เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 260

ตอนที่ 260: ปฏิบัติการลอบสังหาร

เจี้ยนเฉินตกใจและพยายามที่จะตั้งสติแล้วยิ้ม “ถ้าท่านพี่ฉิงหยุนอยากที่จะช่วยเหลือข้า ข้าก็ยินดีอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ข้าสับสนว่า ท่านไม่กลัวที่จะยั่วยุตระกูลเซียและสร้างปัญหาให้กับนิกายเทียนหัวอย่างนั้นหรือ ? “

“น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าอาจจะรู้เรื่องนี้แล้ว แม้ว่านิกายเทียนหัวของพวกเราและตระกูลเซียจะอยู่ห่างไกลกัน แต่ก็เคยมีความขัดแย้งระหว่างพวกเรา หลังจากนั้นศิษย์ของนิกายเทียนหัวก็หายไปอย่างลึกลับ พวกเราเดาว่าตระกูลเซียอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่พวกเราไม่เคยพบหลักฐานที่ชัดเจนในการกระทำนี้ พวกเราอยากจะกำจัดตระกูลเซีย แต่ถ้าพวกเราทำแบบนั้น นิกายเทียนหัวของพวกเราก็จะได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน ดังนั้นมันจึงจะดีที่สุดที่จะเก็บเรื่องเหล่านั้นไว้ก่อน ในตอนนี้ น้องเจี้ยนเฉินอยากจะสู้กับตระกูลเซีย พวกเราทั้งสามจะช่วยเจ้าอย่างเต็มที่” ฉิงหยุนพูดออกมา

“ฮ่าฮ่า แบบนั้นเองหรือ? ถ้างั้นข้าก็ต้องขอบคุณท่านทั้งสามมากที่ช่วยเหลือ” เจี้ยนเฉินหัวเราะอย่างมีความสุข เมื่อมีทั้งสามคนนี้ กำลังของพวกเขาคงเพิ่มขึ้นหลายเท่า

หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินและศิษย์ของนิกายเที้ยนหัวก็ไม่เสียเวลาพูดคุยต่อและขี่สัตว์อสูรออกไปไกลทันที

ในตอนนี้ก็เกือบที่จะถึงรุ่งสางของวันใหม่แล้ว ท้องฟ้ายังคงมืดอยู่เพราะว่ามีเมฆบดบังพระจันทร์อยู่เล็กน้อย ลึกเข้าไปในท้องฟ้า มีเสียงฟ้าร้องดังอยู่ไกล ๆ

ห่างจากเมืองเวคประมาณ 300 ไมล์ มีกระโจมหลายร้อยหลังกระจัดกระจายอยู่พร้อมกับกองไฟที่ลุกอยู่ กองไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนและเป็นประกายอย่างมีชีวิตชีวา

มีกลางจุดตั้งค่ายพักแรมมีธงใหญ่ที่โบกไสวอยู่ในอากาศที่ทุกคนสามารถเห็นสัญลักษณ์ “เซีย” บนมันได้

ในตอนนี้ กลุ่มใหญ่ได้ไปพักผ่อนแล้ว ดังนั้นจึงมีเพียงบางคนที่เดินตรวจตราไปมาระหว่างกระโจมในขณะที่คนที่เหลือกำลังใส่ดุ้นฟืนในกองไฟอยู่

“ปัง!”

เสียงฟ้าร้องดังขึ้นมาอย่างกะทันหันดังแสบหูไปทั้งค่ายพักแรมพร้อมกับแสงสว่างวาบ ทันใดนั้นเอง ทั้งค่ายก็สว่างเหมือนตอนกลางวัน

หลังจากนั้น ฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาจากท้องฟ้าและดับกองไฟทำให้ค่ายพักแรมตกอยู่ในความมืดมิดทันที ฝนที่ตกลงมาทำให้ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย

“โชคร้ายจริงที่พวกเราต้องมาเจอสภาพอากาศที่เลวร้ายแบบนี้” หนึ่งในคนที่ตรวจตราสบถออกมาในขณะที่เขาคลานเข้าไปในกระโจมเพื่อที่จะหลบฝน

ห่างออกไป 500 เมตร ร่างของชายหลายคนก็ซุ่มเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ โดยมีฝนและความมืดมิดคอยปิดบังร่างของพวกเขาอยู่ เสียงฝนช่วยกลบเสียงฝีเท้าของพวกเขาทำให้ไม่มีใครได้ยิน

นี่คือกลุ่มของเจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ ที่มาจากเมืองเวค

200 เมตรห่างออกไปจากค่ายพักแรม เจี้ยนเฉินและกลุ่มก็หยุด หลังจากที่คุยเกี่ยวกับแผนการสักพัก เจี้ยนเฉินก็ไปที่ค่ายพักแรมในขณะที่คนอื่นยังอยู่ที่เดิม

เจี้ยนเฉินหยุดที่กระโจมที่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะเข้าไปอย่างระมัดระวัง ข้างในกระโจมมืดมากจนเจี้ยนเฉินมองไม่เห็นมือของตัวเองที่อยู่ตรงหน้าเขา ดังนั้นจึงไม่มีใครเห็นร่างของเขา

เขาใช้จิตวิญญาณของเขาในการบอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนในกระโจม เขาสัมผัสได้ถึงชายสามคนที่กำลังหลับอยู่ด้านใน เขาไม่ลังเลและใช้กระบี่ของเขาแทงออกไปที่คนทั้งสามทันทีก่อนที่จะออกไป

เจี้ยนเฉินมั่นใจในเพลงกระบี่ของเขามาก ในการโจมตีทั้งสามนั้น เขาแทงไปที่คอของคนทั้งสามและฆ่าพวกเขาไปอย่างไร้เสียง

เมื่อรู้ว่าเจี้ยนเฉินอยู่ที่ไหนและกำลังจะทำอะไร หัวหน้าตระกูลก็คำรามออกมาดังก่อนที่จะเอาขวานยักษ์ออกมาและเหวี่ยงลงไปที่เขา

ในเวลาเดียวกัน เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งเจ็ดและชายทั้งสามจากนิกายเทียนหัวก็พุ่งมาที่ค่ายพักแรมทันทีจากที่อยู่ห่าง 200 เมตรออกไป

กระบี่วายุโปรยในมือของเจี้ยนเฉินเริ่มเปล่งแสงสีเงินราง ๆ ที่เห็นได้ชัดในยามค่ำคืน ปราณกระบี่เข้มข้นปริมาณเล็กน้อยเริ่มไหลออกมา คนที่อยู่ใกล้ ๆ เจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของมัน

ในตอนนี้ ทุกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็พุ่งเข้าไปที่เจี้ยนเฉินที่ยินอยู่ในกลุ่มและเริ่มฆ่าอย่างไม่สนใคร เจี้ยนเฉินหลบการโจมตีของหัวหน้าตระกูล และสังหารเซียนไปอีกสิบกว่าคนด้วยเพลงกระบี่ที่รวดเร็วของเขา แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษยังต้องระวังตัวเมื่อเผชิญหน้ากับเจี้ยนเฉิน เซียนธรรมดาไม่สามารถที่จะรับมือกับการโจมตีด้วยกระบี่ของเขาได้ ดังนั้น เซียนทุกคนจึงถูกแทงที่คอโดยที่ยังไม่ทันมีโอกาสได้ร้องออกมาเสียด้วยซ้ำ

เมื่อต้องสู้กับคนกลุ่มใหญ่พร้อมกับหัวหน้าตระกูลเช่นนี้ แต่มันก็ยังมีอุปสรรค์บางอย่างอีก ในความมืด เจี้ยนเฉินไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ข้อจำกัดนี้ก็เกิดขึ้นกับตระกูลเซียเช่นกัน พวกเขาไม่สามารถเห็นหรือคาดเดาการเคลื่อนไหวของเจี้ยนเฉินได้ นอกเหนือไปจากนั้น พวกเขาก็กลัวว่าจะไปโดนพวกเดียวกันอีก

เมื่อเห็นว่าคนในตระกูลล้มตายไปเรื่อย ๆ หัวใจของหัวหน้าตระกูลก็เต้นแรงในขณะที่เขาคำรามออกมา “ทุกคน หลีกทางไป ! “

หลังจากที่เขาสั่ง คนในตระกูลทุกคนก็กระจายตัวออกและปล่อยให้หัวหน้าตระกูลของพวกเขาสู้กับเจี้ยนเฉิน ในตอนที่ทุกคนเคลื่อนออกไป หัวหน้าตระกูลก็สามารถจับตำแหน่งของเจี้ยนเฉินได้ และเขาไม่ลังเลที่จะจามขวานไปที่หัวของเจี้ยนเฉินทันที

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นลมที่จู่ ๆ ก็พุ่งมาทางเขา สายตาของเจี้ยนเฉินก็เป็นประกายในขณะที่เขายกกระบี่วายุโปรยขึ้นมา ทันใดนั้นเอง แสงสีม่วง-ฟ้าก็ปรากฏออกมา ทำให้เจี้ยนเฉินกล้าที่จะเอากระบี่ออกมารับขวานของหัวหน้าตระกูล

เจี้ยนเฉินค่อนข้างคุ้นเคยกับปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าแล้ว ในตอนนี้เขาต้องการที่จะทดสอบว่าเขาสามารถที่จะทำลายอาวุธเซียนของเซียนปฐพีได้หรือไม่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ