตว์อสูรของพวกเขาถูกขโมยไป และพวกเขาก็สูญเสียอย่างมาก

ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหยางจิและนิกายโพเทียนทั้งหมดได้รับผลกระทบซึ่งยากที่จะฟื้นฟูได้เนื่องจากที่พวกเขาใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายเฉินเซียว สำนักธูปสวรรค์ และตระกูลเผ่าโม่หยวนทั้งหมดถูกหยุดยั้งก่อนที่พวกเขาจะไปถึงเขตหวงห้ามได้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ป้องกันตัวเองโดยใช้โถงศักดิ์สิทธิ์ ในท้ายที่สุด เซียนราชาผู้บุกรุกก็ฝ่าโถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดตกอยู่ในอันตราย เซียนราชาใช้ทักษะลับเพื่อหนีออกไปจากวงล้อมของโถงทั้งสิบแปดได้ในที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ