เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 253

ตอนที่ 253: ความยิ่งใหญ่ของทักษะการต่อสู้

หนึ่งในสามเซียนผู้เชี่ยนชาญพิเศษ เต้าคังก็หัวเราะออกมาทันที “นายน้อยของตระกูลเซีย ได้โปรดรอสักพัก พวกเราได้ไปแจ้งเจี้ยนเฉินแล้ว”

“หืม ข้าไม่คิดว่าจะมีชายในเมืองเล็ก ๆ นี้ที่กล้าบังคับให้ตระกูลเซียของพวกเราต้องรอ ท่านลุงลุย สั่งสอนคนพวกนี้ให้รู้เลยว่าฟ้าดินมันต่างกันเพียงใด ! ” ชายหนุ่มในรถม้าสั่ง

หนึ่งในชายที่นั่งอยู่บนหลังสัตว์อสูรระดับ 3 กระโจนออกมาด้วยตาที่เป็นประกายอย่างอันตราย เขาลอยอยู่ไป 10 เมตรกลางอากาศไปตรงที่ไค่เอ้ออยู่และเตะไปที่หัวของไค่เอ้อ

ไค่เอ้อเหยียดก่อนที่จะรวบรวมพลังเซียนไว้อยู่ในมือของเขาก่อนที่จะรับลูกเตะด้วยมือที่เสริมพลังเซียนของเขา

“ปัง ปัง ปัง….”

เสียงดังตามมา ไค่เอ้อและชายวัยกลางคนปะทะกันก่อนที่ชายคนนั้นจะร่อนลงที่พื้น ไค่เอ้อถอยหลังไปเล็กน้อยในขณะที่มือของเขาเริ่มเป็นสีแดง ในอีกมุมหนึ่งนั้น ชายวัยกลางคนยังคงเหมือนเดิม

พวกเขาทั้งคู่เป็นจอมยุทธที่อยู่ในระดับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ความแตกต่างของทั้งสองก็คือชายวัยกลางคนนั้นได้อยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษแล้วซึ่งสูงกว่าระดับของไค่เอ้อมาก

ในตอนที่ชายวัยกลางคนร่อนลงบนพื้น เขาก็หัวเราะ “เจ้ามันกระจอกจริง ๆ ที่กล้าเทียบตระกูลเซียของพวกเราไว้อยู่ในระดับเดียวกับตระกูลไค่ของพวกเจ้า วันนี้จะเป็นวันที่ข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้กับพวกเจ้า” พลังเซียนสีฟ้าเริ่มที่จะมารวมในมือขวาของเขาทันทีก่อนที่จะกลายไปแส้ยาวเพรียวสีฟ้า ถ้าสังเกตดีดีจะเห็นว่ามีประกายริ้วน้ำอยู่ที่ผิวของแส้

“พลังเซียนธาตุน้ำ ! “

เมื่อได้เห็นแส้ยาวในมือของชายคนนั้น เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งสี่คนก็ตกใจ พลังเซียนที่มีธาตุเป็นอะไรที่หาพบได้ยากมากในเมืองเวค แต่ชายคนนี้ก็มีพลังเซียนธาตุน้ำ

ชายคนนั้นแกว่งแส้และสะบัดกลับหลังไปในอากาศทำให้เกิดเสียง “เพี้ยะ ! ” ออกมาก่อนที่จะสะบัดมันไปที่ไค่เอ้อ ในตอนที่แส้ลอยไปทางไค่เอ้อ แสงสีฟ้าจากแส้ก็กระจายออกทันทีและทำให้ทุกคนที่กำลังมองมันมึนงงในวิถีของแส้

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ไค่เอ้อก็ไม่กล้าที่จะดูถูกเขา และเขาก็เอาอาวุธเซียนของเขาออกมาเพื่อปะทะกับแส้ทันที

แส้นั้นอ่อนอย่างผิดธรรมชาติ ดังนั้นในตอนที่อาวุธทั้งสองปะทะกัน แส้ก็ขดรอบดาบเหมือนงูพิษที่กำลังจะรัด

ไค่เอ้อรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในการควบคุมอาวุธเซียนของเขาทันที แล้วเขาก็ตะโกนออกมาในขณะที่พลังเซียนก็กระเพื่อมออกมาจากดาบของเขาและเขาก็ฟันไปที่คนถือแส้

ชายวัยกลางคนเหยียดออกมาในขณะที่เขาดึงแส้ของเขากลับไป แส้เปลี่ยนจากเส้นอ่อน ๆ กลายเป็นเหมือนเหล็กแข็งที่ตรึงไค่เอ้อเอาไว้กลางอากาศ

ไค่เอ้อถูกแส้ตรึงรอบดาบเอาไว้อยู่ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวดาบของเขาได้

เมื่อเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวอาวุธเซียนของเขาได้ ไค่เอ้อก็ถูกทำให้ตกอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

“หืม ! ตระกูลเซียช่างหยาบคายเสียจริง” เต้าคังเหยียดออกมาจากด้านข้างก่อนที่จะเหวี่ยงอาวุธเซียนของเขาไปที่แส้

ชายวัยกลางคนเหยียดออกมาก่อนที่จะกระตุกแส้กลับไปด้วยการโบกมือธรรมดาธรรมดา แส้ลอยออกจากที่ที่เต้าคังเหวี่ยงอาวุธลงไปทันที

ในครั้งนี้ ชายคนนี้ไม่ได้เหวี่ยงให้แส้ไปพันรอบดาบของเต้าคัง กลับกับ แส้ได้กลายเป็นเหมือนอาวุธที่เป็นโลหะแข็งและกระแทกเข้าไปที่ด้านข้างของดาบของเต้าคัง

“แคร้ง ! “

เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น ดาบของเต้าคังถูกกระแทกกระเด็นไปทันที แม้แต่การจู่โจมอย่างกะทันหันของเขายังถูกลบล้างไปอย่างรวดเร็วด้วยแส้

ท่าทางของเต้าคังอึมครึมก่อนที่จะมองไปที่ชาร์คัสและฉิงเฟิงอย่างรวดเร็ว “เขาค่อนข้างแข็งแกร่ง มาช่วยกันเร็ว ! ” กับชายของตระกูลเซียที่มีพลังเซียนธาตุน้ำและเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษแล้วในระดับสูงสุดแล้ว ความแข็งแกร่งแบบนี้ไม่ใช่อะไรที่เต้าคังจะสามารถเผชิญหน้าด้วยตัวเองได้

ทั้งห้าคนไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยและโจมตีไปที่แส้พร้อม ๆ กัน

แส้ดูเล็กในตอนแรก แต่จู่ ๆ มันก็กลายขนาดเป็นเหมือนภูเขาใหญ่ ในตอนที่อาวุธของเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งห้าปะทะกับมัน เกิดการสั่นอย่างรุนแรงย้อนกลับไปที่แขนของพวกเขาและทำให้พวกเขาชามากจนพวกเขารู้สึกว่ากระดูกของพวกเขากำลังจะแตกออก อาวุธเซียนของพวกเขาร่วงลงไปบนพื้นในขณะที่พวกเขาถอยหลังไปหลายก้าว

แส้ไม่ได้หยุดเลยและโจมตีโดนพวกเขาทั้งหมดไปที่หน้าอกอย่างจัง

“เพี้ยะ ! “

เกิดเสียงดังตามมา เสื้อของเต้าคังและที่เหลือทั้งสี่คนขาดกระจายออกทันที เลือดพุ่งผ่านอากาศในขณะที่ร่างใหญ่ของพวกเขาลอยไปก่อนที่จะร่วงลงบนพื้น 5 เมตรห่างออกไป แต่ละคนคลานขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก

ในตอนแรก มันเหมือนว่าชัยชนะจะเป็นของเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งห้า แต่ด้วยทักษะการต่อสู้นี้ สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป พลังของทักษะการต่อสู้นั้นน่ากลัวจริง ๆ

ชายวัยกลางคนเหยียดหยามใส่ชายที่อยู่บนพื้น “ถึงขนาดทำให้ข้าใช้ทักษะการต่อสู้ได้ พวกเจ้าควรจะภูมิใจในเรื่องนี้ไปจนตายนะ วันนี้ ข้าจะฉีกขาของพวกเจ้าเพื่อระบายความโกรธของข้า” ชายวัยกลางคนยกแส้ขึ้นมาและกำลังจะสะบัดออกไปในตอนที่มีเสียงเรียกของออกมา

“หยุด ! ” เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธที่เกือบจะเหมือนคำรามดังออกมา

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ชายวัยกลางคนก็อดไม่ได้ที่จะหยุดมือของเขาก่อนที่จะหันไปเจอชายหนุ่มที่อายุประมาณ 20 ปีที่สวมเสื้อราคาถูกอยู่ ชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างหล่อเหลา ผิวของเขาขาวราวกับขนแกะจนผู้หญิงยังต้องอิจฉาและยากที่จะเชื่อได้ว่านี่คือสีผิวของคน ใบหน้าของเขาเหมือนจะทำให้หญิงทุกคนในโลกหลงไหลได้

เจี้ยนเฉินฝึกฝนบัญญัติดาบนภาตั้งแต่ที่เขาเกิด ดังนั้นทุก ๆ เซลล์ในร่างกายของเขาจึงแข็งแกร่ง ไม่มีสักครั้งที่เขาพยายมที่จะฝืนธรรมชาติในการเปลี่ยนแปลงร่างกาย บัญญัติดาบนภาเป็นเหตุที่ทำให้รูปร่างและลักษณะของเขาเป็นแบบนี้ มันได้พัฒนาเขามาอย่างสมบูรณ์และทำให้เขาหน้าตาดี ในตอนที่เขาอายุมากขึ้น เขาก็ฝึกฝนร่างกายของเขาและทำให้มันแข็งแกร่งขึ้น

“เจ้าเป็นใครกัน ! ” ชายวัยกลางคนจากตระกูลเซียถามอย่างเคร่งเครียดในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน

ท่าทางของเจี้ยนเฉินมืดมัวในขณะที่เขาพูดออกมา “ข้าเป็นคนที่พวกเจ้ากำลังตามหา เจี้ยนเฉิน” เขาไม่ได้ปกปิกจิตสังหารที่อยู่ในแววตาของเขาเลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ