เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 270

ตอนที่ 270: ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรขั้นสูง

“เราได้รับพิษจากอสรพิษทองริ้วเงิน เราไม่สามารถหนีได้ตอนนี้ ! ” ผู้บัญชาการคำราม เขาเลิกพยายามที่จะระงับพิษภายใน พลังเซียนของเซียนปฐพีระเบิดออกมาด้วยสีแดงที่ลุกเป็นไฟ ไฟที่ไหม้เกรียมพื้นหญ้าบางส่วนในบริเวณใกล้เคียงก็ถูกเผาจนเกือบหมดในทันที

ผู้บัญชาการอีกคนรู้ว่าการหลบหนีนั้นไม่น่าเป็นไปได้ในตอนนี้ ดังนั้นด้วยความมุ่งมั่นทำให้มีแสงสีฟ้าออกมาจากร่างของเขาเช่นกัน อากาศรอบ ๆ ทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขาเริ่มมีชีวิตชีวาเพราะมันเริ่มหมุนวนรอบตัวเขา

“ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสกระบี่ธาตุไฟของข้า” พลังเซียนธาตุไฟของผู้บัญชาการลุกโชน กระบี่ในมือของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที มันร้อนเหมือนเหล็กที่ถูกเผา ในขณะที่เขาโจมตีเจี้ยนเฉิน เปลวไฟอันแรงกล้าก็มาพร้อมกับน้ำหนักมหาศาล

กระบี่ของผู้บัญชาการอีกคนบินไปที่หน้าอกของเจี้ยนเฉินทันที เขาหวังที่จะให้มันแทงทะลุ กระบี่นั้นเร็วมากจนเจี้ยนเฉินแทบไม่มีความหวังที่จะหลบเลี่ยงได้

เมื่อต้องปะทะกับกระบี่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งสองนี้ กระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินยิงไปข้างหน้าทั้งสองข้างทันทีโดยมีปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าล้อมรอบมันไว้

“เคร้ง ! ” กระบี่วายุโปรยปะทะกับกระบี่ธาตุไฟของผู้บัญชาการ แต่ถึงแม้มันจะมีความแข็งของเหล็กและหิน มันก็ยังมีรอยบิ่นอีกครั้ง

เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าเลือดออกมาจากปากของเขาจากการระเบิดพลังของผู้บัญชาการ แม้ชายคนนี้จะเป็นเซียนปฐพี เขาก็ได้รับผลกระทบ

เซียนปฐพีที่มีไฟอยู่รอบตัวเขาเหมือนเกราะป้องกันร้องออกมาด้วยความตกใจอีกครั้ง เนื่องจากพลังเซียนเชื่อมโยงกับเขา ร่างกายของเขาจึงได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกัน กระบี่ของผู้บัญชาการธาตุลมได้แทงเข้ามาที่หน้าอกของเจี้ยนเฉินก่อนที่จะทะลุผ่านหลังของเขา

เจี้ยนเฉินคำรามออกมาด้วยความโกรธและเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดที่กำลังปะทุอยู่ในอก กระบี่วายุโปรยกระแทกกระบี่ของผู้บัญชาการธาตุไฟและเจาะทะลุหัวใจของผู้บัญชาการทันที หัวใจของผู้บัญชาการฉีกขาดเพราะปราณกระบี่อันแหลมคมในกระบี่วายุโปรย

หลังจากนั้นไม่นาน เจี้ยนเฉินก็ดึงกระบี่ออกมาทันที กระบี่วายุโปรยพุ่งไปหาผู้บัญชาการคนสุดท้ายที่เหลือพร้อมกับประกายสีม่วง-ฟ้า

ผู้บัญชาการแค่นเสียงออกมาด้วยความฉุนเฉียว เขาบิดกระบี่ที่อยู่ในหน้าอกของเจี้ยนเฉินเพื่อขยายบาดแผล ในเวลาเดียวกัน เขาก็ปล่อยพลังเซียนบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างของเจี้ยนเฉินเพื่อทำให้เขาบาดเจ็ดสาหัสมากขึ้นก่อนที่จะดึงกระบี่ออกมาและกระโดดไปข้างหลัง

เจี้ยนเฉินส่งเสียงฮึดฮัดแสดงความไม่พอใจขณะที่กระอักเลือดออกมาจากปาก พลังเซียนบริสุทธิ์ที่ถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายของเขารุนแรงมาก เมื่อมันต่อสู้กับพลังเซียนของตัวเขาเอง มันได้ทำลายพลังบางส่วนของเขาไปแล้วเพราะเขาไม่สามารถต่อต้านมันได้

ในขณะนี้ จิตวิญญาณกระบี่สีม่วง-ฟ้าที่อยู่ในเจี้ยนเฉินสั่น พลังเซียนบริสุทธิ์ที่บุกเข้ามาในร่างของเจี้ยนเฉินสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณกระบี่สอง จิตวิญญาณกระบี่ของเจี้ยนเฉินพุ่งไปข้างหน้าและกลืนกินพลังเซียนบริสุทธิ์ไปอย่างไร้ร่องรอย

ด้วยอันตรายที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย เจี้ยนเฉินก็ไม่ลังเลอีกต่อไปแล้วก็บินไปหาผู้บัญชาการ กระบี่วายุโปรยของเขากลายเป็นแสงสีเงินส่องไปข้างหน้า

พิษที่ไหลเวียนภายในผู้บัญชาการที่เหลืออยู่นั้นมีปริมาณถึงขั้นปลิดชีพของเขาได้ ใบหน้าของเขามืดมนอย่างผิดปกติ แต่เมื่อเขาเห็นว่าเจี้ยนเฉินยังคงสู้ไม่ปล่อยจนผู้บัญชาการอีกคนที่มีกำลังเท่ากันกับเขาถูกฆ่าตาย ความปรารถนาเพียงอย่างเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือหลบหนี

“ถ้ามันยังเป็นเช่นนี้ต่อไป มันไม่สำคัญว่าข้าจะฆ่าเขาก่อนหรือเขาฆ่าข้าก่อน แม้ว่าข้าจะฆ่าเขา พิษภายในร่างกายของข้าจะฆ่าข้าอย่างรวดเร็วอย่างไม่ต้องสงสัยและทุกอย่างจะไร้ประโยชน์ ข้าไม่มีทางปล่อยให้สายลับของอาณาจักรเกอซุนแทรกซึมเข้ามาในเขตแดนของเราและยึดแกนอสูรที่เรากำลังขนย้าย แม้ว่าข้าต้องตายข้าก็ไม่อยากตายอย่างไร้ค่า ฝ่าบาทจะต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ ! ” ผู้บัญชาการคิดกับตัวเอง เขารวบรวมพลังเซียนธาตุลมและบินออกไปด้วยความเร็วมากจนไม่สามารถมองเห็นร่องรอยของเขาได้ ด้วยวิธีนี้เจี้ยนเฉินจึงไม่สามารถไล่ตามเขาได้

หากเซียนปฐพีธาตุลมต้องการวิ่งหนี ความเร็วของเขาก็จะเหนือกว่าเจี้ยนเฉินอย่างแน่นอน

มีเซียนปฐพี 5 คนได้รับมอบหมายให้ขนย้ายแกนอสูร สี่คนถูกสังหารและคนที่เหลืออีกเพียงคนเดียวก็กำลังจะตาย

บาดแผลที่เขาได้รับจะทำให้เขาต้องตายในที่สุด เจี้ยนเฉินเดินไปที่ซากศพของผู้บัญชาการคนอื่น ๆ และยื่นมือออกไปคว้าเข็มขัดและแหวนมิติ จากนั้นเขาก็ลากร่างไปที่รถลาก เขารีบรวบรวมพวกเขาทั้งหมดไว้ที่เดียวกันโดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้

เมื่อมาถึงกล่องแรก เจี้ยนเฉินก็แกะผนึกก่อนที่จะเปิดฝาเพื่อดูสิ่งของภายใน ในกล่องเต็มไปด้วยแกนอสูรระดับ 1 และระดับ 2

หลังจากการดูดซับแกนอสูรทั้งหมด จิตวิญญาณกระบี่ในจุดตันเถียนของเจี้ยนเฉินก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทันที แสงอ่อนก่อนหน้านี้สว่างขึ้นอย่างกะทันหันในระดับความสว่างของหลอดไฟที่กะพริบเปิดและปิด

ในการเปลี่ยนแปลงนี้เจี้ยนเฉินรู้สึกดีใจมาก เมื่อลองใช้ปราณสีฟ้าและสีม่วง,เจี้ยนเฉินสามารถบอกได้ว่าคุณภาพของมันยิ่งสมบูรณ์ขึ้น

เจี้ยนเฉินเดินไปที่กล่องเหล็กขนาดใหญ่ที่มีความยาวประมาณ 4 เมตร เจี้ยนเฉินเปิดมันขึ้นมาเห็นแท่งเหล็กสีดำกว้างครึ่งเมตร รอบ ๆ แกนเหล็กนั้นเป็นฝ้ายเพื่อทำให้ภายในและภายนอกนุ่มขึ้น

เมื่อเห็นแท่งเหล็กที่คุ้นเคยเช่นนี้หัวใจของเจี้ยนเฉินจึงเต้นระทึก เขารีบเปิดกล่องเหล็กใกล้ ๆ และค้นพบว่าพวกเขายังมีวัตถุรูปทรงลึกลับต่าง ๆ ในบรรจุภัณฑ์ฝ้าย

เมื่อเห็นวัตถุเหล่านี้ ฉากที่เกิดขึ้นภายในใจของเจี้ยนเฉินทำให้เขาตกใจทันที ” นี่.. คือปืนใหญ่ผลึกแกนอสูร ! ” เจี้ยนเฉินเคยเห็นว่าปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรหน้าตาเป็นอย่างไรตั้งแต่อยู่ในเมืองเวค ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับมัน ดังนั้นเมื่อเขาเห็นชิ้นส่วนที่ห่อไว้ในกล่องเหล่านี้ เขาจึงรู้ว่ามันมีไว้สำหรับการสร้างปืนใหญ่ผลึกแกนอสูร

“ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรขั้นต้นในเมืองเวคยาวเพียง 2 เมตรและปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรขั้นกลางนั้นยาว 3 เมตร ชิ้นนี้มีความยาว 4 เมตรซึ่งจะต้องเป็นปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรขั้นสูง ! ” เมื่อมองไปที่ปืนใหญ่ เจี้ยนเฉินก็คาดเดาได้อย่างรวดเร็วว่าสิ่งเหล่านี้แข็งแกร่งกว่าสิ่งที่เขาเคยเห็น มันทำให้เขามีความสุขมาก

ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรขั้นสูงเป็นสิ่งที่เจี้ยนเฉินไม่เคยเห็นมาก่อน แต่จากสิ่งที่เขาเคยได้ยิน ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรขั้นสูงต้องใช้แกนอสูรระดับ 5 และสามารถยิงได้ไกลถึง 20 กิโลเมตร สิ่งเหล่านี้สามารถโจมตีและฆ่าเซียนปฐพีได้ มันเป็นอาวุธทำลายล้าง

ตราบใดที่มีปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรขั้นสูง เซียนขั้นต้นก็จะสามารถฆ่าเซียนปฐพีได้

หากมีปืนใหญ่จำนวนมากแล้ว การสังหารหมู่เซียนปฐพีก็เป็นไปได้

ดวงตาของเจี้ยนเฉินเริ่มร้อนแรงเมื่อเขามองดูสิ่งเหล่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงอาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นเจ้าของอาวุธที่มีความแข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ หากใครรุกรานเขา เขาก็จะสามารถใช้ปืนใหญ่เหล่านี้จากที่สูงถึง 20 กิโลเมตรเพื่อทำลายกองบัญชาการของพวกเขา