เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 297

ตอนที่ 297 การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่

เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินไม่ถูกโจมตีและกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แม้ว่าจะยิงลูกดอกหน้าไม้ออกไปก็ตาม ชายเหล่านั้นที่กำลังเติมลูกหน้าไม้อยู่ก็ขวัญหาย

“บ้าเอ้ย นี่มันเซียนปฐพี พวกเราออกไปจากที่นี่กัน ! ” หนึ่งในชายคนหนึ่งตะโกนใส่คนอื่น พวกเขาทิ้งหน้าไม้ทั้ง 3 อันและแยกกันไปคนละทิศคนละทางเพื่อที่จะให้เจี้ยนเฉินไม่สามารถจับพวกเขาได้พร้อม ๆ กันและเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตของพวกเขา

มีเพียงเซียนปฐพีเท่านั้นที่สามารถฝ่าห่าลูกดอกหน้าไม้เหล่านี้มาได้

เจี้ยนเฉินแค่นเสียงเย็นชาออกมา เขาเพ่งสมาธิไปที่ปราณกระบี่ของเขาเพื่อให้มันยืดออกมาจากนิ้วทั้งสองของเขา ปราณกระบี่พุ่งออกมาจากนิ้วของเขาและลอยไปที่หนึ่งในพวกนั้นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ก่อนที่จะทะลุผ่านคอพวกเขาเหลือไว้เพียงรู

เจี้ยนเฉินยิงปราณกระบี่ออกไปอีก 4 ครั้งไปที่ชายผู้ที่กำลังหลบหนีไป ในไม่ช้า ร่างของพวกเขาก็หล่นลงที่พื้น แล้วเจี้ยนเฉินก็เข้าไปสำรวจเข็มขัดมิติของพวกเขา

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็เก็บป้ายทั้งหมด 30 อันจากพวกเขาด้วยสีหน้าที่พึงพอใจ สำหรับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 5 คนที่สามารถเก็บป้ายมาได้ถึง 30 ป้ายก็นับเป็นงานที่ยากแล้วสำหรับพวกเขา พวกเขาสามารถฆ่าคนได้นับไม่ถ้วนในบริเวณนี้ด้วยหน้าไม้ โอกาสที่ทุกคนที่มีระดับต่ำกว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่จะรอดได้นั้นมีต่ำกว่าหนึ่งในร้อยเสียอีก

ในวันที่สอง เจี้ยนเฉินก็ผ่านทุ่งหญ้าไปได้และมาพบเข้ากับรอยเท้าของคนจำนวนมาก เจี้ยนเฉินมองไปตามรอยเท้าและคาดคะเนว่ากลุ่มนี้ต้องมีคนประมาณ 100 คนและไม่ใช่กลุ่มเล็ก ๆ

เจี้ยนเฉินตามรอยของพวกเขาไปมาถึงเทือกเขาที่ลาดชัน เทือกเขาแห้งแล้งและไม่มีแม้แต่ต้นหญ้า ยอดเขาดูาเหมือนกับดาบที่กระจายออกไปในท้องฟ้าสีคราม และมันดูอันตรายมากที่จะปีนขึ้นไป

เจี้ยนเฉินตรวจสอบดูร่องรอยอีกครั้ง และเริ่มปีนขึ้นไปบนเทือกเขา ในตอนที่เขาเริ่มปีน เจี้ยนเฉินก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ดังขึ้นมาราง ๆ จากที่ไกล ๆ

เจี้ยนเฉินสำรวจดูรอบ ๆ บริเวณและเห็นที่พักอาศัยหลายหลังในภูเขา แต่เขาก็ไม่เห็นว่าการต่อสู้เกิดขึ้นที่ไหน เสียงดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ ทำให้ยากมากที่จะบอกมาเสียงนั้นมาจากที่ไหน

เจี้ยนเฉินตั้งใจสังเกตสิ่งที่อยู่รอบ ๆ เขาต่อ ในที่สุด สายตาของเขาก็หยุดไปที่ยอดเขาสูง 50 เมตร เจี้ยนเฉินกระโจนไปที่นั่นทันที

ที่ยอดเขา เจี้ยนเฉินเห็นคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ห่างออกไป 5 กิโลเมตร ที่ด้านหน้าของกลุ่มหนึ่ง มีชายสวมเสื้อฟ้าผู้หนึ่งกำลังเคลื่อนไหวในกลุ่มศัตรูอย่างรวดเร็วจนแม้แต่ศัตรูก็แตะต้องเสื้อของเขาไม่ได้ แต่ละการโจมตีของเขาก็ทำให้ศัตรูล้มตายไปทีละคน

สายตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายหลายครั้งในขณะที่เขาดูคนพวกนั้นกำลังต่อสู้กันอยู่ ชายผู้นั้นดูเหมือนจะเป็นเซียนปฐพีธาตุลมกำลังฆ่าเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษหลายร้อยคนอย่างสบาย ๆ

การต่อสู้ดำเนินไปสักพักจนกระทั่งมีเพียงเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 20 คนที่ยังเหลืออยู่ คนที่รอดชีวิตรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่คู่มือของชายสวมชุดสีฟ้าและสูญเสียกำลังใจในการต่อสู้ไป พวกเขาโยนเข็มขัดมิติของตัวเองทิ้งแล้วหนีออกไปทุกทิศทุกทาง

แทนที่จะไล่ตามพวกนั้นไป เซียนปฐพีกลับเริ่มเก็บเข็มขัดมิติแล้วเอาป้ายทั้งหมดออกมาจากมัน

เจี้ยนเฉินกระโจนจากยอดเขาที่สูง 50 เมตรไปที่ชายผู้นั้นอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่ชายผู้นั้นจับได้ถึงการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินที่เข้ามาใกล้เขา ชายคนนี้ก็บอกได้ทันทีว่าคนที่กำลังเข้ามานี้เป็นจอมยุทธที่อยู่ในระดับสูง เมื่อรู้สึกได้อย่างนี้ชายคนนี้ก็เก็บป้ายไวมากขึ้น

เจี้ยนเฉินลระดับลงจากยอดของภูเขาอย่างรวดเร็วเพื่อไปที่ชายวัยกลางคนคนนี้ ในไม่กี่อึดใจ เขาก็เดินทางไปได้กว่า 5 กิโลเมตร และเขาก็แทงกระบี่ของเขาไปที่ชายคนนี้อย่างรวดเร็ว

ชายคนนี้เก็บป้ายจากเข็มขัดมิติยังไม่ทันหมด และเขาก็เอากระบี่ยาวออกมาและเสริมกำลังมันด้วยพลังเซียนธาตุลมก่อนที่จะฟันมันไปที่เจี้ยนเฉิน

อาวุธเซียนทั้งสองปะทะกันทำให้เกิดคลื่นกระแทกจากการปะทะ คลื่นกระแทกรุนแรงมากจนทำให้เกิดรอยแยกเป็นรูปใยแมงมุมที่ใต้เท้าของพวกเขา

แค่เพียงการโจมตีเดียว เท้าของเจี้ยนเฉินก็โจมตีออกไปที่ชายวัยกลางคน กระบี่วายุโปรยของเจี้ยนเฉินส่องแสงราง ๆ ในขณะที่เขาฟันไปที่ชายคนนั้น 3 ครั้ง

สายตาของชายคนนั้นเป็นประกายเคร่งเครียดก่อนที่เขาจะตะโกนออกมา “ช่างเป็นเพลงกระบี่ที่งดงามอะไรเช่นนี้ ! ” กระบี่ของเขาเปล่งแสงและป้องกันกระบี่ของเจี้ยนเฉินเอาไว้ ด้วยพลังเซียนธาตุลมของเขา ทำให้ความเร็วของชายคนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจี้ยนเฉินเลย

การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของนักสู้ทั้งสองและกระบี่ของพวกเขาทำให้หินและพื้นดินใกล้ใกล้แตกออก ในขณะที่ลมแรงก็กระจายออกมา

กระบี่ในมือของเจี้ยนเฉินเคลื่อนไหวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่วิถีกระบี่ของเขาก็แปลกขึ้นเรื่อย ๆ การเปลี่ยนแปลงในวิถีดาบที่รวดเร็วนี้ทำให้แม้แต่เซียนปฐพีธาตุลมรู้สึกเคร่งเครียดอย่างมาก ในขณะที่เขาป้องกันกระบี่ที่ทำให้เขาเสียเปรียบขึ้นทีละน้อย

ชายคนนี้กำกระบี่แน่นไว้ใกล้ ๆ เขา ในเวลาเพียงนิดเดียว ปราณกระบี่และกระบี่ของเขาก็ปะทะกันทำให้เกิดรูที่กลางกระบี่

ชายคนนั้นตัวสั่น ในขณะที่เขาครางออกมาจากลำคอและหน้าของเขาก็ขาวซีด

“ปะ เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ! ” ชายคนนี้ร้องออกมา ในขณะที่เขามองตาโตไปที่รูบนกระบี่ของเขาด้วยความเหลือเชื่อ

เจี้ยนเฉินไม่ได้หยุดเพื่อตอบเขา เขาแกว่งกระบี่ แล้วปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าก็พุ่งไปที่ชายผู้นั้นอีกครั้ง

ศัตรูของเขามองไปที่ปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าด้วยท่าทีตกตะลึง เขารู้ว่าในตอนนี้เขาไม่สามารถป้องกันมันและได้แต่หลบมันเท่านั้น

เจี้ยนเฉินพุ่งไปข้างหน้าและแทงกระบี่วายุโปรยของเขาไปที่ชายผู้นั้น ชายผู้นี้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เขายังมีทักษะการต่อสู้ถึง 2 อย่าง ทำให้เขารับมือได้ยาก ถ้าไม่ใช่เพราะปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้า เจี้ยนเฉินก็คงไม่มีความสามารถที่จะฆ่าเขาได้

ชายคนนั้นมองไปที่กระบี่ของเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่แหลมคม เขาเห็นแสงจางจางของปราณกระบี่สีม่วง-ฟ้าจากกระบี่ทันทีที่ปราณกระบี่ปะทะกับอาวุธเซียนของเขา เขารู้ว่าเขาสู้ไม่ได้ในตอนนี้ ชายคนนี้เริ่มที่จะหนีอย่างไม่ชักช้าและหายไปจากสายตาทันที

เมื่อเห็นว่าชายคนนี้กำลังจะหนี เจี้ยนเฉินจึงถอนหายใจออกมา ชายคนนี้เป็นเซียนปฐพีธาตุลม ถ้าเขาต้องการที่จะหนี เจี้ยนเฉินคงไม่สามารถที่จะจับเขาได้

เจี้ยนเฉินเสียดายในใจ ในตอนแรกเขาคิดว่าเขาคงจะได้กำไรอย่างงามจากชายคนนี้ที่แข็งแกร่งและรอบคอบมาก แต่ในตอนที่คู่ต่อสู้ของเขาเห็นปราณกระบี่ เขาก็หนีไปจากเจี้ยนเฉินทันทีอย่างหวาดกลัว

เจี้ยนเฉินมองไปที่ศพที่เหลืออย่างลังเลก่อนที่จะเลื่อนสายตาที่ไปเข็มขัดมิติที่เหลือ ทั้งหมดมีอยู่ 30 ป้าย ถ้าชายคนนั้นไม่ได้เอาป้ายที่เหลือไป มันคงจะมีมากกว่านี้อีกมาก

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็เดินทางไปที่ภูเขาเพื่อหาคนอื่นต่อ

“ปัง ! ” ทันใดนั้นเอง เสียงก็ดังขึ้นมาแต่ไกล ในขณะที่บอลเพลิงที่ปรากฎขึ้นมาจากที่ใดไม่รู้ก็กำลังพุ่งเข้ามาที่เจี้ยนเฉิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ